"ต้มยำน้ำใส"ต้นตำหรับ
เมืองไทยของเราอุดมไปด้วยสมุนไพร
สมุนไพรส่วนหนึ่งถูกนำมาประกอบอาหาร
มีสรรพคุณทางยา และ ดับกลิ่นคาว
ของเนื้อสัตว์ได้ดี " ต้มยำ " จึงเป็นที่
นิยมกันไป โด่งดังไปทั่วโลก จนได้รับ
10 อาหารไทยที่ติดอันดับโลกจาก cnn
> ต้มยำ สูตรโบราณดั้งเดินะคือ น้ำใส
ประกอบด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
หอมแดงไทย ต่อมาอิทธิพลจากจีน
จึงเพิ่ม กระเทียม รากผักชี เพื่อให้มีกลิ่น
หอมมากขึ้น
> เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาทำ " ต้มยำ "
- อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก
- หมู ไก่ กบ ตามท้องถิ่นของไทย
> ผักที่นิยมใส่ใน " ต้มยำ "
เพื่อเพิ่มคุณค่า สารอาหาร ตามหลัก
โภชนาการให้มากขึ้นจึงเพิ่มผักลงไป
อาทิ มะเขือเทศ สายพันธุ์ต่าง ๆ
ทำให้น้ำแกงสีสวย ชวนรับประทาน
หัวปลี กระหล่ำปลี ต้นหอม ผักชี
พริกขี้หนู เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า
ดิฉันเห็นบางจังหวัด ใส่ใบกะเพราด้วย
ต้มยำ ต้มโคล้ง ต้มแซ่บ อารมณ์นั้น
> เทคนิคการทำ " ต้มยำ "
ในกรณีทำรับประทานเอง หรือทำขาย
ให้ได้รสชาติเท่ากันทุกชามที่เสิร์ฟ
แนะนำให้ต้มน้ำสต๊อกต้มยำไว้เลย
..ส่วนประกอบ...มีดังนี้
1.เปลือกกุ้ง หัวกุ้ง ที่เอาขี้ถุงดำออกแล้ว
เอามาคั่วในกระทะเพื่อกลิ่นหอมขึ้น
2.ต้มน้ำพอเดือด ใส่ส่วนหัวกุ้งกับเปลือก
ที่คั่วจนหอมลงไปเคี่ยวเอาความหวาน
ความหอมจากเปลือกกุ้ง
3.เพิ่ม ข่าแก่ทุบ ตะไคร้ทุบ ใบมะกรูด
หอมแดง กระเทียม ลงไปในน้ำต้มเปลือก
กุ้ง เคี่ยวจนเดือดมีกลิ่นหอม
เพิ่มเกลือหยิบมือ ช่วยให้น้ำสต๊อก
กลมกล่อม พร้อมน้ำไปทำต้มยำได้ค่ะ
> " ขั้นตอนการทำ ..ต้มยำ.. "
1.เนื้อสัตว์ที่เราจะทำต้มยำ เช่น
กุ้ง ปลา ปู หอย หมู ไก่ ตามชอบ
2.น้ำสต็อกต้มยำที่เราเคี่ยวไว้จำได้นะค่ะ
ตักมาใช้เท่านี้จะต้มยำ 1 ชาม เสิร์ฟ
3.ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง
บุบพอแตก อย่างล่ะ 2-3แว่น หัว กลีบ
เพื่อให้ต้มยำยิ่งหอมชัดเจนมากขึ้น
4.เครื่องปรุง มะนาว น้ำปลา
5.ผักเสริม มะเขือเทศ เห็ดฟาง พริกขี้หนู
ต้นหอม ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง
...เริ่มต้มยำได้เลยค่ะ....
1.ตักน้ำสต็อกต้มยำ ใส่หม้อ สำหรับ 1 ชาม
ตั้งไฟจนเดือด
2.ใส่เนื้อสัตว์ลงไป น้ำต้องเดือดไม่เดือด
คาว ไม่อร่อยค่ะ ตามด้วยผักเสริม
มะเขือเทศ เห็ดฟาง ต้มจนเดือดปิดไฟ
3.ปรุงรสแนะนำให้ ปรุงนอกหม้อ
ใส่ชามประกอบด้วย มะนาว น้ำปลา
ได้รสชาติแซ่บ หอม สดใหม่กว่า
สามารถคุมรสชาติให้เท่ากันได้ด้วย
4.ตบแต่งด้วย ใบผักชี ต้นหอม พร้อม
รับประทานค่ะ
> ต้มยำ ง่ายๆ ก็สามารถสร้างอาชีพให้
กับเราได้นะค่ะ ถ้าเรารู้จักทำมาหากิน
เมนูที่นิยมไปทั่วโลกอย่างนี้ วัตถุดิบไม่มาก
มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย