ประเทศไทยกับแนวคิดเก็บภาษีคาร์บอน
บุคคลที่มีรายได้จากการทำงาน,การค้าขาย,งานบริการ หรืองานด้านอุตสาหกรรม จะต้องเสียภาษีให้แก่รัฐบาลเพื่อนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม การขนส่ง ด้านไฟฟ้า การสร้างถนน สร้างโรงเรียน และเงินเดือนของข้าราชการที่ทำงานบริการให้กับประชาชน เช่น ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น ที่กล่าวมาข้างต้นคือ ภาษีทางตรง ส่วนอีกภาษีคือภาษีทางอ้อม มาจากการที่ซื้อสินค้าหรือบริการ หรือที่รุ้จักกันดีคือ ภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง จากการศึกษาข้อมูลจึงพบกับภาษีอีกอย่างที่น่าสนใจ และมีการนำมาใช้ในหลากหลายประเทศแล้ว นั่นคือ ภาษีคาร์บอน
ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) คือ ภาษีสิ่งแวดล้อม ที่รัฐบาลเรียกเก็บเนื่องจากมีการผลิต การจำหน่าย การใช้เชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำมัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากถูกเผาไหม้แล้วจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลก โดยมีการเรียกเก็บตามแต่ปริมาณที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ออกมาในแต่ละครั้งของโรงงาน โรงไฟฟ้า และยานยนต์ นั่นเอง
การเรียกเก็บภาษีคาร์บอน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
1.ทำให้เชื้อเพลิงฟอซซิล มีราคาสูงขึ้น เป็นผลทำให้โรงงงานต่างๆ หันมาใช้พลังงานทดแทน
2.เมื่อหันมาใช้พลังงานทดแทน ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศลดลง
3.พลังงานทดแทน ถูกพัฒนามากยิ่งขึ้น ในอนาคตอาจจะใช้เป็นพลังงานหลักแทนการใช้เชื้อเพลิง
4.ลดต้นทุนในการดำเนินกิจการการผลิต เนื่องจากหันมาใช้พลังงานทดแทน
ภาษีคาร์บอนถูกนำมาใช้ในในประเทศที่พัฒนาแล้ว กับธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เช่น สหภาพยุโรป, รัสเซีย, ออสเตเลีย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทยนั้น ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศในเวทีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ ว่าจะร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งมีโร๊ดแม็ปการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 3 ช่วง
- ปี ค.ศ.2030 จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40%
- ปี ค.ศ.2050 เป็นกลางทางคาร์บอน
- ปี ค.ศ.2066 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0
ดานนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จะช่วยให้รัฐบรรลุเป้าหมายเป็น Net Zero โดยกรมสรรพาสามิตรมี 2 แนวทาง ซึ่งกำลังเร่งศึกษาว่าแนวทางใดจะเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย
- ภาษีคาร์บอน กำหนดอักตราการเก็บภาษีต่อตันคาร์บอน โดยรัฐจะกำหนดว่าโรงงานจะสามารถปล่อยคาร์บอนได้จำนวนไม่เกินเท่าใด และหากปล่อยเกินจะมีการเรียกเก็บภาษีคาร์บอน
- การซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก โดยสามารถซื้อคาร์บอนเครดิตกับโรงงานที่ปล่อยคาร์บอนในจำนวนน้อยได้
จากการคาดการณ์ของประเทศไทย กลุ่มที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดคือ ภาคพลังงาน หากมีมาตรการดังกล่าวออกมา ก็ต้องเริ่มจากภาคพลังงานเป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ก็เริ่มมีการตื่นตัว หันมาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และหันมาใช้พลังงานทดแทนบ้างแล้ว เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าประเทศไทยจะนำภาษีคาร์บอนมาใช้หรือไม่ และจะบรรลุเป้าหมายได้ก่อนตามที่ตั้งโร๊ดแม็ปหรือไม่