ยิ่งแก่ยิ่งกินขมเก่งขึ้นจริงเหรอ?
ใครที่ปกติชอบทานขมอยู่แล้ว อาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนที่กินของขม ๆ ไม่เก่ง ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ ปกติเค้าว่ากันว่าคนแก่ ๆ ชอบทานของขม ๆ อย่างเช่นพวกมะระ หรือผักอะไรที่ว่าขม ทานได้หมด บางคนตอนเด็ก ๆ ตอนวัยรุ่นไม่ชอบทานของขม แต่พออายุเริ่มเยอะ อาหารที่เคยกินแบบขม กลับไม่ค่อยขมซะงั้น ยิ่งแก่ยิ่งกินขมได้เก่งจริงเหรอ?
คำตอบคือ ใช่ค่ะ เมื่ออายุมากขึ้น ต่อมรับรสบางอย่างทำงานแย่ลง รสที่เคยว่าเปรี้ยว กลับไม่ค่อยเปรี้ยว รสที่เคยว่าขมมาก กลับรู้สึกขมน้อยลง หรือไม่ขมเลย ทำให้เราสามารถกินเมนูขมๆ ที่เมื่อตอนสาว ๆ กินไม่ได้เลย เเต่ตอนนี้กลับกินได้มากขึ้นซะงั้น
ซึ่งเราทุกคนจะมีการยีนรับรสขมที่ชื่อว่า TAS2R38 ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชุดต่างกันคือ AVI กับ PAV ถ้ายีน TAS2R38 เหมือนกันทั้ง 2 ตัว เป็น AVI ทั้งคู่ จะทำให้ลิ้นของคน ๆ นั้น ไม่มีความไวต่อการรสขมเลย คือกินของขมแต่ไม่รู้สึกว่าขม เเละกินได้เยอะโดยไม่รู้สึกอะไร
แต่คนที่มียีน TAS2R38 อย่างละชุดนั่นคือทั้ง AVI และ PAV ก็จะสามารถรับรสขมได้บ้าง กินขมก็รู้ว่ามีรสขม ซึ่งเเอดน่าจะเป็นประเภทนี้
และสุดท้ายคือ คนที่มียีน PAV แบบเดียวกัน 2 ตัว จะสามารถรับรสขมได้ดีมากเป็นพิเศษ มีความไวในการรับรสขมในระดับที่เข้มข้นมากกว่าคนทั่วไป คือเเค่ความขมเจือจางมาก ๆ ก็สามารถรับรู้ได้ว่าขมเเล้วงะ คนกลุ่มนี้ถ้าชอบขมก็ชอบไปเลย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย ซึ่งมักเรียกว่า "ซูเปอร์เทสเตอร์"
นอกจากนี้การทานขม ยังเป็นการช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น เพราะอาหารที่มีรสขม จะช่วยกำจัดสารพิษที่สะสมในร่างกาย การที่ลิ้นเราไวต่อรสขม ยังถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะมันอาจช่วยปกป้องเราจากการกินของที่เป็นพิษได้
อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่ค่อยชอบรสขม ลองฝึกกินผักขม ๆ ดูนะคะ ลองทีละนิดทีละหน่อย หาวิธีลดความขมของมันก็ได้ อย่างเช่นมะระ ก็หั่นเเล้วเอาไปล้างในน้ำเกลือหลาย ๆ รอบเพื่อลดระดับความขมของมัน จะได้ทานได้ง่ายขึ้น ของขม ๆ มันมีประโยชน์จริงๆ อย่างที่ทุกคนเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา