นางเลิ้ง2022!!จากสนามม้าเป็นสวนกลางเมือง(ปอดคนกรุงเทบ)
นี่คือนางเลิ้ง 2022
ยุคก่อนนางเลิ้งคือสถานความบันเทิงคอกีฬาม้าแข่ง....
"สวนแห่งความสุข และความยั่งยืน"
สำนักพระราชวัง เผยแพร่ภาพ Render แบบจำลอง อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในพื้นที่สนามม้านางเลิ้งเดิม พื้นที่ ๒๙๗ ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ที่ทรงมอบที่ดินมูลค่าหลายหมื่นล้านนี้ ที่แต่เดิมคือสนามม้านางเลิ้ง ให้แก่ประชาชนทุกคนได้ใช้อย่างเท่าเทียม
สวนสาธารณะแห่งใหม่ สวนป่ากลางเมือง ตกแต่งด้วยพืชนานาชนิด โดยมีจุดสำคัญคือ พระบรมราชานุสาวรีย์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ สระน้ำเลข ๙ สะพานหยดน้ำพระทัย สะพานไม่เจาะบากง ในแนวคิด “น้ำคือชีวิต จากนภา ผ่านภูผา สู่นที” และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการฟื้นฟูป่า รักษาแหล่งน้ำ และเป็นพื้นที่ “แก้มลิง” แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยเชื่อมคลองผดุงกรุงเกษม กับ คลองเปรมประชากร คลองสามเสน
อีกทั้งยังมี อุปกรณ์ออกกำลังกาย ลานกิจกรรม สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้อีกด้วย
ที่มา : เว็บไซต์สำนักพระราชวัง https://www.royaloffice.th/2021/11/17/อุทยานเฉลิมพระเกียรติ/
ไปดูประวัติสนามม้านางเลิ้งกัน
สนามม้านางเลิ้ง
อัฒจันทร์พร้อมหลังคาลอนโค้ง โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กในยุคแรกของสยาม ออกแบบโดย Emilio Giovanni Gollo ชาวอิตาเลี่ยน
ต่อมามีการสร้างอัฒจันทร์ใหม่ โดยมีรูปแบบสถาปัตย์คล้ายคลึงหลังเดิม แต่ความวิจิตรของรายละเอียดต่างๆ จะน้อยกว่า
ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า "สนามม้านางเลิ้ง" (สนามไทย) เปิดดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2459 มีการจัดแข่งม้าสลับกับราชกรีฑาสโมสร หรือสนามฝรั่ง ที่ถนนอังรีดูนังส์
มีธุรกิจแปลกๆเกิดขึ้นที่สนามม้าของไทย เช่น การเช่ากล้องส่องทางไกล หรือการเช่ารองเท้าหุ้มส้น เพราะผู้เข้าชมชาวไทย นิยมสวมรองเท้าแตะ จึงต้องมีการเปลี่ยนรองเท้าให้เป็นไปตามกฎก่อนเข้าสนาม
ปัจจุบัน สนามม้านางเลิ้งได้สิ้นสุดลง เพื่อใช้พื้นที่จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จกลับจากประพาสยุโรปในปี พ.ศ. 2440 สโมสรน้ำเค็มศึกษา สมาคมของข้าราชการและนักเรียนที่เคยไปทำงาน ศึกษา หรือเดินทางไปยุโรป ได้ร่วมกับเจ้าของคอกม้าต่างๆ จัดแข่งม้าเทียมรถ เพื่อเป็นการต้อนรับและถวายความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 โดยปรับให้ท้องสนามหลวงกลายเป็นสนามแข่งม้าชั่วคราว นับเป็นการจัดกีฬาแข่งม้าแบบตะวันตกครั้งแรกของประเทศไทย ในปี 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้จัดตั้งราชกรีฑาสโมสร หรือที่เรียกกว่าว่า “สนามฝรั่ง” เพื่อเป็นทั้งแหล่งบันเทิงจำกัดวงสำหรับคนต่างชาติ
ก่อตั้ง
กระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตตั้งสโมสรสนามม้า “สนามไทย” แข่งเพื่อให้บริการแข่งม้าสำหรับคนไทยและนำรายได้มาใช้บำรุงพันธุ์ม้าจากประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ ทรงมีพระบรมราชานุญาตพร้อมทั้งได้พระราชทาน นามว่า "ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม" อีกทั้ง ทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์
เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2459 และพระราชทานนามว่า ราชตฤณมัยสมาคม รวมไปถึงยังทรงส่งม้าในคอกของพระองค์เข้าร่วมแข่งอีกด้วย สมาคมฯ
ทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการแข่งม้า จัดทำทะเบียนประวัติม้า เจ้าของและผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ สลับกันกับราชกรีฑาสโมสร และยังมีการให้บริการอื่น ๆ เช่น สนามเทนนิส, สระว่ายน้ำ, ห้องอาหาร จัดเลี้ยงต่าง ๆ
ราชตฤณมัยสมาคมในพระบรมราชฯ เป็นผู้เช่าอาคารและที่ดินกับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บริเวณสนามม้านางเลิ้ง จำนวน 3 สัญญาเช่า
ฉบับที่ 2976/2542 , 2977/2542 และ 2978/2542 ลงวันที่ 29 ก.ย. 2542 นั้น
โดยปรากฏว่าทั้งสามสัญญามีกำหนดอายุสัญญาเช่า 6 เดือน
นับแต่วันที่ 1 ส.ค. 2542 เป็นต้นไป
ในอัตราเช่าเดือนละ 30,000 บาท
10,000 บาท
และ 10,000 บาท ตามลำดับ
ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขสัญญาเช่าเป็นที่ทราบกันนั้น ปัจจุบันสัญญาเช่าทั้งสามฉบับได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว
สำนักงานทรัพย์สินฯ จำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงไม่สามารถให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ เป็นผู้เช่าได้อีกต่อไป
ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ประสานและแจ้งให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ ทราบในเบื้องต้นแล้ว สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์บอกเลิกสัญญาเช่าสนามม้านางเลิ้งและขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ได้ทำการรื้อถอนสนามม้าหลังจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า พร้อมให้ส่งมอบพื้นที่คืนภายใน 180 วัน
โดยหลังจากนี้บริเวณดังกล่าวจะมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะ รวมทั้งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะให้ประชาชนสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย รวมถึงอาคารจอดรถใต้ดินจำนวน 3 ชั้น ที่สามารถรองรับการจอดรถยนต์ได้ 700 คัน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ. 2565
ขอบคุณข้อมูลภาพ