สิวหัวช้าง
สิวหัวช้าง
สิวหัวช้างเป็นสิวประเภทหนึ่งในกลุ่มสิวอักเสบ โดยสิวหัวช้างเป็นสิวที่มีระดับการอักเสบรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับสิวประเภทอื่น สิวหัวช้างลักษณะที่โดดเด่นคือ เป็นตุ่มไตสีแดงที่บวมนูนออกมาจากใต้ชั้นผิวหนัง เนื่องจากการอักเสบของต่อมไขมันที่จับตัวรวมกัน ในระยะแรกสิวหัวช้างจะไม่มีหัวสิว และจะสร้างความเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้น
โดยทั่วไปสิวหัวช้างจะเกิดได้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ แต่สิวหัวช้างที่มักพบได้บ่อยจะได้แก่ สิวหัวช้างจมูก, สิวหัวช้างที่คาง และสิวหัวช้างที่แก้ม เป็นต้น สิวหัวช้างเป็นสิวที่ควรหลีกเลี่ยงการบีบอย่างยิ่ง เนื่องจากหนองของสิวจะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้สิวหัวช้างจะมีเนื้อสิวที่แข็งตัวที่ฝังลึกและจัดการได้ยาก มักที่จะทิ้งรอยแผลเป็นและหลุมสิวขนาดใหญ่ไว้ จึงต้องมีการระมัดระวังและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
สิวหัวช้าง เกิดจากอะไร
สิวหัวช้างมีสาเหตุการเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สาเหตุการเกิดก็จะมีความคล้ายคลึงกับสิวอักเสบทั่วไป โดยสาเหตุที่พบได้มากสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ปัจจัย ดังนี้
การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันที่มีแบคทีเรีย Propionibacterium acnes หรือ P.acnes เข้ามาเจริญเติบโตอยู่ภายในตุ่มสิว ซึ่งแบคทีเรียนี้จะมีการปล่อยเอนไซม์ที่ทำให้สิวหัได้รับการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น
นอกจากนี้เมื่อเกิดแบคทีเรียขึ้น ร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวเพื่อทำลายสิ่งแปลกปลอม จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ส่งผลให้สิวอักเสบมากขึ้นได้
ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นของเพศชายจะมีการหลั่งของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มากขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนนี้้เป็นฮอร์โมนเพศชายที่มีผลต่อการเกิดสิวมากที่สุด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสิวหัวช้างจะพบได้มากในผู้ชาย โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น เนื่องจากในช่วงวัยนี้ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมากที่สุด นอกจากนี้วัยรุ่นเพศหญิงที่มีปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดสิวหัวช้างได้เช่นเดียวกัน
ความมันบนใบหน้า
สิวหัวช้างเกิดจากความมันบนใบหน้าจึงพบได้บ่อยกับผู้ที่มีสภาพผิวมัน เนื่องจากสภาพผิวมันต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าสภาพผิวอื่น ๆ รวมถึงความมันบนใบหน้าจะทำให้มลภาวะและเชื้อแบคทีเรีย P.Acne เกาะตัวกันในรูขุมขน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการอุดตันของสิว และอาจเกิดการอักเสบมากขึ้นจนกลายเป็นสิวหัวช้างได้
การดำเนินชีวิตประจำวัน
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวหัวช้าง เนื่องจากหลาย ๆ กิจกรรมเป็นการกระตุ้นให้สิวเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น
- การล้างหน้าไม่สะอาด จะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจนทำให้เกิดสิวหัวช้างตามมาได้
- การดื่มน้ำน้อย และพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้มีการผลิตน้ำมันมากขึ้น จนก่อให้เกิดการอุดตันและเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวช้างได้
- การใช้ผลิตภัณฑ์ผิวหน้าที่ไม่เหมาะสำหรับผิวเป็นสิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะมีให้เลือกสรรมากมายตามสภาพผิวที่แตกต่างกัน หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากไป ก็อาจจะทำให้เกิดสิวหัวช้างอักเสบตามมาได้
สิวหัวช้างรักษาอย่างไรไม่ให้เป็นรอยแผลเป็น
ล้างหน้าให้สะอาด
การล้างหน้าให้สะอาดจะช่วยลดการอุดตันและช่วยลดแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดสิวหัวช้างได้ หากล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดความแห้งตึงของผิวหลังการล้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผิวกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความมันส่วนเกินบนใบหน้า และเกิดการอุดตันภายในรูขุมขนมากขึ้นได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวหัวช้างและสิวประเภทอื่น ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้านับขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์ที่ "ลดโอกาสเกิดสิว" ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดจาก Bioderma ที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่จะช่วยจบทุกปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Sebium H2O คลีนซิ่งไมเซล่าวอเตอร์ สำหรับผิวผสมและผิวมัน จะช่วยให้สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด พร้อมคงความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงช่วยควบคุมความมันและทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- Sebium Gel Moussant เจลทำความสะอาดผิวหน้า ที่จะช่วยให้ล้างหน้าได้อย่างล้ำลึกและยังคงความอ่อนโยนต่อผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ช่วยลดความมันและแบคทีเรียบนใบหน้า ในขณะเดียวกันยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกด้วย
ไม่บีบเค้นสิว
หากบีบเค้นสิวหัวช้างให้เกิดการแตกออก จะทำให้สิวหัวช้างเกิดการแตกตัวต่อเพิ่มได้ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะทำการบีบเค้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสิวหัวช้างจะมีรากฝังลึกจึงมักสร้างแผลเป็นและหลุมสิวขนาดใหญ่บนใบหน้าได้ การรักษาสิวหัวช้างที่เหมาะสม คือ การปล่อยให้สิวเกิดการแก่ตัวและยุบตัวลงด้วยตัวเอง
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว
เมื่อเป็นสิวหัวช้างการบำรุงผิวหน้าเพื่อลดการอักเสบจึงเป็นทางเลือกที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดระยะเวลาให้สิวหัวช้างมีการอักเสบน้อยลงและไม่เกิดรอยแผลเป็น การเลือกผลิตภัณฑ์จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้สิวหัวช้างเกิดการอุดตันหรืออักเสบมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวเป็นสิวควรมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดสิว และช่วยลดการอักเสบของสิว นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ควรเป็นสูตร Oil-free ที่มีเนื้อเบาบาง สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย และมีความอ่อนโยนต่อผิว
เข้ารับการรักษาจากแพทย์ผิวหนัง
ปัญหาสิวหัวช้างอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่มีปัญหาสิวนี้อีกด้วย วิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนจากการแก้ปัญหาสิวหัวช้างไม่มีหัวรักษาได้โดยการเข้าพบแพทย์ เนื่องจากแพทย์จะมีความเข้าใจในปัญหาสิว พร้อมทั้งมีเทคนิคการรักษาที่เหมาะสม ปลอดภัย และไม่ทำให้สิวหัวช้างกลับมาเป็นซ้ำได้ในอนาคต
การใช้ยาทาภายนอก
สิวหัวช้างไม่มีหัวรักษาได้โดยการใช้ยาแต้มสิวประเภทผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากยาประเภทนี้จะช่วยให้หัวสิวเกิดการดันขึ้นมาเร็วมากขึ้น เนื่องจากยาแต้มสิวอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้อาจทำการทดสอบบริเวณใต้ท้องแขน 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3 วันก่อน เพื่อดูว่าผิวเกิดอาการแพ้หรือไม่
นอกจากการใช้ยาแต้มสิวยังสามารถใช้แผ่นแปะสิวร่วมด้วย เนื่องจากจะช่วยเร่งให้หัวสิวมีการสุกเร็วขึ้น และยังเป็นการป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่สิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากเกิดรอยแดงจากสิวหัวช้างสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด AHA เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวให้รอยแดงจางลง ควบคู่กับการใช้ Moisturizer เพื่อป้องกันผิวลอกเป็นขุยได้
สรุป
สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบที่มีการอักเสบอย่างรุนแรง ด้วยขนาดที่ใหญ่จนเป็นจุดสังเกต และความเจ็บจากการอักเสบ จึงเป็นสิวที่สร้างความเจ็บปวด และความไม่มั่นใจให้แก่ผู้เป็นได้อย่างมาก โดยสิวหัวช้างก็ยังมีวิธีการป้องกันที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาดของผิวหน้า และการดำเนินชีวิตให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เป็นโอกาสให้เกิดสิว
แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันบางอย่างก็เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง เช่น ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง แม้จะเป็ยสิวที่รุนแรงแต่หากเป็นสิวหัวช้างก็ย่อมสามารถรักษาให้หายโดยไม่สร้างรอยแผลเป็นได้ โดยการล้างหน้าให้สะอาด, ไม่บีบสิว, ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว, การรักษาจากหมอผิวหนัง และการใช้ยาทาภายนอก
การล้างหน้าให้สะอาดนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวที่เป็นสิวหัวช้าง เนื่องจากเป็นการชะล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ผิวสะอาดหมดจด ไม่เกิดการอุดตัน และพร้อมที่จะทำการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป หากพูดถึงการทำความสะอาดผิวหน้า ทาง Bioderma ได้มีผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการทำความสะอาด พร้อมมอบการบำรุงอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวแข็งแรง ลดการอักเสบและการเกิดสิวในอนาคตได้จาก 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
Sebium H2O คลีนซิ่งไบโอมิเมติก ไมเซล่าวอเตอร์สูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวผสม - ผิวมัน เป็นสิวง่าย โดยคลีนซิ่งนี้มีคุณสมบัติมากมาย เช่น
- ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกจากมลภาวะต่าง ๆ และยังคงความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยสารทำความสะอาด (PEG-6 CAPRYLIC/CAPRIC GLYCERIDES)
- ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว เนื่องจากส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เป็นน้ำบริสุทธิ์ ที่สะอาดเทียบเท่ากับน้ำเกรดทางการแพทย์
- มี Copper Zinc Complex ที่ช่วยลดความมันและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
- มี D.A.F Patent Natural Complex สารสกัดจากธรรมชาติซึ่งเป็นสิทธิบัตรที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น
Sebium Gel Moussant เจลล้างหน้าไมเซล่าสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวผสม - ผิวมัน เป็นสิวง่าย
โดยเจลล้างหน้านี้มีคุณสมบัติมากมาย เช่น
- ช่วยในการทำความสะอาดใบหน้าอย่างล้ำลึก แต่ยังคงความอ่อนโยนปราศจากพาราเบนและสารแต่งสีจึงเหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า และไม่ทำให้เกิดการอุดตันของสิว
- ยังปราศจากสารตึงผิว ทำให้หลังล้างหน้าผิวยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง และยังไม่ทำร้ายปราการปกป้องผิว ทำให้ผิวมีความแข็งแรง
- มีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบของสิว รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดสิวขึ้นใหม่