เบนซ์ชนท้าย นักศึกษาปี4 เสียชีวิต คู่กรณียอมรับผิด เเต่ประกันเบี้ยวไม่ยอมจ่าย
เบนซ์ชนท้ายนักศึกษาสาว ปี 4 เสียชีวิต คู่กรณียอมรับผิดเเต่ประกันไม่ยอมจ่าย ทำพ่อแม่ทุกข์ ชาวบ้าน ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทประกัน ที่พยายามเบี้ยวการจ่ายเงินสินไหมทดแทน และอยากให้ผู้ใจบุญมาช่วยเดินเรื่อง เพราะเป็นชาวนา นางสมเร็จ อายุ 56 ปี นำภาพของ นางสาวพัชราภา น้องหญิง ลูกสาว อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากการถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 64ที่ผ่านมา ระหว่างขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน

นางสมเร็จ นั่งร่ำไห้กอดภาพลูกสาว ที่จากไปด้วยความอาลัย พร้อมกับระบายความในใจว่า ลูกสาวรักแม่มาก ฝันอยากเป็นอัยการแต่ไม่คิดว่า ความฝันของลูกต้องจบลง และจะมาอายุสั้นขนาดนี้ นายสมชาย อายุ 56 ปี พ่อน้องหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุทราบเพียงว่ามีรถเก๋งมาชนท้ายลูกสาว เมื่อไปดูพบว่าเป็นรถเบนซ์มาชนท้ายรถจยย.ของลูกสาว รักษาตัวที่โรงพยาบาลกระสังและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตอนนั้นตนและภรรยาอยู่ในอาการเศร้า รู้เพียงว่าคนขับรถเป็นผู้หญิง รับสารภาพว่า ขับรถประมาทจึงไปชนท้ายรถลูกสาว และยังเอาเงินมาช่วยจัดงานศพจำนวนเงิน 100,000 บาท ส่วนเงินเยียวยาอื่นๆคนขับรถบอกว่า รถมีประกันชั้น1 น่าจะได้รับส่วนต่างอีกนอกจากนี้

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.กระสัง อ.กระสัง ได้ส่งเรื่องฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ กระทั่งศาลชั้นต้นจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินว่าคนขับรถเป็นฝ่ายประมาท ซึ่งตามแนวทางแล้วบริษัทประกันจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามเงินที่เอาประกันคือ 2.5 ล้านบาท

ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ส่วนกลาง มีความเห็นควรให้บริษัทประกันภัย ดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทตามเงื่อนไขกรมธรรม์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ รวมเป็นเงิน 2,500,000 ภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 64

แต่มาถึงตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับเงินชดเชยแม้แต่บาทเดียว ผู้เป็นพ่อ เล่าต่ออีกว่า หลังจากบริษัทประกันปฏิเสธการจ่าย อ้างว่าผู้ขับรถเบนซ์ มิได้เป็นฝ่ายการประมาทแต่อย่างใด และให้ตนไปฟ้องร้องต่อศาลต่อไปอีก ยอมรับว่าครอบครัวไม่มีปัญญา เพราะเงินค่าทำศพต้องไปกู้ยืมเงินเขามา ยังต้องส่งดอกมาจนถึงปัจจุบัน จึงอยากจะเรียกร้องให้ผู้รู้กฎหมาย มาช่วยเหลือเพราะครอบครัวไม่มีทางออก








