กินคอลลาเจนให้เห็นผล ต้องรู้ 7 ข้อ!!

วิธีกินคอลลาเจนโดยไม่เสียเงินเปล่า
1.การเลือกชนิดของคอลลาเจน
ควรเลือกเป็นชนิดไฮโดรไลซ์คอลลาเจน มีอีกชื่อหนึ่งคือ คอลลาเจนเปปไทด์ โดยปกติแล้วโครงสร้างของคอลลาเจนจะมีลักษณะเกลียวพันกันสามสายและพันทับกันอีกหลายๆชั้น แต่ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนหรือ คอลลาเจนเปปไทด์จะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ถูกย่อยสลายพันธะมาแล้วบางส่วน จึงทำให้ร่างกายย่อยและดูดซึมนำไปใช้ได้ดีขึ้น
2.ควรรับประทานคู่กับวิตามินซี
เพราะว่าวิตามินซีเป็นสารที่ก่อให้เกิดพันธะระหว่างกรดอะมิโน ที่สำคัญคือ กรดอะมิโนคือหน่วยย่อยของโปรตีน ซึ่งเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกายประกอบไปด้วยโปรตีนทั้งนั้น ซึ่งการรับประทานวิตามินซีคู่กับคอลลาเจนจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินซีที่ว่านี้จะทานเป็นวิตามินซีตามธรรมชาติก็ได้จากอาหารต่างๆ เช่น มะขามป้อมซึ่งมีวิตามินซีสูงที่สุด ฝรั่ง พริกหยวกสีต่างๆ กะหล่ำปลีเคล กะหล่ำปลีดาว หรืออาจจะทานคอลลาเจนคู่กับวิตามินซีสังเคราะห์ก็ได้(แต่วิตามินซีสังเคราะห์ไม่ควรทานมากเกินไปนานๆ มีความเสี่ยงเกิดนิ่วในไตมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า)
3.ดื่มน้ำตามเยอะๆ
เพราะคอลลาเจนจำเป็นต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลายและช่วยในการดูดซึมจึงควรดื่มน้ำตามเยอะๆ หลังจากทานคอลลาเจนจะได้เสริมฤทธิ์กัน ผิวจะชุ่มชื้นไม่ขาดน้ำ กินคอลลาเจนเข้าไปจะเห็นผลเร็ว
4.ควรรับประทานคอลลาเจนในขณะที่ท้องว่าง
เพื่อให้ร่างกายย่อยและดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่มีอาหารไปขัดขวางการดูดซึม ช่วงที่ท้องว่างก่อนอาหาร 1 ชม. ถ้ารับประทานเป็นหลังอาหารควรจะหลังจากรับประทานอาหารแล้ว 2 ชม. ถ้าจะให้ดีรับประทานหลังอาหาร 3 ชม.
5.ปริมาณของคอลลาเจนที่ควรรับประทานต่อวัน
มีงานวิจัยที่เยอรมันได้ทำการทดลองในหญิงอายุ 35-65 ปี รับประทานคอลลาเจนวันละ 2500 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 4-8 สัปดาห์ พบว่าผู้ที่เข้าร่วมการทดลองมีผิวพรรณที่ยืดหยุ่นขึ้น ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้ถึง 7% - 20% แนะนำว่ารับประทานคอลลาเจนต่อวัน 2500มิลลิกรัม - 5000 มิลลิกรัม ก็เพียงพอแล้ว
6.ควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ
หากรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอปริมาณของคอลลาเจนที่ผิวหนังจะลดลงมากกว่าบริเวณอื่นๆ
7.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายคอลลาเจน
เช่น การสูบบุหรี่ การถูกรังสียูวี การกินอาหารทอดหรืออาหารหวานมากเกินไป เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะเร่งให้ผิวทำลายคอลลาเจนมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณ พยาบาลแม่จ๋า
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป