วัยเบญจเพส 5
หลังจากที่เรานั่งรถกลับบ้าน ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆบนรถครับ มีเสียงเคาะรอบรถเลย ลุงบอกว่าอย่าไปสนใจมัน มันยังทำอะไรเราไม่ได้หรอก มันแค่หลอกให้เรากลัว คือลุงบอกว่าเราเจ็บแค่นี้ถือว่าบุญมากแล้ว ยังไม่ถึงกับชีวิต ผีร้ายๆบางตัวอยากเอาเราไปเป็นตัวตายตัวแทนก็มี คือถ้าเราไปแทนเค้า เค้าก็จะได้ไปอยู่ที่ดีกว่านี้ หรือได้ไปเกิด ลุงเขาสอนเราหลายอย่างมาก ไม่ให้ท้อ ให้เราสู้กับปัญหาชีวิต ให้เรามองพ่อกับแม่ไว้ ดูปัญหาที่เราเจอเป็นตัวอย่างและหมั่นทำความดีไว้เยอะๆ พอเราถึงบ้านอย่างแรกเราเข้าไปห้องพระก่อนเลย ไปไหว้ท่านที่มาช่วยเราแล้วก็พระ นั่งสมธิสักพักนึง เราก็เข้าห้องเราไปนอน คือบ้านเราไม่มีศาลไว้หน้าบ้านนะคะ มีแต่ห้องพระ พอเรานอนเนี่ย เราฝันเห็น ผญ คนนึง มาเรียกเราที่หน้าบ้าน คือเข้ามาในรั้วนะ แต่ไม่ได้เข้ามาในตัวบ้าน ตอนมาเรียกเรา เราอยู๋ในบ้านแล้วเปิดหน้าต่างไปคุยค่ะ เราก็ถามเค้าว่าใคร เค้าบอกว่าเค้าขอมาอยู่ด้วย เราบอกว่าแล้วบ้านเธออยู่ไหน มาขออยู่กับเรา ในความฝันแม่เราเดิมมาถามเราว่าคุยกับใคร เราบอกคนนี้มาขออยู่ด้วย แม่ก็ดุเราบอกให้เข้าบ้าน อย่าไปคุยกับเขา แล้ว ผญ คนนั้นก็กรี๊ด แล้วพูดว่า "กรูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ กูจะเอามึงถึงตาย" ในฝันนี่ตกใจมาก เราตื่นเพราะเสียงแม่มาปลุก บอกเราว่าจะพาไปบ้านลุง ลุงคนที่เป็นล่างทรงครับ บอกว่าให้เราไปทำพิธี พอเราไปถึงคือมีพวก พระ พวกรูปปั้นเยอะแยะมากมาย เค้าก็ให้เราไหว้ก่อนแล้วค่อยมาทำพิธี ลุงบอกให้เรากินน้ำมนต์ แล้วท่องตามลุง บอกตรงๆเลยตอนเรากินน้ำมนต์เรารู้สึกอึดอัดมาก แล้วเราก็อ้วกออกมาครับ อ้วกเยอะมากจนพ่อกับแม่เราต้องเอาถังน้ำมาลอง แล้วรู้สึกเลยว่าเหม็นมากๆ อ้วกจนเหนื่อย ลุงก็พูดว่า “ไงละโดนของมันไปแล้วสิ เอ็งมองดูที่อ้วกเองสิ” พอเรามอง คือแบบน้ำเป็นสีเขียวๆเหลืองค่ะ และกลิ่นไม่ไหวมากๆ เราก็ถามเขาคืออะไร ลุงบอกมันคือน้ำเหลืองผีตายโหง
ความรู้สึกแบบ โอ๊ยย จะเป็นลม พวกนี้มาอยู่ในตัวเราได้ไง ลุงบอกก็พระไง ที่เอ็งไปรับของมา พออ้วกเสร็จลุงบอกให้เราสวดมนต์ตามลุง บทพาหุงค่ะ สวดไปได้ไม่นานเริ่มรู้สึกไม่อยากสวด เริ่มหงุดหงิด อึดอัด เวียนหัวไปหมด ลุงบอกว่ามันยังไม่ออก แล้วเค้าก็หันไปหยิบมีดแล้วมาจี้ที่หัวเรา คือจำได้ว่าเป็นเสียงกรี๊ดแต่ไม่ใช่เสียงเราแน่ๆ เราก็สลบไป พอตื่นมาลุงก็บอกว่ามันออกไปแล้ว เราก็ถามว่าเราโดนผีเข้าเหรอ เขาบอกไม่เชิงผี แต่เขามาอาศัยอยู่ร่างเรา เราเลยถามว่าเราต้องทำยังไงบ้างหลังจากกนี้ ลุงบอกห้ามขับรถเอง ห้ามไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างน้อยไปกับคนอื่นหรือให้คนอื่นขับรถให้ก็ยังดีกว่า เพราะดวงเค้าดีกว่าเรา เสร็จจากตรงนั้นเราก็ได้สายศิลป์มาผูกที่แขนค่ะ สร้อยพระเส้นนั้นก็อยู๋ที่ลุง เราไม่ได้เก็บไว้แล้ว กลับมาถึงบ้าน อาเราก็มาบอกว่ายายเข้า รพ. แม่กับพ่อเราก็ต้องไป แต่พ่อให้ลูกของอามาอยู่เป็นเพื่อนเราที่บ้านแทน เรานั่งดูทีวีกัน เราก็กินยาไปเริ่มง่วง ก็เผลอหลับแต่ไม่ได้สนิทดี ก็รู้สึกเจ็บที่ขามากๆ ขาข้างที่เราใส่เผือก ในใจเราคิดว่าหลานเรา เราก็พูดไปว่า อย่าเล่นแบบนี้ พี่เจ็บขาอยู่ สักพักคือเจ็บหนักกว่าเดิมแบบปวดมากๆเหมือนมีใครมากดไว้ พอเราลืมตามอง เป็น ผญ . ผมยาวยืนเหยียบขาเราอยู่ แล้วหัวเราะ เราก็น้ำตาไหลด้วยความเจ็บ แล้วเค้าก็ขย่มๆที่ขาเรา เราก็หันไปจะเลี้ยงหลาน พูดก็ไม่ออก ขยับก็ไม่ได้ เราก็สุดจะทนเลยด่าไปหยาบๆคายๆ คือด่าในใจอะค่ะ เพราะปากขยับไม่ได้ เราเลยนึกถึงท่านที่อยู่ห้องพระให้ช่วยเราด้วย สักพักมีแสงเป็นสีทองเหลืองๆ แล้วเสียงกรี๊ดของอิผี ผญ. เราก็หลุดเลยเป็นปกติ ทีนี้เราเริ่มจิตตก คือนอนก็เจอหลับก็เจอ เหมือนคนจะเป็นบ้า เป็นโรคประสาท ระแวงไปหมดทุกอย่าง