น้ำพุร้อนในไทย มีทุกภาคสะดวกใหนไปนั่น
น้ำพุร้อน ( Hot Spring ) เกิดจากน้ำที่ไหลออกมาจากทางน้ำใต้พื้นดิน ซึ่งมีอุณหภูมิที่สูงกว่าร่างกายมนุษย์ โดยมากน้ำที่ไหลออกมาจะเป็นลักษณะของการปลดปล่อยพลังงาน และเมื่อน้ำที่ไหลออกมานั้นคลายความร้อนหรือพลังงานลงก็จะไหลกลับคืนสู่แหล่งอีกครั้ง ซึ่งบ่อน้ำพุประเภทนี้มักจะมีแร่ธาตุต่างๆ เจือปนอยู่ด้วยทำให้มักมีสีหรือกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป น้ำพุร้อนประเภทนี้พบได้มากใน ไทย ไอซ์แลนด์
นิวซีแลนด์ เป็นต้น
น้ำพุร้อนในไทย
- น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- น้ำพุร้อนท่าปาย (อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง) อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- น้ำพุร้อนเทพพนม (อุทยานแห่งชาติออบหลวง) อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
- น้ำพุร้อนป่าตึง หรือ น้ำพุร้อนห้วยหินฝน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
- น้ำพุร้อนโป่งกว๋าว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
- น้ำพุร้อนโป่งเดือดป่าแป๋ ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ - เป็นน้ำพุร้อนชนิด ไกเซอร์ (Geyser) ซึ่งน้ำร้อนจะพุ่งขึ้นมาจากชั้นหินอัคนี
- น้ำพุร้อนโป่งอ่าง บ้านโป่งอ่าง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
- น้ำพุร้อนฝาง (อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก) อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ - เป็นน้ำพุร้อนแบบไกเซอร์ มีความสูงประมาณ 30 เมตร
- น้ำพุร้อนแม่อุมลอง (อุทยานแห่งชาติสาละวิน) ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- น้ำพุร้อนสันกำแพง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ - เป็นน้ำพุร้อนชนิด ไกเซอร์ (Geyser) ซึ่งน้ำร้อนจะพุ่งขึ้นมาจากชั้นหินอัคนี
- น้ำพุร้อนสบโป่ง-แม่ขะจาน ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
- บ่อน้ำพุร้อนไทรงาม ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ 3 บ่อ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ ถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ หลักกิโลเมตรที่ 64-65 อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
- บ่อน้ำพุร้อนผาบ่อง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำพุร้อนภูโคลน ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำร้อนเกาะคา หรือ โป่งน้ำร้อนเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
- บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน (อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน) จังหวัดลำปาง - ไหลรวมกับธารน้ำเย็นทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่น
- บ่อน้ำร้อนซับอุ่น อุทยานแห่งชาติภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
- บ่อน้ำร้อนท่าโต๋ (อุทยานแห่งชาติขุนขาน) อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
- บ่อน้ำร้อนทิพย์ (อุทยานแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย(รอเตรียมการจัดตั้ง)) อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
- บ่อน้ำร้อนแม่จอก (อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย) อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
- บ่อน้ำร้อนเมืองแปง ตำบลเมืองแปง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม (อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก(รอเตรียมการจัดตั้ง)) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- บ่อน้ำร้อนหนองแห้ง ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- บ่อน้ำร้อนห้วยทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
ภาคตะวันตก
- น้ำพุร้อนไทยประจัน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
- น้ำพุร้อนแม่ภาษา ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
- น้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี
- บ่อน้ำพุร้อนโป่งกระทิง (อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน) อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี
- บ่อน้ำร้อนธารน้ำบ่อคลึง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี - ไหลรวมกับธารน้ำเย็นทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่น
- บ่อน้ำร้อนพาเจริญ (อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ) อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
- บ่อน้ำร้อนวัดวังขนายทายิการาม ตำบลวังขนาย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
- บ่อน้ำร้อนห้วยน้ำนัก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
- บ่อนำร้อนหินตาด ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
ภาคกลาง
- น้ำพุร้อนน้ำแร่บ้านครู ตำบลพุขาม อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์
- น้ำพุร้อนบ้านสมอทอง ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี
- บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง(บึงสาป) ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
ภาคใต้
- น้ำพุร้อน (อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง) อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- น้ำพุร้อนน้ำตกคลองท่อม บ้านบางคราม-บ้านบางเตียว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ - ไหลรวมกับธารน้ำเย็นทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่น
- น้ำพุร้อนณัฐฐาวารี หมู่บ้านบางผึ้ง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
- บ่อน้ำพุร้อนถ้ำเขาพลู ตำบลสวนแตง อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
- บ่อน้ำพุร้อนบ้านบ่อดาล ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา
- บ่อน้ำร้อนกันตัง (วนอุทยานน้ำพุร้อนควนแคง) อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
- บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
- บ่อน้ำร้อนถ้ำตลอด บ้านถ้ำตลอด ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
- บ่อน้ำร้อนท่าสะท้อน หรือ บ่อน้ำพุร้อนรัตนโกสัย ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- บ่อน้ำร้อนนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
- บ่อน้ำร้อนบ้านพรรั้ง อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
- บ่อน้ำร้อนเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
- บ่อน้ำร้อนสวนรักษะวาริน (สวนสาธารณะรักษะวาริน) อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
- บ่อน้ำร้อนหาดยาย (อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี) อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
- บ่อน้ำร้อนทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล
การแช่น้ำพุร้อนจะช่วยให้ท่านมีความสุขและสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น
นอกจากจะเป็นการผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยหล้าของร่างกายแล้ว การแช่น้ำพุร้อนนั้นยังสามารถรักษาและทุเลาอาการเจ็บปวดบางอย่างได้ด้วย แต่การรักษาโรคหรือการเจ็บป่วยเหล่านั้นยังไม่ได้มีการยืนยันแน่นอนว่าจะต้องรักษาโรคนั้น ๆ ได้ทุกคน หรือหายเป็นปลิดทิ้งเพราะฉะนั้นการแช่น้ำพุร้อนจึงควรอยู่ในความพอดี แต่ที่แน่นอนก็คือ การแช่น้ำพุร้อนนั้นสามารถช่วยคลายเครียดและความเหนื่อยล้าได้จริง เพราะการแช่น้ำพุร้อนก็เหมือนการทำธาราบำบัด(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรพงษ์ ตันธนศรีกุล)ซึ่งส่งผลให้การหมุนเวียนของกระแสเลือดในร่างกายดีและสะดวกขึ้น ส่วนประโยชน์ในการรักษาโรคนั้น เขาได้แยกประเภทของน้ำพุร้อนเป็นหลายประเภทเพราะแต่ละประเภทจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. น้ำพุร้อนทั่วไป รักษาโรคปวดวิถีประสาท และโรคปวดข้อ การอาบน้ำพุร้อนเป็นประจำจะช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพ
2. น้ำพุร้อนคาร์บอเนต รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นรักษาโรคประสาทและความผิดปรกติของเพศหญิง
3. น้ำพุร้อนดินคาร์บอนหนัก รักษาโรคปวดข้อ โรคปวดวิถีประสาท และโรคผิดปรกติของ ผิวหนังเรื้อรัง การดื่มน้ำนี้ช่วยผ่อนคลายปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและอาการบวมหรืออักเสบของกระเพาะอาหาร
4.น้ำพุร้อนเกลือ เช่นเดียวกับ น้ำพุร้อนดินคาร์บอเนต
5. น้ำพุร้อนเกลือ โซเดียม ไฮโดรเจน คาร์บอเนต เช่นเดียวกับ น้ำพุร้อนดินคาร์บอเนต อาจเป็นปัญหานิดหน่อยตรงที่แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำพุร้อนที่เราไปแช่นั้นอยู่ในประเภทไหน ซึ่งจริง ๆหากท่านสังเกตที่ทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนแล้ว จะมีป้ายบอกถึงอุณภูมิ ส่วนประของแร่ธาตุ ในน้ำพุร้อนที่ท่านจะลงไปแช่ รวมถึงเป็นน้ำพุร้อนประเภทไหนด้วย สรุปแล้ว ประโยชน์ในการรักษาและทุเลาอาการบาดเจ็บหรือโรคนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็น การรักษา อาการปวดต่าง ๆ โรคผิวหนัง โรคที่เกิดจากความเครียดเช่น โรคกระเพาะ โรคไมเกรน และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนของกระแสโลหิต
ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่าการแช่น้ำพุร้อนนั้นจะช่วยให้กระแสโลหิตไหลเวียนเพิ่มขึ้น
แนะนำเกี่ยวกับการอาบน้ำพุร้อนตลอดจนการดื่มน้ำพุร้อนไว้ ดังนี้
- การอาบน้ำพุร้อนเป็นสิ่งที่ดีแต่ไม่ได้หมายความว่าท่านต้องแช่อยู่ในน้ำร้อนเป็นเวลานาน ท่านควรอาบน้ำพุร้อนวันละ 2 – 3 ครั้งๆละ 30 นาที การอาบน้ำหมายถึงการชำระล้าง ทำความสะอาดร่างกาย 20 นาที และกายภาพบำบัดในน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส อีก 10 นาที ในกรณีที่ อุณหภูมิของน้ำพุร้อนน้อยกว่า 40 องศาเซลเซียส หรือน้ำพุร้อนเป็นน้ำอุ่นที่มีปริมาณของสารละลายแร่ธาตุต่างๆ น้อย ท่านอาจเพิ่มระยะเวลาในการอาบน้ำให้นานขึ้น
- น้ำพุร้อนไม่เพียงแต่จะประกอบด้วยสารละลายแร่ธาตุต่างๆ เท่านั้น แต่น้ำพุร้อนยังมีแรงดันซึ่งจะช่วยกระตุ้นสภาพของร่างกาย ท่านควรปล่อยให้น้ำพุร้อนพยุงตัวให้ท่านลอยขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งการพยุงตัวลอยเหนือน้ำพุร้อนนี้จะทำให้ร่างกายปลอดโปร่ง และเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นทำให้สภาวะแวดล้อมภายในมดลูกและช่องท้องดีขึ้น การอาบน้ำร้อนจะทำให้รูขุมขนของร่างกายเปิดกว้างออก เป็นการทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยทำให้แร่ธาตุในน้ำพุร้อนไหลถ่ายเทตามรูขนเข้าไปในร่างกาย การอาบน้ำพุร้อนเป็นการทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ลดความเครียด และเป็นการทำให้เกิดความสมดุลในระบบประสาท
- ภายหลังจากการอาบน้ำพุร้อนเสร็จสิ้นแล้ว ให้ท่านคิดในทางที่ดีเสมอว่าการอาบน้ำพุร้อนเป็นสิ่งที่ดีทำให้ท่านรู้สึกกระชุ่มกระชวย ท่านพร้อมแล้วสำหรับงานที่รออยู่ข้างหน้า เนื่องจาก บ่ออาบน้ำพุร้อนโดยทั่วไปจะเป็นบ่อสาธารณะ มีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ท่านคิดว่าเป็นการดีที่ท่านควรทำความสะอาดร่างกายก่อนออกจากบ่อน้ำพุร้อน แต่ที่จริงแล้ว การที่แร่ธาตุที่อยู่ในน้ำพุร้อนจะซึมผ่านรูขนเข้าไปในร่างกายต้องใช้เวลา 6 – 7 ชั่วโมง ดังนั้น การที่ท่านชำระร่างกายก็เป็นการชำระเอาแร่ธาตุออกจากร่างกายของท่านด้วย ในทางปฏิบัติ ท่านควรชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาดจากบ่อน้ำพุร้อน หรือท่านอาจชำระร่างกายภายหลังจากอาบน้ำพุร้อนไปแล้ว 7 ชั่วโมง
- น้ำพุร้อนไม่เพียงแต่ดีมีประโยชน์โดยการอุปโภค เท่านั้น การบริโภค หรือการดื่มน้ำพุร้อนก็มีประโยชน์เช่นกัน น้ำที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ จะกระตุ้นการทำงานของระบบการเผาผลาญอาหาร (metabolism) การดื่มน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมากไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ การดื่มน้ำพุร้อนต้องมั่นใจว่าส่วนประกอบของแร่ธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำพุร้อนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มตามประกาศกรมทรัพยากรธรณีหรือตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภาชนะที่ใช้บรรจุน้ำพุร้อนตลอดจนก๊อกน้ำและท่อน้ำต้องถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อใช้บรรจุน้ำพุร้อน อย่าดื่มน้ำพุร้อนแบบการดื่มอย่างกระหายหรือกลืนน้ำลงคอที่ละมากๆ แต่ควรดื่มที่ละน้อยและใช้เวลาในการดื่มน้ำ 30 – 50 นาที น้ำพุร้อนเกลือ น้ำพุร้อนคาร์บอเนต น้ำพุร้อนโซเดียม ไฮโดรเจน คาร์บอเนต น้ำพุร้อนเรเดียมเหมาะสำหรับการดื่มหลังอาหาร ท่านควรดื่มน้ำพุร้อนในระหว่างที่ท้องว่าง และไม่ควรดื่มน้ำพุร้อนก่อนเวลานอนหลับ
ขอบคุณขัอมูลภาพ