อยากสวยต้องอ่าน! การฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม? การเสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด มีวิธีไหนบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่กลัวการผ่าตัดแต่อยากจะเสริมจมูกให้โด่งสวย แต่ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์จมูกมีอีกหลายเรื่องที่เราควรรู้ก่อน เช่น ความเสี่ยงจากการฉีด filler มีอะไรบ้าง ทำแล้วจะคุ้มค่าไหม วันนี้เรามีคำแนะนำจากแพทย์มาฝากแก่ผู้อ่านทุกท่านค่ะ
อยากเสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด เลือกฉีดฟิลเลอร์จมูก ดีไหม?
หลายคนที่อยากฉีดจมูกแต่ยังกังวลอยู่ว่า การฉีดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม? อันที่จริงแล้วหากเราเลือกเสริมจมูด้วยวิธีการผ่าตัด ผลลัพธ์จะออกมาสวยงามและอยู่ได้นานกว่า แต่ในเคสที่คนไข้กลัวการผ่าตัดมาก ๆ และไม่มีเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมจมูก แพทย์จะแจ้งให้เราทราบถึงข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์จมูกก่อนตัดสินใจทำค่ะ
- คนที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกคือ คนที่มีแผนว่าในวันข้างหน้าจะไปผ่าตัดเสริมจมูก เพราะถ้าเกิดฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วแต่ภายหลังเกิดเปลี่ยนใจอยากจะผ่าตัดเสริมจมูกแบบถาวร เราจำเป็นต้องขูดกระดูกจมูกตามแนวที่จะวางแท่งซิลิโคนก่อนที่จะเสริมด้วยซิลิโคนเข้าไปใหม่ค่ะ
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ต้องพิจารณาจากฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ว่าเป็นยี่ห้อและรุ่นอะไร รวมถึงคนไข้ดูแลตนเองหลังทำมากน้อยเพียงใด ฟิลเลอร์จมูกจะไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวร
- ใครที่พอมีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว จะเหมาะที่จะฉีดฟิลเลอร์จมูก ซึ่งคนไข้ส่วนมากแค่อยากจะเพิ่มความคมตรงบริเวณปลายจมูก หรือเพิ่มสันจมูกอีกเพียงเล็กน้อย แบบไม่ได้อยากให้โด่งมากจนเห็นได้ชัดเจน
อีกทั้งยังจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์เป็นผู้ฉีดให้ด้วย เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้นอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงว่า เมื่อฉีดไปแล้ว filler อาจจะเข้าไปยังเส้นเลือดหรือเข้าตาได้
ตรงด้านข้างของบริเวณสันจมูกประกอบไปด้วยเส้นเลือดที่มีชื่อเรียกว่า “Dorsal nasal artery” โดยเชื่อมต่อเข้ากับลูกตา ในคนที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วเกิดตาบอด ส่วนมากมักมาจากสาเหตุที่ฉีดโดยหมอที่ขาดความรู้หรือความชำนาญ ทำให้ฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วไปโดนเข้ากับเส้นเลือดเส้นนี้ (ดังภาพข้างล่าง)
หากย้อนกลับไปดูข้อมูลสถิติในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาในเมืองไทยมีเคสที่พบปัญหาตาบอดจากการฉีดฟิลเลอร์จมูกด้วยกัน 8 ราย ซึ่งถือว่าเกิดขึ้นน้อยมาก หากเทียบกับเคสในช่วง 10 ปีที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกนับเป็นหมื่นรายค่ะ
อีกทั้งในปีหลัง ๆ คือช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าจะยังเจอเคสที่ฉีดโดนเส้นเลือดอยู่บ้าง แต่ไม่มีเคสคนไข้ที่ร้ายแรงถึงขั้นตาบอด เนื่องจากได้มีการพัฒนาเทคนิคการรักษาแก้ไขให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า และยังมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจนสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทดแทนการฉีดฟิลเลอร์จมูกได้ คือ เราสามารถเลือกทำหัตถการอย่าง การร้อยไหมจมูก ให้จมูกดูโด่งสวยขึ้นได้ค่ะ เหมาะสำหรับหลายคนที่อาจยังมีความกังวลใจอยู่ว่าฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วจะไปโดนเส้นเลือดจนตาบอด
ร้อยไหมจมูกจะปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์จมูก รวมถึงปัจจุบันนี้มีการร้อยไหมดีดปลายจมูกซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดอีกด้วย ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงามกว่าฉีดฟิลเลอร์ค่ะ
คนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว อยากเติมฟิลเลอร์ปลายจมูกเป็นทรงหยดน้ำได้หรือไม่?
คนไข้หลายคนมีฐานจมูกเดิมค่อนข้างโด่งอยู่แล้ว แต่อยากเติมปลายจมูกให้เป็นทรงหยดน้ำ หรือตกแต่งจมูกเพียงเล็กน้อยตามความเชื่อด้านโหงวเฮ้ง และชอบให้จมูกยังดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติอยู่ สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมปลายจมูกได้ค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว
อยากฉีดฟิลเลอร์จมูก แต่กลัวเจ็บ จะเจ็บมากไหม?
ไม่ต้องกลัวเรื่องความเจ็บค่ะ เพราะจะมีขั้นตอนการแปะยาชา และประคบเย็นก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก อีกทั้งมียาชาผสมอยู่ในตัวฟิลเลอร์ด้วย จะเจ็บบ้างก็ตอนที่นำเข็มเข้าไปแต่ก็มิได้เจ็บจนถึงขนาดทนไม่ได้ค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์จมูก ราคาเท่าไหร่?
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น Perlane lyft (นำเข้าจากสวีเดน) ราคา 13,000/ 1cc อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี คือฟิลเลอร์รุ่นที่แนะนำสำหรับการฉีดฟิลเลอร์จมูกค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกแล้วเกิดบวมย้อย และไม่เป็นสัน สาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?
หากใครที่มีอาการฟิลเลอร์ย้อย จมูกดูบวม ๆ ไม่เป็นสันคมอย่างที่คาดหวังไว้ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์จมูกไปแล้ว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น
(1.) การฉีดฟิลเลอร์ปลอม
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมก็คือ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งฟิลเลอร์ปลอมจะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา อย่างเช่น บวม แข็ง เป็นก้อน ไม่สามารถสลายไปได้เอง ใครที่ต้องการจะรักษาก็จะต้องให้คุณหมอผ่าตัดขูดเอา filler เก่าออกเท่านั้น นอกจากนี้ ฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถปั้นรูปทรงจมูกให้ขึ้นเป็นสันคมอย่างที่เราต้องการได้ด้วย
แพทย์จึงมักเตือนอยู่เสมอว่า ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งจะต้องมั่นใจว่าตัวยาที่จะฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ ประเภท Hyaluronic acid (HA) เท่านั้น จึงจะมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยไม่ต้องเสียเวลากลับมาแก้ไขจมูกในภายหลัง
(2.) เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ดีของแพทย์
สิ่งสำคัญที่เราควรพิจารณาในการเลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกก็คือ ประสบการณ์และความชำนาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์ของคุณหมอ เพราะความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นจากการฉีดด้วยเทคนิคไม่ดีหรือไม่เหมาะสม ก็คืออาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวออกด้านข้าง ฉีดแล้วจมูกดูไม่เป็นสัน ทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่สวยอย่างที่คาดหวังไว้ ทำให้เราต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่ต้องกลับมาแก้ไขอีกในวันข้างหน้าค่ะ
(3.) เลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดจมูก
หากเราเลือกรุ่นหรือยี่ห้อของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมในการเติมจมูก ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่สวยอย่างที่คาดหวังไว้ก็เป็นได้ ในการฉีด filler ในบริเวณที่แตกต่างกัน ย่อมเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละรุ่นนั้นมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป กล่าวคือ
- ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน แพทย์แนะนำว่าเหมาะกับการเติมจุดที่มีการขยับบ่อย เช่น การฉีดเติมร่องแก้ม หรือเติมปากให้อวบอิ่มได้รูป ไม่เป็นก้อน
- ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วจะไม่บานออกและขึ้นเป็นสันสวย ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัตินี้จะเหมาะกับการฉีดจมูกได้ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
การขูดฟิลเลอร์จมูก อันตรายไหม ข้อเสียคืออะไรบ้าง?
ภาพนี้อธิบายถึงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ชิดกับผิวหนัง การขูดฟิลเลอร์ออกแพทย์จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากค่ะ
ในอนาคตข้างหน้าหากเราต้องการเปลี่ยนไปผ่าตัดเพื่อเสริมจมูกแทน หรือบางคนที่พบปัญหาจมูกบวมย้อยจากการที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาก่อน จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการให้คุณหมอขูดฟิลเลอร์จมูกออกเท่านั้นค่ะ
ทั้งนี้ ความเสี่ยงเราที่ควรทราบก่อนจะขูดฟิลเลอร์จมูกออกก็คือ อาจทำให้เกิดผิวไม่เรียบหลังขูด เนื่องจากถ้าขูดออกหมดก็อาจทำให้เนื้อดีโดนขูดออกไปด้วย แพทย์จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษการขูดฟิลเลอร์ที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งอาจจะมี filler บางส่วนที่ผสานกับเนื้อเยื่อ หรืออาจอยู่ชิดมาก ๆ กับผิวหนังด้านนอก
ฉีดฟิลเลอร์จมูก VS การร้อยไหมจมูก มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
สำหรับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน กลัวการผ่าตัด หรือไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัดเสริมจมูก จะเหมาะการฉีดฟิลเลอร์จมูกเนื่องจากมีข้อดีก็คือ หลังฉีดจะไม่บวมช้ำ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน ๆ หลังทำ หากแต่มีความเสี่ยงอยู่บ้างคือ ฟิลเลอร์จะเข้าเส้นเลือด หรือเข้าตาได้หากฉีดโดยคุณหมอที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ
รีวิวร้อยไหมจมูก 10 เส้น เน้นดีดปลายจมูก (ภาพหลังทำทันที)
หากพูดกันในด้านของความปลอดภัยนั้น การร้อยไหมจมูกจะปลอดภัยกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูกค่ะ เพราะ
- การร้อยไหมจมูกจะไม่ส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำ
- จมูกที่ได้จากการร้อยไหมจะออกมาดูเป็นสันได้คมชัดมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์
- การร้อยไหมจมูกไม่มีความเสี่ยงในเรื่องการฉีดแล้วไปเข้าเส้นเลือดเหมือนการฉีดฟิลเลอร์
ผลที่ได้จากการร้อยไหมจมูกจะสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปีครึ่ง – 2 ปีโดยประมาณ อีกทั้งหากเราเลือกใช้ไหมละลายชนิด pcl+plla รุ่นล่าสุดสำหรับร้อยไหมจมูก จะสามารถไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อจมูกขึ้นมาเองได้อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่อยากจมูกโด่งสวย ถ้าชอบจมูกโด่งเยอะ ๆ และอยู่ได้นาน เห็นผลคุ้มค่า จะเหมาะกับการผ่าตัดเสริมจมูก แต่ถ้าคนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนาน อยากเสริมจมูกขึ้นเพียงเล็กน้อย ชอบจมูกที่ดูเป็นธรรมชาติ การร้อยไหมจมูกก็เป็นทางเลือกที่ดีและมีความปลอดภัย ดังนั้น เราจึงควรพิจารณาถึงความต้องการของตัวเองเป็นหลัก
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
สัตว์กินพืชที่อันตรายที่สุด
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!




