เริ่มดูแลตัวเองให้หัวใจแข็งแรง และพร้อมเผชิญกับปัญหาต่างๆ
นานเท่าไรแล้วที่เราละเลยการดูแลตัวเอง หรือไม่ได้ใส่ใจตัวเราเองมากนัก และผลที่ตามมาก็คือ สุขภาพร่างกายทรุดโทรมก่อนวัย ทั้งที่ในช่วงอายุของเรา ร่างกายควรจะยังมีความแข็งแรง แต่กลับตรงกันข้าม ปัญหานั้นมักจะเกิดจากการสะสมของความเครียดและการใช้ชีวิตที่ประมาทเกินไป เช่น เราดื่มแอลกฮอลมากเกินไป ซึ่งแอลกฮอลนั้นทำให้ระบบร่างกายภายในแย่ลง อีกทั้งยังส่งผลต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวแห้ง และขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ริ้วร้อยและดูแก่เกินวัย เราลองสังเกตได้จากคนที่ชอบปาร์ตี้ดื่มหนัก หน้าตาจะดูโทรมกว่าคนที่ใช้ชีวิตปกติ
ส่วนในเรื่องสุขภาพภายในนั้น สิ่งสำคัญของร่างกายที่เราควรตระหนักคือ การทำงานของหัวใจ เพราะหัวใจคือศูนย์กลางในเรื่องระบบหายใจ หากหัวใจเราแข็งแรงเราถือได้ว่ามีสุขภาพแข็งแรง ทำกิจกรรมอันใดก็สามารถทได้อย่างเต็มที่เต็มประสิทธิภาพ หากมีอาการที่ผิดปกติอย่างใจสั่น หรือหายใจไม่สะดวก เจ็บหน้าอกบริเวณหัวใจ อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติ เราจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา ซึ่งเว็บไซต์ posttoday ได้แชร์บทความไว้ว่า วใจเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีจากสาเหตุการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เต็มไปด้วยคอเลสเตอรอล สภาพสังคมที่บีบให้คนต้องดิ้นรนจนเกิดความเครียด เป็นองค์ประกอบแห่งการก่อให้เกิดโรคหัวใจอย่างครบถ้วน ดังนั้น การฟิตร่ายกายเพื่อให้หัวใจกลับมาทำงานแข็งแรงเป็นปกติ ก็จำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายแต่การออกกำลังกายแบบไหนบ้างละที่จะช่วยให้หัวใจแข็งแรงได้ชัดเจนที่สุด การออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจฟิตนั้น ควรเป็นการออกกำลังกายที่เรียกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้ ได้แก่ การออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน รำมวยจีน เป็นต้น โดยการออกกำลังกายประเภทนี้ควรทำเป็นประจำ ครั้งละ 30-60 นาที อย่างน้อย 3-5 วัน/สัปดาห์ หรือสามารถทำได้ทุกวันถ้าเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ได้มีการลงน้ำหนักกระแทกอย่างแรก เช่น การวิ่ง ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าต้องการให้หัวใจฟิตเต็มที่นั้น ต้องเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่วมด้วย (Strengthening exercise) หรืออาจเรียกง่ายๆ ว่าออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน กล่าวคือต้องออกกำลังกายแบบมีแรงต้านร่วมด้วย การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ แม้จะไม่มีผลทำให้หัวใจฟิตเพิ่มขึ้นเหมือนกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกก็ตาม แต่การทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายแข็งแรงขึ้นจะส่งผลให้การทำงานของร่างกายโดยรวมดีขึ้น ผลที่ตามมาคือหัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านควรทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยออกกำลังกลุ่มกล้ามเนื้อหลายๆ มัด เช่น แขน ขา หลัง หน้าท้อง เป็นต้น ที่สำคัญคือ ต้องทำอย่างถูกหลัก เช่นการยกเวตเทรนนิ่ง เป็นประจำอาจจะไม่ได้ถึงกับเล่นกล้าม แต่พอให้กล้ามเนื้อโดยรวมมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
สัตว์กินพืชที่อันตรายที่สุด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ปู่และหลานวัย 3 เดือน ถูกสุนัขพิตบูล 7 ตัวรุมกัด ดับคาบ้านที่อเมริกา
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!