เจมส์ตกเครื่องบินรอด!!ปฏิหารมีจริง
จากข่าวแตงโมรอปฏิหาร...
เราย้อนไป ปี 2541..เครื่องบินตกที่สุดราษฎร์ธานี
เจมส์รอด...
ซึ่งผ่านไป 20 ปี เจมส์ว่า
เรื่องคือก่อนเกิดเหตุประมาณสัก 2เดือน ผมได้รับรูปของสิ่งศักดิ์สิทธิ (ซึ่งผมขออนุญาตไม่พูดชื่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องงมงาย) ซึ่งผมนำมาวางไว้ที่บนตู้ใกล้เตียงนอน มีอยู่คืนหนึ่งขณะที่ผมนอนหลับ ตัวเองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก ลืมตามา สายตาก็จ้องไปที่รูปสิ่งศักดิ์สิทธินั้นโดยไม่รู้ตัว...
ผมเห็นสิ่งที่อยู่ในรูปเคลื่อนไหวมือขึ้นลง ผมพยายามขยี้ตาตัวเอง เพราะคิดว่าคงเป็นอาการเบลอของสายตา หรืออาการงัวเงียจากการทำงานหนักในช่วงนั้น... แต่สิ่งที่เห็นก็ยังเหมือนเดิม ที่เพิ่มและทำให้ผมกลัวคือ ผมรู้สึกว่ามือผมกำลังถูกทำให้ขยับตามท่าทางในรูป และเหมือนอยู่ในภวังค์ วันนั้นผมตกใจมาก แต่สักพักอาการทั้งหมดก็ค่อยๆหายไป จนผมสามารถนอนหลับได้ ผมเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่เล่าให้ใครฟังเลย เพราะผมเชื่อในวิทยาศาสตร์อย่าง100% เเละเชื่อว่ามันมีคำอธิบายในทางการแพทย์ของอาการเบลอ หรืออาการมองเห็นภาพแปลกๆ เฉกเช่นเดียวกับอาการผีอำ ที่มีคำอธิบายในทางการแพทย์...
เเต่จุดพีคสุดไม่ได้อยู่ตรงนั้นน่ะสิ...
วันที่เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก ผมตื่นขึ้นมาหลังจากสลบเพราะเครื่องกระแทกพื้นอย่างรุนแรงและเเตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้คนที่นั่งใกล้ๆผม อยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้..ในขณะที่ผมออกจากตัวเครื่อง เดินเข้าไปในป่าที่มืดจนรู้สึกกลัวจนต้องย้อนกลับมาที่คันดิน...นั่งรอสักพักจึงมีหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ...
ผมจำได้ว่าตอนที่อยู่หลังรถกู้ภัยผมอยากหลับ ในสถานการณ์น่ากลัว...แต่ผมกลับรู้สึกสบายหากได้หลับ หลับตาลงเมื่อไหร่จะเห็นแสงสีขาวๆเหมือนตัวเองลอยๆ แต่ในขณะที่ผมรู้สึกแบบนี้ ผมได้ยินเสียงเรียกใกล้หูพูดช้าๆว่า “ตื่น ตื่น” อยู่ตลอดเวลา ผมเข้าใจว่าเสียงนั่นน่าจะเป็นเสียงของกู้ภัย แต่ลืมตามากลับไม่เห็นใครกำลังพูด และไม่ได้อยู่ใกล้หูผมด้วย รวมถึงแอร์โฮสเตสที่อยู่ข้างๆผม (ทราบว่าปัจจุบันเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว จากอาการป่วยอย่างอื่น) เธอก็อยู่กับอาการบาดเจ็บของตัวเอง...ผมได้ยินเสียงนี้อยู่ 2-3ครั้ง ในขณะอยู่ท้ายรถกู้ภัย
ผ่านเวลาไป 2ปีหลังจากที่ผมหายจากการพักรักษาตัว
ผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย...จนวันนึง
มีรุ่นพี่ท่านนึงที่ผมเคารพโทรมาหาผม และบอกผมว่า
“คืนนั้น ท่านมาหาเจมส์จริงๆนะ “
“คืนไหนพี่?? “ ผมถาม
“คืนที่เจมส์มองรูปท่าน และท่านแสดงตัวให้เห็นน่ะ”
“ท่านช่วยเจมส์ไว้นะ...และจะคอยดูแลเจมส์อีกหลายปี”สิ้นประโยคนี้ ผมขนลุกซู่ และผมไม่พูดอะไรต่อ เพราะพูดไม่ออก รู้สึกพิศวงว่าพี่เขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ในใจก็เถียงว่าไม่จริง แต่ผมก็ยังหาคำอธิบายกับปรากฏการณ์นี้ไม่ได้ ด้วยความอยากรู้ผมจึงตัดสินใจ
ไปนั่งคุยกับรุ่นพี่ท่านนี้ สิ่งที่พีคที่สุดคือ
“ เขาพูดถึงคำว่า ตื่น ตื่น “ ซึ่งผมไม่เคยพูดที่ไหน ผมพูดเรื่องมีคนปลุกช่วงปีหลังๆนี่เอง และผมก็ไม่เคยพูดถึงเสียงปริศนานี้ ใครถามผมจะบอกว่าคนในรถปลุก เพราะไม่อยากให้เกิดกระเเสว่างมงาย... จากวันนั้นผ่านมา 20ปีพอดี รูปสิ่งศักดิ์สิทธิรูปนั้นยังอยู่ที่บ้านผม แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์น่าพิศวงแบบนั้นอีกเลย
หลายปีที่ผ่านมา มีหลายสำนักพูดถึงเหตุการณ์เครื่องบินตกและบอกว่าผมคล้ององค์นั้น องค์นี้ถึงรอด แต่ในความเป็นจริง วันนั้นผมไม่ได้คล้องอะไรเลยครับ ถ้าจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับความเหนือธรรมชาติ ก็คงมีแต่เรื่องรูปสิ่งศักดิ์สิทธิรูปนี้รูปเดียวครับ ...
สุดท้ายขออุทิศบุญกุศลไปถึงผู้ล่วงลับจากเหตุการณ์นี้
และคิดว่าทุกท่านคงไปสู่ภพภูมิที่ดีกันเรียบร้อยแล้ว
###เราหวังว่าแตงโมจะมีปฏิหาร...
ขอบคุณข้อมูลภาพ
ขอบคุณข้อมูลภาพ
ที่มา : เฟซบุ๊ค JamesRuangsak