จริงๆ แล้วเราสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ในทุกๆ ประเทศทั่วทุกมุมโลก แต่จะดีกว่าไหมหากได้มีโอกาสไปเรียนภาษาที่อเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรที่พูดภาษาอังกฤษได้มากที่สุดในโลก มากยิ่งกว่าประเทศต้นกำเนิดภาษาอังกฤษอย่างประเทศอังกฤษหลายเท่าตัว

ทำไมคนอยากภาษาอังกฤษต้องเรียนภาษาที่อเมริกา

ถ้าถามว่าภาษาอะไรที่มีจำนวนคนพูดได้มากที่สุดในโลก ก็คงจะต้องยกตำแหน่งแชมป์ให้กับภาษาจีน แต่ถ้าจะถามว่าภาษาอะไรเป็นภาษาที่คนทั้งโลกสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างแท้จริง ก็ต้องยอมรับว่า คงจะเป็นภาษาอื่นใดอีกไม่ได้ นอกจากภาษาอังกฤษ ทำให้คนที่มองเห็นโอกาสทองที่จะได้รับ หากเขาหรือเธอสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมคนผู้คนถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกากันมากมายนัก เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกเสรี ที่พลิกโอกาส และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนมากมายให้ดีขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย ดาราฮอลลีวู้ดระดับตำนานหลายคน เคยเป็นคนธรรมดา ทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร ร้านค้า ร้านเสื้อผ้ามาก่อน แต่พอได้รับโอกาส ชีวิตพวกเขาก็เปลี่ยนไป จนกลายเป็นเซเลปคนดัง มีเงิน มีบ้าน มีรถ มีทุกอย่างที่อยากได้อย่างอู้ฟู่ดั่งเศรษฐี และเข้าไปนั่งในใจของแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลก เพียงเพราะว่าพวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ต่างจากนักแสดงในประเทศอื่นๆ ที่มีแฟนคลับน้อยกว่า เพราะภาษาอื่นนั้นไม่ได้มีบทบาทสำคัญต่อผู้คนมากเท่าภาษอังกฤษ

คอร์ส เรียนภาษาที่อเมริกา มีกี่ประเภท

หากใครสนใจเรียนภาษาที่อเมริกากับทาง GENT เรามีหลักสูตรการเรียนให้เลือกอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ แบบ General English และ แบบ Academic English

เรียนภาษาที่อเมริกา แบบ General English

ถ้าหากว่าน้องๆ อยากมาเรียนภาษาที่อเมริกา แต่พื้นฐานยังไม่ค่อยแน่น แต่อยากที่จะพัฒนาระดับภาษาอังกฤษให้ดีมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องรีบใช้คะแนนสอบภาษาอังกฤษแต่อย่างใด พี่ๆ ทีมงาน GENT ขอแนะนำว่า น้องๆ น่าจะเหมาะกับการเรียนภาษาที่อเมริกาในคอร์สแบบ General English หรือเป็นภาษาอังกฤษแบบทั่วๆ ไป ที่น้องสามารถนำไปใช้ได้จริงในการท่องเที่ยวหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะไปสั่งกาแฟ แล้วถ่ายรูปชิคๆ ตามแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ หรือว่าจะลองไปหาคนคุยด้วยในโบสถ์หรือสวนสาธารณะ เพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะคอร์สเรียนภาษาที่อเมริกา แบบ General English นั้นมีเนื้อหาที่ครบถ้วน เพียงพอที่จะปรับพื้นฐานให้น้องๆ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในชีวิตประจำว่าอย่างไร้รอยต่อ จะเดินทางก็สะดวก เพราะอ่านป้ายต่างๆ ได้ หืรอถ้าหลงทางก็สามารถเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือได้นั่นเอง

เรียนภาษาที่อเมริกา แบบ Academic English

ปกติแล้ว ไม่ค่อยมีใครเลือกเรียนภาษาที่อเมริกา แบบ Academic English นอกเสียจากจะเป็นน้องๆ ที่เพิ่งเรียนจบชั่นมัธยมปลาย หรือน้องๆ ที่จะมีเรียนต่อในระดับปริญญาโท แต่ภาษาอังกฤษยังอ่อนแอ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าคอร์สเรียนภาษาที่อเมริกา แบบ Academic English นั้นจะเน้นเนื้อหาทางด้านวิชาการค่อนข้างหนัก อย่างคำศัพท์บางคำที่ได้เรียนนี่แทบจะไม่สามารถหาโอกาสนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำเลย หากแต่จำเป็นอย่างยิ่งในการถกเถียงและแสวงหาความรู้เชิงวิชาการ หากต้องไปนำเสนองานต่อที่ประชุมนานาชาติ ก่อนตีพิมพ์วิทยานิพนธ์และเจอร์นอลลงในวารสารวิชาการเทียร์สูงๆ ที่เป็นที่ยอมรับ โดยบรรยากาศการเรียนภาษาที่อเมริกา แบบ Academic English นั้นค่อนข้างเข้มข้น คล้ายโรงเรียนกวดวิชาที่จะมาให้เทคนิคในการทำข้อสอบ เพื่อนำไปใช้ในการสอบแบบทดสอบมาตรฐานวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่าง TOEIC TOEFL IELTS หรือข้อสอบอื่นๆ ที่มีวิชาภาษาอังกฤษเกี่ยวข้องอย่าง SAT BMAT GMAT GRE และ GED

เรียนภาษาที่อเมริกา ส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่

สำหรับคอร์สเรียนภาษาที่อเมริกา ส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี โดยระยะเวลาที่ใช้ในการเรียนนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและพื้นฐานทางภาษาของผู้เรียน โดยปกติแล้ว หากน้องๆ มีพื้นฐานที่ดีมากๆ มาก่อน ก็อาจจะใช้เวลาเรียนเพื่ออุดรอยรั่วและขยายฐานความรู้ที่ 3 เดือน แต่คนส่วนใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่านั้น ที่ราวๆ 6 เดือน และถ้าหากว่าพื้นฐานอ่อนมากๆ ต้องมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่หมด ก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนนานถึง 1 ปี โดยค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนภาษาที่อเมริกา สามารถสอบถามข้อมูลโรงเรียนสอนภาษาที่อเมริกา โปรโมชั่น ค่าเล่าเรียนกับพี่ๆ ทีมงาน GENT ได้เลยที่ 088-885-9005

 เรียนภาษาที่อเมริกา ทํางานได้ไหม

มีนักเรียนที่สมัครเรียนภาษาที่อเมริกาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งสงสัยว่า หากตนมาเรียนภาษาที่อเมริกา จะสามารถทํางานได้ไหม ซึ่งคำตอบที่น้องๆ กำลังจะได้รับต่อจากนี้ไป อาจจะทำให้สะเทือนใจเล็กน้อย เพราะว่าถ้าพูดกันตามหลักกฎหมายแล้ว น้องๆ ไม่มีสิทธิ์ทำงาน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานพาร์ทไทม์เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ได้ หากน้องๆ เดินทางไปเรียนภาษาที่อเมริกาด้วยวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าท่องเที่ยว ยกเว้นว่าน้องๆ มีพาสปอร์ตพิเศษ และได้กรีนการ์ด หรือว่าเกิดที่สหรัฐอเมริกา หรือเพิ่งได้รับการเปลี่ยนสัญชาติจากการย้ายถิ่นฐานตามคนในครอบครัวไป ในเคสนี้ถึงสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นงานพิเศษที่ทางโรงเรียนหรือสถาบันภาษาที่น้องๆ ไปเรียนภาษาที่อเมริกานั้นมอบหมายให้ทำในวิทยาลัย เช่น เฝ้าห้องสมุด หรือใช้ช่วยเป็นผู้ช่วยอาจารย์แบบรายชั่วโมง ในกรณีนี้ถึงจะเรียกว่าสามารถทํางานได้อย่างถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากทำงานในส่วนของวิทยาลัยแบบนี้ เพราะว่าได้ค่าแรงน้อยกว่าการทำงานพาร์ทไทม์นอกรั้วโรงเรียนอยู่มากโข

สรุป

หากน้องๆ คิดว่าปิดเทอมเดือนตุลาที่กำลังจะมาถึงนี้ ยังไม่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี พี่ๆ ทีมงาน GENT ขอแนะนำเลยว่า หากปิดเทอมแล้วอยากเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ ต้องเรียนภาษาที่อเมริกา เพราะที่สหรัฐนั้นมีคนหลากหลายเชื้อชาติจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาที่นี่ น้องๆ จะได้สัมผัสถึงมิตรภาพจากผู้คนที่หลากหลาย และเห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่กลับสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้การเรียนภาษาที่อเมริกานั้น จะเรียนเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น น้องๆ จึงมีเวลาว่างช่วงบ่ายไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจได้ในทริปเดียว