หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"ยายแฟง" “คังคุไบ” เมืองไทย ผู้สร้าง รพ.กลาง แต่แรกใช้ชื่อ รพ.หญิงหาเงิน

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

ยายแฟง ผู้สร้าง รพ.กลาง
แต่แรกใช้ชื่อ รพ.หญิงหาเงิน
จาก “คังคุไบ” ถึง “ยายแฟง” แม่เล้าผู้ทรงอิทธิพล
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
——————————————
กระแสความนิยม “คังคุไบ” ภาพยนตร์ Gangubai Kathiawadi
หญิงแกร่งแห่งมุมไบ กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะการพูดถึงมุมมองการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมของอาชีพโสเภณีในอินเดียที่ควรได้รับเช่นเดียวกับคนทั่วไป ผ่านตัวละครอย่าง “คังคุไบ”
.
ชวนให้นึกถึง สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุครัตนโกสินทร์อีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เกิดมาในสังคมชั้นสูง แต่สามารถสร้างวัดให้คนกราบไหว้ และสร้างโรงพยาบาลให้กับโสเภณีเมื่อกว่า 100 ปีก่อน และสร้างคุณประโยชน์มาจนถึงทุกวันนี้
“ยายแฟง” เจ้าสำนักโสเภณีอันเลื่องชื่อแห่งย่านเยาวราช
.
ชื่อเสียง “โรงยายแฟง”
โด่งดังถึงขั้นมีคำกล่าวที่ว่า
“ยายฟักขายแกง
ยายแฟงขาย.....
ยายมีขายเหล้า”
นั่นอาจเป็นเพราะสำนักของยายแฟงนั้น ดูทันสมัยกว่าที่อื่นๆ ทั้งห้องหับของหญิงคณิกา ถูกตกแต่งให้งดงามราวกับห้องนอนของลูกสาวคหบดีเลยก็ว่าดี จนเป็นที่มาให้ชนชั้นสูงและเหล่าขุนนางนิยมมาใช้บริการที่นี่ และกลายเป็นจุดที่ทำให้ “ยายแฟง”
มีคอนเนคชั่นกว้างขวาง
เป็นที่รู้จักของผู้คนในเขตพระนคร และนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นยุครุ่งเรืองของอาชีพหญิงบริการ
.
ในปี พ.ศ. 2376 ยายแฟง ออกทุนสร้างวัดร่วมกับหญิงคณิกาอีกจำนวนหนึ่ง
บริเวณตรอกวัดโคก (ถ.พลับพลาไชย)
ชื่อวัดใหม่ยายแฟง
ที่ต่อมาเปลี่ยนเป็น
“วัดคณิกาผล”
ที่หวังนำเงินจากธุรกิจสีเทาแปรเปลี่ยนการสร้างกุศลใหญ่ หากแต่การสร้างวัด” นั้น ไม่ต่างกับการวัดบารมีในสายตาของคนยุคก่อน ที่มีแต่คนชั้นสูงและเหล่าขุนนางเสียส่วนใหญ่ การที่แม่เล้าจากสำนักโสเภณีสร้างวัดขึ้นมา จึงถือว่าเป็นเรื่องฮือฮาอย่างมาก แถวบัานเรึยก
“วัดพลัง”
—————————————————————
“ยายแฟง - ขรัวโต -
รัชกาลที่4”
ภาพสะท้อนอิทธิพลของ “ยายแฟง” บทบาทแม่เล้าเจ้าของสำนักโสเภณีกับบทบาทในสังคมไทย เห็นจะเป็นตอนงานสมโภชน์วัด เมื่อยายแฟงสามารถนิมนต์ขรัวโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พฺรหฺมรํสี) มาเทศน์ในวันฉลองวัด และยังสามารถนิมนต์ทูลกระหม่อมพระมาจากวัดบวรฯ(พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งทรงผนวช)
เพื่อหวังจะให้สรรเสริญคุณความดีของตน แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร
.
เมื่อขรัวโตเทศน์ยายแฟงว่า “เจ้าภาพทำบุญจากเงินที่ได้จากดอกผลซึ่งมีพื้นฐานจากสิ่งที่ผิด ย่อมจะได้บุญเพียงสลึงเฟื้องของเศษบุญเท่านั้น”
.
ขณะที่ทูลกระหม่อมพระ (รัชกาลที่4) สำทับขรัวโตในเวลาต่อมายืนยันใน สิ่งที่ขรัวโตเทศนาไว้ แถมยังลดระดับบุญที่ได้รับจากสลึงเฟื้อง ลงมาเหลือแค่ 2 ไพ ทำเอายายแฟงเสียหน้าเอามากๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือหลักฐานการมีอยู่ของหญิงคณิกาในฐานะบุคคลมีหน้าตาของสังคมสมัยนั้น
———————————————————-
“การขึ้นทะเบียน-เก็บภาษี ยุคเฟื่องฟูโสเภณีไทย”
แม้การเก็บภาษีเกี่ยวกับเรื่องอบายมุขจะถูกยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยเหตุเกี่ยวกับการธำรงค์พระศาสนา แต่ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีนโยบายเพิ่มรายได้ ด้วยการเพิ่มและปรับอัตรภาษีในหลายรายการ โดยเฉพาะเฉพาะภาษีฝิ่น และภาษีอาการพนัน ที่เกี่ยวกับการอบายมุขรวมอยู่ด้วย
ประกอบกับยุคนั้นกิจการโรงโสเภณีถือว่าเฟื่องฟูถึงขีดสุด และมีเกิดขึ้นแถบทุกตรอกถนน โดยมี “โรงยายแฟง” เป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้รัฐบาลเห็นมูลค่ารายได้ ก่อนขึ้นทะเบียนหญิงโสเภณีอย่างถูกต้อง พร้อมจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังใจความดังนี้
“หญิงนครโสเภณีต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการ ค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตราคา 12 บาท มีอายุ 3 เดือน” ว่ากันว่าในครั้งนี้สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมโสเภณีได้ถึง 50,000 บาท มากกว่าภาษีหลายชนิด สามารถนำเงินเข้าคลังได้มากโข ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีการปรับรูปแบบการเก็บภาษีโสเภณี อยู่ในหมวด “ภาษีบำรุงถนน” ที่จะมีการเก็บภาษีจากโสเภณี เช่น ค่าน้ำมัน (ส่องสว่างในห้อง) และค่าน้ำ (อาบน้ำให้ผิวผ่อง) เดือนละ 1-2 บาท เป็นต้น ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาไม่กี่รัชสมัย แต่อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นว่า อาชีพโสเภณีเป็นสิ่งที่คนเลี่ยงไม่ได้ และหากจัดการอย่างถูกต้อง ก็สามารถเป็นประโยชน์ในหลายมิติ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและภาคประชาชนเองก็ตาม
——————————————————————
“โรงพยาบาลหญิงหาเงิน” มรดกสุดท้ายของยายแฟง
การขึ้นทะเบียนโสเภณีและเก็บภาษีอย่างถูกต้อง อาจเปรียบเสมือนพัฒนาการของอาชีพโสเภณีที่สังคมไทยเริ่มเปิดกว้าง แต่ความจริงแล้วหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคณิกายังคงเป็นปัญหาไม่จบสิ้น ทั้งโรคเฉพาะทาง และการใช้สถานพยาบาลร่วมกับคนทั่วไปยังไม่เป็นที่ยอมรับ
“ยายแฟง”ในช่วงบั้นปลาย หญิงชราเห็นปัญหาและเข้าใจหัวอกของหญิงงามเมืองมาโดยตลอด จนกระทั่งตัดสินใจก่อตั้งโรงพยาบาลขึ้นในปี พ.ศ. 2440 ไว้สำหรับเป็นสวัสดิการรักษาคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ อยู่แถวถนนหลวง ไม่ไกลจากย่านสำเพ็งที่พวกเธอทำงานเท่าไหร่นัก “โรงพยาบาลหญิงหาเงิน” คือชื่อเรียกในยุคแรก ก่อนที่ในอีก 18 ปีต่อมา(พ.ศ. 2458) เริ่มมีประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จึงได้เป็นชื่อเป็น “โรงพยาบาลกลาง” ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุขในปัจจุบัน
——————————————————————
กาลเวลาเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อมีการออกพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค รัตนโกสินทรศก 127 หรือ พ.ศ. 2451 จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าฯให้ประกาศ พรบ.นี้กับหัวเมืองทุกมณฑลในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2456 จนถึงยุคจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้นำออก พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณีมาบังคับใช้แทนใน พ.ศ. 2503 มาจนถึงปัจจุบัน
.
จากยุคเฟื่องฟู สู่ยุคหลบซ่อน หากจะพูดว่าอาชีพสีเทานี้หมดไปคงไม่ใช่ แต่การเริ่มกลับมาพูดคุยสิทธิและสวัสดิการเช่นเดียวกับธุรกิจและการค้าแรงงานประเภทอื่นเริ่มมีการพูดถึงอย่างหลากหลายอีกครั้ง อย่างน้อยสิ่งที่ยายแฟงเคยทำก็พิสูจน์มาแล้วว่า “ศักดิ์ศรีของทุกคนเท่ากัน” แม้จะผ่านมากว่าร้อยปีก็ตาม

โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/groups/1430536690609179
เรียบเรียงโดย : ธนภัทร ติรางกูล
ขอบคุณภาพ :จาก Netflix
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
30 VOTES (5/5 จาก 6 คน)
VOTED: แหวนดอกไม้วงนั้น, สมศรี คณะราษฎร, zerotype, นายคำโดย คูชมไผ่, taewsa, ลูกสาวอบต
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนด่วน F-16 ไทยถล่มฐานเขมร ที่สตึงกัด ทหาร กัมพูชาเสียชีวิต 18 นายปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นายช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้งเปิดเหตุผล ทำไมเขมรถึงพยายามรุก บ้านหนองจาน ทั้งที่เป็นแผ่นดินไทย4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้งทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 334 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้านช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"เห็ดซิการ์ปีศาจ" รูปร่างเหมือนดอกไม้บาน หนึ่งในเห็ดที่ "หายาก" และ "แปลก" มากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง"ไพรเกสตูเลน" หน้าผาหินแบนสุดอลังการในนอร์เวย์“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยกแมงมุมกระโดดเลียนแบบมด ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมด
ตั้งกระทู้ใหม่