ต๊าซมาก!!วัดภูเขาทองเป็นภูเขาคนสร้างไม่ใช่ของจริง
ถ้าเพื่อนนั่งเรือคลองแสนแสบสุดปลายทางที่ผ่านฟ้าลีลาส..จะเห็นเห็นวัดภูเขาทองเด่นสง่า...
ถ้าใครไม่รู้เรื่องราวจะคิดว่าสมัยก่อน แถบนี้มีภูเขาด้วย...จึงชือวัดภูเขาทอง
ประวัติและที่มาของ “ภูเขาทอง”
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
ภูเขาทอง เป็นชื่อปูชนียสถานสำคัญ ตั้งอยู่ริมคลองมหานาคในเขตพุทธาวาสของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ชื่อภูเขาทองนำมาจากชื่อภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในอันที่จะสร้างกรุงเทพฯ ให้เหมือนกรุงศรีอยุธยาครั้งบ้านเมืองยังดี
โปรดให้เลือกภูมิฐานในการสร้างภูเขาทองให้คล้ายกับภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา
คือตั้งอยู่ริมคลองมหานาค ซึ่งเป็นคลองที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ขุดเลียนแบบคลองมหานาคที่อยุธยา
สำหรับให้ประชาชนมาชุมนุมเล่นเพลงสักวาในเทศกาลเดือนสิบสอง
ด้วยเหตุที่ภูเขาทองเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ และสร้างอยู่ในที่ลุ่มทำให้การก่อสร้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก
ใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 รัชสมัย โดยสมบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อ พ.ศ. 2421 ลักษณะเป็นภูเขาสูงใหญ่
รอบฐานวัดได้ 8 เส้น 20 วา
สูง 1 เส้น 18 วา 2 ศอก
มีบันไดเวียน 2 สาย
ทางเหนือเป็นทางขึ้นมีบันได 304 ขั้น
ทางใต้เป็นทางลงมีบันได 357 ขั้น บนยอดเขาก่อพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ
ซึ่งอุปราชอินเดียส่งมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และโปรดพระราชทานนามว่า “บรมบรรพต” แต่คนทั่วไปยังคงนิยมเรียกว่า “ภูเขาทอง”
ส่วนวัดสระเกศราชวรมหาวิหารนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
โปรดให้บูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นจากวัดเดิมที่ชื่อ “วัดสะแก” และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ”
นามของวัดน่าจะมาจากเหตุการณ์ครั้งที่ขณะพระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก นำทัพกลับจากกรุงกัมพูชา ได้เสด็จมาพัก ณ วัดนี้
และโปรดให้นำน้ำจากสระในวัดสะแกมาเป็นน้ำสรงพระเกศาในพระราชพิธีปราบดาภิเษกขึ้นครองราชประดิษฐานราชวงศ์จักรี
เมื่อโปรดบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จ จึงพระราชทานนามตามเหตุการณ์สำคัญครั้งนั้นว่า “วัดสระเกศวรวิหาร”
วัดภูเขาทองถือว่าเป็นแสงสว่างแก่รัตนโกสินทร์มายาวนาน...
ขอบคุณข้อมูลภาพ