โรคเริม เรื่องของไวรัสที่อาจก่อตัวและก่ออันตรายให้ร่างกายต้องแย่ลง
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าบริเวณแผลหรือตุ่มที่ขึ้นดูบริเวณโดยรอบของปากหรือมุมใดมุมหนึ่งของปากจะอาจก่อให้เกิดเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ที่แม้บางครั้งก็ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าจะเกิดอันตรายร้ายแรงหรือรุกราม ซึ่งวันนี้เราก็ได้หยิบยกเรื่องราวของโลกที่ไม่ควรละเลยมาฝากกันในวันนี้รับรองได้ว่าคุณจะจำชื่อนี้ได้ตลอดไปเลย....
เริม
เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสและสามารถติดต่อได้พบเจอได้ในกลุ่มคนทุกวัยทุกเพศ ชายและหญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้ในเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากัน
สาเหตุมาจากเชื้อไวรัส 2 สายพันธุ์ในกลุ่มของ(HSV) Herpes Simplex Virus ได้แก่
(HSV: 1) Herpes Simplex Virus type1:
ที่มีสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณโดยรอบของปาก(หรือมุมใดมุมหนึ่งของปาก)
ซึ่งอาจมาพร้อมกับภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (ต่ำ) ร่างกายอ่อนแอ เช่น ร่างกายอยู่ในการพักฟื้นจากการผ่าตัด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน Testosterone (ชาย) Estrogen (หญิง) การมาของประจำเดือน ความเครียด การตั้งครรภ์ หรือการได้รับแสงแดดที่ร้อนจัด Ultra Violet
(HSV: 2) Herpes Simplex Virus type2:
ที่มีสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ
ซึ่ง 2 ไวรัสนี้ก็ยังเป็นสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณดวงตา และสมอง
สำคัญมากตรงที่เมื่อได้รับเชื้อแล้วเชื้อนี้ก็จะฝังอยู่ที่ปมประสาท ที่ทำให้หายจากอาการต่าง ๆ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จะกลับมาเป็นได้อีกก็ต่อเมื่อร่างกายมีความอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ
โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เมื่อเป็นแล้วก็จะหายากและเป็นได้บ่อยกว่าวัยผู้ใหญ่ และอาการก็จะดีขึ้นเมื่อเริ่มโต ความถี่ของอาการก็จะน้อยลง
เริมที่ปาก
เริมที่ปากอาจมีลักษณะ นูนแดง หรือตุ่มน้ำใส และรู้สึกคันบริเวณโดยรอบปากหรือในปาก(มุมใดมุมหนึ่งของปาก)
อาจมีอาการร่วมเช่น
มีไข้สูง (ต่ำ)อาจเป็นระยะเริ่มต้นของเริม ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว
ในบางครั้งอาจเจ็บปวดหรืออักเสบจากบริเวณปากหรือภายในปาก
*ซึ่งอาการเริมที่บริเวณปากนั้นจะมีอาการที่รุนแรงน้อยกว่าเริมที่อวัยวะเพศ
ปากนกกระจอก
(Angular Cheilitis) เป็นภาวะของการอักเสบที่เกิดขึ้นที่มุมปาก จะมีอาการปากแห้งปากแตกหรือผิวของแผลลอก อาการของโรคนี้จะเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 ถึง 6 วันเท่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน
โรคปากนกกระจอก
โรคปากนกกระจอกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งนับเป็นสาเหตุที่พบเจอได้บ่อยที่สุด เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคนี้คือเชื้อแคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคผื่นผ้าอ้อมในเด็กทารก นอกจากนี้ โรคปากนกกระจอกยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้
เป็นเริมห้ามกินอะไร
สำหรับสำหรับการงดรับประทานอาหารที่อาจไปกระตุ้นให้เกิดเริม หรือไวรัสที่ คืออาหารหมักดอง อาหารแปรรูปทุกชนิด เครื่องดื่มนม(ทุกรูปแบบ) กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม
ป้องกันเริม
โดยสาเหตุที่ได้รับรู้กันไปแล้วว่ามาจากการบกพร่องของร่างกายและภูมิคุ้มกัน ดังนั้นการดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้ภูมิคุ้มกันลดระดับลงมามากจนทำให้ร่างกายไม่สบายหรืออ่อนแอ แล้วจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้ารักษาสุขอนามัยที่ดีได้ก็จะลดการเกิดของเริมได้
-ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
-รับประทานอาหารปรุงสุก
-หมั่นล้างมือทำความสะอาดอย่างเป็นนิสัย
-ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
-ออกกำลังกายหรืองานอดิเรกที่พลอยจะทำให้เกิดความสุขแก่ตัวเอง
-ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเครียด วิตก และกังวล
-เลี่ยงการอยู่กลางแสงแดด โดยการสวมหมวก ร่ม แว่นดำ
-เลือกรับประทานผัก ผลไม้ -อาหารที่มีประโยชน์
-ลดของมัน ของทอด อาหารที่ให้รสชาติ (เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด)
-ลดการอยู่ในห้องที่มีแอร์หรืออากาศที่หนาวเย็น
-ลดการดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
*หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบต่อการเจ็บ ป่วย
การรักษาเริม
หากเริ่มรู้สึกว่าเริ่มมีไข้หรือเป็นหวัดในระยะแรก รู้สึกอ่อนเพลีย ซึ่งความสูงต่ำของไข้นั้นทำให้มีผลต่อการเกิดเริมได้ทั้งสิ้น ข้อดีของการพบเชื้อตอนไข้ต่ำโอกาสการพบเชื้อและรักษาก็จะง่ายและรวดเร็วกว่าผู้ที่มีไข้สูงที่เสี่ยงต่ออาการพบโรคอื่น ๆ อีกมากมาย
*ฉะนั้นเมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ เพื่อไม่พลาดต่อการรักษา
เป็นอย่างไรกันบ้างกับอาการของโรคที่เกิดเพียงแค่เป็นแผลเล็กน้อยที่คุณเองก็แอบละเลยไปบ้าง หลังจากนี้เราอยากให้คนดูแลสุขภาพช่องปากและดูแลสุขภาพร่างกายรวมถึงภูมิคุ้มกันให้อยู่ในระดับปกติเข้าไว้เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจ็บป่วยที่ได้รับอาการของโรคเริมนี้ เขาได้อย่างนี้แล้วอย่าลืมส่งต่อเรื่องราวดี ๆ นี้ให้กับคนรอบข้างด้วยนะ
Reference: https://www.healthline.com/health/herpes-simplex
อ้างอิงจาก: pixabay