ปลาแซลมอนจากฟาร์มนั้นเต็มไปด้วยพิษ กลับมาแชร์กันใหม่อีกแล้ว ไม่ใช่เรื่องจริง
เพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โพสต์เรื่องราว....
เรื่อง "ปลาแซลมอนจากฟาร์มนั้นเต็มไปด้วยพิษ" กลับมาแชร์กันใหม่อีกแล้ว ... ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ เป็นการบิดเบือนที่ทำให้คนหวาดกลัวเนื้อปลาแซลมอน ที่มาจากฟาร์มเลี้ยง ซึ่งจริงๆ แล้วมาตรฐานการผลิตนั้นสูงมาก และมีความปลอดภัยต่อการบริโภค ไม่แพ้ปลาซัลมอนที่ไล่จับจากธรรมชาติ (เผลอๆ จะปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ)
เนื้อหาที่แชร์กันนี้ พูดทำนองว่า "ปลาแซลมอนจากฟาร์ม น่าจะเป็นอาหารที่ปนเปื้อนพิษมากที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตกันขึ้นมา และมันไม่ได้มีสีส้มสวยงามน่ากินเช่นปลาตามธรรมชาติปกติ แต่เนื้อของมันเป็นสีเทา คนเลี้ยงเลยใส่สีเทียมลงไปในอาหารปลา คือสาร canthaxanthin ซึ่งมันมีส่วนที่เป็นเหตุให้สูญเสียการมองเห็นในมนุษย์ ฯลฯ"
ซึ่งไม่จริงนะครับ ปลาแซลมอนจากฟาร์มไม่ได้อันตรายอย่างที่ว่า แต่อย่างไร !
- การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนนั้น มีในหลายประเทศทางยุโรปเหนือ ซึ่งมีมาตรฐานการควบคุมการเลี้ยงตามกฎของอียูให้ออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติ ถูกตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎอียูทุก ๆ อย่าง รวมถึงการควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีต่าง ๆ ด้วย
- ซึ่งข้อดีของการเพาะเลี้ยง ก็คือลดการทำลายพันธุ์ปลาแซลมอนตามธรรมชาติ ที่นับวันจะมีจำนวนประชากรน้อยลงเรื่อยๆ ถ้ายังนิยมบริโภคกันขนาดนี้
- อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาแซลมอน ก็คล้าย ๆ กับอาหารสัตว์น้ำอื่น ๆ ไม่ได้ใส่สารอะไรที่อันตราย แต่เป็นสารอาหารต่างๆ ตามที่ปลาควรจะได้รับ
- เนื้อปลาแซลมอนจากฟาร์มไม่ได้เป็นสีเทาอย่างในรูป และที่เราซื้อหากันแล้วเห็นเป็นสีส้มนั้น ก็เป็นเพราะสารอาหารที่ผสมลงไปในอาหารปลา ที่ช่วยให้เนื้อปลาสีส้มเข้มขึ้น ไม่ใช่เพราะเอาเนื้อปลาไปย้อมสี .. ให้นึกภาพถึงอาหารเลี้ยงไก่ ที่ผสมสารอาหาร แล้วทำให้ไข่ของไก่มีไข่แดงที่สีเข้มขึ้น แต่ยังบริโภคได้โดยปลอดภัย
- กรณีของสาร แอสตาแซนทิน astaxanthin และ แคนทาแซนทิน canthaxanthin ที่พูดถึงนั้น ก็เป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ พวกแคโรทีนอยด์ อย่างที่เรากินในอย่างที่เรากินในแครอท ฟักทอง สารพวกนี้สกัดมาจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในธรรมชาติ (สาหร่าย ยีสต์ เปลือกกุ้งปู) ช่วยทำให้เนื้อของปลามีสีส้มมากขึ้น และไม่ได้ก่อมะเร็ง หรือเป็นอันตรายต่อการบริโภค (จริงๆ สารพวกนี้ ก็มีการเอาทำเป็นอาหารเสริม ขายกันด้วยซ้ำ)
- ในด้านความปลอดภัยต่อการบริโภคนั้น ก็จะมีองค์กรด้านคุ้มครองผู้บริโภคที่คอยตรวจสอบอยู่ อย่างเช่นในประเทศนอร์เวย์ก็จะมี คณะกรรมการวิทยาศาสตร์เพื่อความปลอดภัยทางอาหาร Norway's Scientific Committee for Food Safety (VKM) ที่คอยตรวจสอบความปลอดภัยของเนื้อปลาแซลมอนฟาร์ม และเคยรายงานว่า สารเคมีอย่าง พีซีบี PCB และ ไดออกซิน dioxin รวมถึงปริมาณของปรอท มีอยู่น้อยมาก เพราะปลาแซลมอนในฟาร์มเลี้ยงจะกินอาหารที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนและน้ำมันจากพืช ทำให้ลดการนำเอาใช้ปลาเล็กน้อยตามธรรมชาติมาเป็นอาหาร (ซึ่งปลาตามธรรมชาตินี้ กลับเป็นที่มาของสารพิษสะสมไว้ในตัว)
- ผลการตรวจของ VKM ยังระบุว่า เราสามารถกินปลาแซลมอนฟาร์ม ได้มากถึงสัปดาห์ละกิโล โดยไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และยังแนะนำด้วยว่า จริงๆแล้ว คนทั่วไปก็ควรจะกินปลาประมาณ 300 ถึง 450 กรัมต่อสัปดาห์ด้วยซ้ำ และแม้แต่ผู้หญิงท้อง ก็ทานได้
- เอาเข้าจริงๆ แล้ว ปลาแซลมอนที่จับจากธรรมชาตินั้น ยังมีความเสี่ยงในการพบพยาธิ "อะนิซาคิส" อยู่ในเนื้อปลา มากกว่าปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยงที่ควบคุมความสะอาดของอาหารปลา
- พยาธิตัวกลม อานิซาคิส Anisakis นี้ ซึ่งไม่ใช่พยาธิที่จะมาวางไข่เพิ่มจำนวนในร่างกายเรา แต่ก่อให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงได้ .. โดยมันมีสัตว์เจ้าบ้าน host เป็นพวกโลมา วาฬ แมวน้ำ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่อาศัยในทะเล ทำให้ปลาแซลมอนแถบขั้วโลกเหนือ อย่างในอลาสก้า มีพยาธินี้แพร่กระจายเยอะ
- ขณะที่ปลาแซลม่อนที่เรานำเข้ามานั้น มักมาจากประเทศนอร์เวย์ และประเทศอื่นๆ ในแถวทะเลเหนือ ซึ่งมีพยาธินี้ระบาดน้อยกว่ามาก เพราะไม่ค่อยมีโฮสต์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในทะเลแถวนั้นมากนัก ... และปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยง ก็จะกินอาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว ไม่ได้จะมีไข่หรือตัวอ่อนพยาธิปนเปื้อนมาด้วย
- อย่างไรก็ตาม ปรกติปลาแซลมอนที่เรากินกัน ก็มักจะผ่านการแช่แข็งระหว่างที่เดินทางมาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้ถึงมีพยาธิติดมา ก็จะตายหมดแน่ๆ จึงไม่มีประเด็นต้องกังวลเร่ื่องนี้ (ถ้าจะกังวล ก็เป็นเรื่องความสะอาด เรื่องเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อน ของร้านที่ทำขายมากกว่า)
สรุปสั้นๆ ว่า เนื้อปลาแซลมอนฟาร์มเลี้ยง ไม่ได้เป็นพิษ อย่างที่แชร์กันครับ