ทำไมคนเกาหลีถึงมีนามสกุลซ้ำกัน?
ทำไมคนเกาหลีถึงมีนามสกุลซ้ำกัน?
ทุกคนเคยสงสัยมั้ยคะว่าที่คนเกาหลีเค้ามีนามสกุลที่ซ้ำกันเนี่ย
เค้าเป็นญาติห่าง ๆ กันหรือเปล่านะ? ต้องบอกเลยว่า "ไม่ได้เป็นญาติกัน
" ค่ะ เรียกได้ว่าบางคนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำค่ะ แต่ก็เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนเกาหลีว่านามสกุลที่โหลที่สุดก็คือ "คิม, อี, พัค" นั่นเองค่ะ
จากการสำรวจสำมะโนประชากรของเกาหลีใต้ในปี 2015 นามสกุล 5 อันดับแรกในเกาหลีใต้
ได้แก่ คิม (21%), อี (14.3%), พัค (8.2%), ชเว (4.6%) และ จอง (4.2%) นั่นเองค่ะ ซึ่ง 5 นามสกุลนี้
เมื่อนำมารวมกันก็จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของประชากรทั้งหมดของเกาหลีใต้เลยล่ะค่ะ
แล้วทำไม 5 นามสกุลนี้ถึงมีสัดส่วนที่เยอะขนาดนี้กันนะ? ไปดูกันค่ะ!
ในเกาหลีมีคำกล่าวที่ว่า "ถ้าใช้ก้อนหินขว้างไปในย่านนัมซาน หินจะต้องโดนคนที่มีนามสกุล 'คิม, พัค, อี' อย่างแน่นอน
(남산에서돌던지면 '김, 박, 이' 중에서 맞는다)"
เป็นประโยคความนัยที่จะสื่อว่าที่เกาหลีมีคนนามสกุล 'คิม, พัค, อี' เยอะมาก ๆ เลยนั่นเองค่ะ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าความจริงแล้วแต่เดิมชาวเกาหลีไม่มีนามสกุลค่ะ แต่ในช่วงสามก๊ก
อาณาจักรโกรยอกกก็ค่อย ๆ ยอมรับวิธีการตั้งนามสกุลตามประเทศจีน โดยจะเริ่มใช้จากขุนนางก่อนประชาชนทั่วไปค่ะ เนื่องจากพวกเขาคิดว่าการที่มีนามสกุลเหมือนคนจีนนั้นจะทำให้มีเกียรติมากขึ้น
ดังนั้นนามสกุลจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกและการเล่นพรรคเล่นพวกในเวลาต่อมาค่ะ
และเนื่องจากอิทธิพลของวัฒนธรรมจีน นามสกุลของชาวเกาหลีจึงคล้ายกับภาษาจีนนั่นเองค่ะ
นามสกุลของชาวเกาหลีจะแบ่งออกเป็นนามสกุลเดี่ยวและนามสกุลคู่ ซึ่งนามสกุลเดี่ยวที่พบมากที่สุด ได้แก่ คิม, อี, พัค, ชเว, จอง, จาง เป็นต้นค่ะ
เนื่องจากการมีนามสกุลจะเป็นสิทธิพิเศษอันดับแรกของราชวงศ์และขุนนางไม่กี่คน ส่วนประชาชนธรรมดา
ไม่ว่าจะทาส, พ่อค้า, หรือแม้แต่ช่างฝีมือและพระสงฆ์ก็ไม่สามารถมีนามสกุลได้ค่ะ อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะเพิ่มอำนาจและรวบรวมพรรคพวก
รวมถึงเพื่อดึงดูดคนที่มีตำแหน่งสูง ๆ หรือสำคัญ ๆ ทำให้บางครั้งทางราชวงศ์และขุนนางก็มีการมอบนามสกุลให้เช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ในปี ค.ศ.1047 ระบบการสอบเป็นขุนนางต่อหน้าจักรพรรดิได้ถูกนำมาใช้ เนื่องจากศาลของแผ่นดินต้องการให้โอกาสในการเลื่อนตำแหน่งสำหรับชนชั้นต่าง ๆ ของสังคม
ดังนั้นทุกคนที่เข้าร่วมการสอบเป็นขุนนางต่อหน้าจักรพรรดิจะต้องมีนามสกุลค่ะ เป็นเหตุผลที่ทำให้นามสกุลได้รับความนิยมมากขึ้นในเกาหลีนั่นเองค่ะ
ดังนั้นในเวลาต่อมา จึงไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือขุนนางเท่านั้นที่จะสามารถมีนามสกุลได้
สำหรับพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยก็จะใช้เงินเพื่อซื้อลำดับวงศ์ตระกูลของตระกูลชั้นสูงมาได้เช่นกันค่ะ ทำให้บางครั้งแม้จะไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ก็สามารถมีนาสกุลเดียวกันได้นั่นเอง
ในปีค.ศ.1894 เกาหลีได้ยกเลิกระบบชนชั้น โดยอนุญาตให้พลเรือนมีนามสกุลเป็นของตนเองได้ค่ะ คนที่มีฐานะทางสังคมต่ำกว่าก็มักจะเลือกใช้นามสกุลของคนที่มีฐานะทางสังคมสูงกว่านั่นเอง
และต่อมาในปี 1909 เกาหลีใต้ได้กำหนดให้ทุกคนต้องมีนามสกุลค่ะ ดังนั้นผู้คนจึงมักจะใช้นามสกุลของชนชั้นสูงที่มีอยู่แล้วจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปค่ะ
ซึ่งนามสกุล "อี" และ "คิม" ก็คือนามสกุลของราชวงศ์เกาหลีโบราณนั่นเองค่ะ ดังนั้นหลังจากได้รับอนุญาตให้สามารถมีนามสกุลได้
คนทั่วไปจึงรุมกันเลือกใช้ 2 นามสกุลนี้จนกลายเป็นว่าคนเกาหลีมีนามสกุลซ้ำกันมากมายเลยล่ะค่ะ
และเนื่องจากยังมีนามสกุลที่แตกต่างกันไม่มากในเกาหลีใต้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะรับประกันได้ว่าคนคนนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างกันค่ะ
ดังนั้นในช่วงปลายราชวงศ์โชซอนจึงห้ามไม่ให้แต่งงานกับคนที่มีนามสกุลเดียวกันอย่างเด็ดขาด จากนั้นกฎหมายนี้ก็ถูกผ่อนผันในปี 1997 และถูกยกเลิกไปในที่สุดค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับสาเหตุว่าทำไมคนเกาหลีถึงมีนามสกุลซ้ำกันเยอะมาก ๆ? ทุกคนคิดว่ามันน่าทึ่งใช่มั้ยล่ะคะ?
เพราะว่าถ้าเทียบกับประเทศไทยแล้วคนเกาหลีมีนามสกุลที่สั้นและเหมือนกันเยอะสุด ๆ จนน่าตกใจเลยละค่ะ!