คดีชนคนตาย! บอส อยู่วิทยา "ทายาทกระทิงแดง" ส่อแววพ้นความผิด!!
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เวลา 05.30 น. ลูกชายคนเล็กของครอบครัว บอส-วรยุทธ วัย 27 ปี ขับรถเฟอร์รารี่พุ่งชน วิเชียร กลั่นประเสริฐ ดาบตำรวจจากสถานีทองหล่อ ขณะกำลังขับตรวจลาดตระเวน ที่ปากซอยสุขุมวิท 47 และด้วยความเร็วจึงทำให้ดาบตำรวจวิเชียรตายคาที่โดยลากศพไปไกลกว่า 200 เมตร จนได้ไปหยุดนิ่งในซอยสุขุมวิท 49
โดยวันที่ 26 มกราคม 2565 สำนักข่าวไทยมีการรายงานว่า นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เผยความคืบหน้าคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ระบุว่า จนตอนนี้ตำรวจยังตามตัวมานำเนินคดีไม่ได้ สำนักงานอัยการสูงสุด กังวลว่าคดีบอส อยู่วิทยา เสพโคเคน ที่ยังส่งฟ้องไม่ได้ เพราะได้หลบหนีเข้าไปอยู่ต่างประเทศและกำลังจะหมดอายุความในปีนี้ จนถึงตอนนี้ อัยการยังคงมีคำสั่งฟ้องอยู่ 2 คดี
1. คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570
2. คดีเสพโคเคน มีอายุความ 10 ปี หมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2565
ตามกฏหมายแล้ว การที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลโดยจะต้องนำตัวมาถึงจะแจ้งพนักงานสอบสวนที่มีหน้าที่ในการติดตามตัวมา แต่ด้วยเนื่องจากผู้ต้องหาได้หลบหนีไปต่างประเทศ ทางพนักงานสอบสวนต้องไปติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อจะให้อัยการประสานการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั่นเอง
โดยต้องระบุที่อยู่ปลายทางเพื่อที่จะประสานให้ประเทศปลายทางทำการจับกุม จนถึงตอนนี้ตำรวจยังไม่มีการส่งข้อมูลที่อยู่ของผู้ต้องหามาให้อัยการจึงไสามารถประสานงานนำตัวผู้ต้องหามาได้ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงพิกัดผู้ต้องหาแต่อย่างใด
โดยขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้ระบว่า ยังไม่เคยได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พิกัดของผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนอย่างไร ทราบแต่ทางสื่อมวลชนว่าไปอาศัยอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมาให้มีเพียงสำเนาหมายจับจากศาลเท่านั้น
โดยหลักการฟ้องร้องผู้ต้องหาในคดีอาญา จะต้องฟ้องตัวของผู้ต้องหาภายในอายุความ และคดีความที่ใกล้หมดอายุแล้วจึงมีความกังวลเพราะตราบใดที่ยังนำตัวผู้ต้องหามาให้อัยการไม่ได้ จะไม่สามารถที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้ และหากไม่ได้ตัวมาภายในวันที่ 3 กันยายน 2565 หรือได้ตัวมาหลังจากนั้นก็ไม่สามารถฟ้องได้ เนื่องจากคดีขาดอายุความ
และเชือว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานคงไม่นิ่งนอนใจที่จะติดตามตัวผู้ต้องหามานำเนินคดี และทันทีที่ทางอัยการได้รับข้อมูลพิกัดผู้ต้องหาแล้วก็พร้อมประสานงานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศนั้นๆทันที
เนื้อหาบางส่วนจาก: tvpoo