ขนาดคนไทยก็ยังไปเที่ยวเวียดนาม!! ฝรั่งสงสัย ไทย vs เวียดนาม ที่ไหนน่าไปเที่ยวมากกว่ากัน?
สวัสดีค่ะ ถ้าให้พูดถึงประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติ ที่มีที่เที่ยวได้ในทุกฤดู มีความหลากหลายของภูมิประเทศ เที่ยวภูเขาก็ได้ เที่ยวทะเลได้ หรือจะไปเดินชมเมืองเก่าถ่ายรูปสวยๆก็ได้ น่าจะต้องมีชื่อของ ไทย และ เวียดนาม รวมอยู่ในลิสต์ด้วยเสมอๆ ซึ่งข้อดีหลักๆ ของเวียดนามก็คือ ค่าใช้จ่ายไม่มากมายนัก เพราะค่าเงิน และค่าครองชีพส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะถูกกว่าไทย หลังสงครามอินโดจีนเมื่อราว 30 ปีก่อน เวียดนามก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมา จนปัจจุบันเติบโตแบบก้าวกระโดด นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไปในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และโดดเด่นมาก ขนาดคนไทยเองยังชอบที่จะไปเที่ยวเวียดนามกันเลย คนจีนที่ไม่มาเที่ยวไทยก็ไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เวียดนาม บางคนคิดว่าเวียดนามมีชายฝั่งทะเลเฉพาะที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ ไม่รวมเกาะ สั้นกว่าไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยติดทะเลทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย แต่แท้ที่จริงแล้ว ไทยมีชายฝั่งทะเลประมาณ 3,200 กิโลเมตร ในขณะที่เวียดนามมีชายฝั่งทะเลประมาณ 3,400 กิโลเมตร เวียดนามจึงมีเมืองตากอากาศริมทะเลมากมาย ฝรั่งที่ย้ายจากภูเก็ตไปเวียดนามก็มักจะบอกว่าเวียดนามก็มีชายหาดและสตรีที่สวยงามไม่แพ้ไทย แต่ก็ไม่เถียงว่าสาวไทยเอาใจเก่งกว่า และจากการที่ทั้งไทย และ เวียดนาม มีอะไรในหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน ก็ได้ทำให้มีชาวต่างชาติขี้สงสัยไปตั้งกระทู้ถามเอาไว้ในเวบไซต์ของต่างประเทศด้วยเหมือนกัน ซึ่งเขาได้ตั้งคำถามแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า ฉันควรจะไปเที่ยวที่ ประเทศไทย หรือ เวียดนาม? ส่วนคำตอบแต่ละคำตอบจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปรับชมรับฟังกันได้เลยค่ะ
ความคิดเห็นแรกเป็นความคิดเห็นของช่างภาพที่เดินทางถ่ายภาพไปทั่วเอเซียนะคะ นี่เป็นคำถามที่ยากมากสำหรับผมจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับถูกพ่อแม่เปรียบเทียบกันเองระหว่างพี่น้อง ผมมาจากเวียดนาม อาหารเวียดนามอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ผมก็ชอบรสชาติที่เข้มข้นของอาหารไทย สำหรับนักเดินทาง นักชิม มันคือทั้งหมดเกี่ยวกับรสชาติ แต่ละประเทศมีวัฒนธรรม พิธีกรรม วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันไป อาหารก็เช่นกัน อาหารเป็นประตูที่ดีที่สุดที่นำไปสู่ความเข้าใจในวัฒนธรรมและความกลมกลืนของสายสัมพันธ์ของมนุษย์รุ่นต่อรุ่น ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปประเทศใด ประเทศไทยหรือเวียดนาม คุณจะต้องไปลองชิมอาหารข้างทางและทานอาหารที่ปรุงโดยคนในท้องถิ่น
ความคิดเห็นต่อมาเป็นความคิดเห็นจากชาวต่างชาติที่เคยเดินทางท่องเที่ยวทั้งในไทยและเวียดนาม ได้มาคอมเม้นเอาไว้ว่า ผมใช้เวลา 6 สัปดาห์ในเวียดนาม ผมได้ไปในเมืองและไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ผมยังได้ใช้เวลาอีก 3 เดือนในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการที่ผมได้ไปกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต มันทำให้ผมหลงรักอาหารของพวกคุณมาก และสาบานได้เลยว่าผมจะเอาเวียดนามออกจากโต๊ะอาหารของผม ผมไม่เคยจะต้องพึ่งพา ผลไม้ ไข่ เบอร์เกอร์ และสปาเก็ตตี้ จนกระทั่งผมได้มาใช้เวลา 6 สัปดาห์ในเวียดนาม ซึ่งผมคิดว่าผมคงไม่อยากกินอาหารของที่นี่อีกต่อไป ผมมักจะต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า เรากินเพื่ออยู่ อาหารคือเชื้อเพลิง และอีกไม่นานผมก็จะกลับมาเมืองไทยแล้ว ที่ซึ่งอาหารได้รับการปรุงรสและจัดเตรียมอย่างเหมาะสม ที่ประเทศไทยคุณจะมีอาหารหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกมาให้คุณได้ลิ้มลองเพียงปลายนิ้วสัมผัส เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามมี แซนด์วิช ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส นั่นคืออาหารที่ทำให้ผมรอดชีวิตมาได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะชอบอาหารซีฟู๊ด หอยที่ดูเหมือนว่าน่าจะหามาจากสวนหลังบ้าน คุณก็จะอยู่ที่นั่นได้ ประเทศไทยมีภูเขามากมาย มีสถานที่พักผ่อน มีอุทยานธรรมชาติ และเดินทางง่ายมาก ข้อดีอย่างเดียวของเวียดนามคือ ดานัง คุณจะได้รับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมจากที่นั่นโดยที่ไม่ต้องถูกห้อมล้อมไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่คุณจะไม่ได้เจอกับที่พักดีๆ ราคาถูกหรืออาหารที่ถูกกว่าในประเทศไทย เวียดนามมีราคาแพงกว่าและล้าหลังในหลายๆ สิ่ง รวมถึงการปรุงรสอาหารด้วย
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ในฐานะที่ฉันเป็นคนที่เดินทางไปในหลายประเทศของเอเชีย ฉันมักจะแนะนำให้เพื่อน ๆ มาและใช้เวลาสำรวจวัฒนธรรมของเวียดนาม ฉันคิดว่ามันน่าจดจำและเติมเต็มการเดินทางของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณรักการช้อปปิ้งและชีวิตที่วุ่นวาย ประเทศไทยคือประเทศที่ดีที่สุด
ความคิดเห็นต่อมานะคะเป็นความคิดเห็นจากชาวแบ็กแพ็กเกอร์ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก ได้มาคอมเม้นเอาไว้ว่า ชาวเวียดนามไม่เป็นมิตร? นั่นเป็นเรื่องที่ผมรับรู้มาก่อนหน้าที่ผมจะไปเวียดนาม ชาวเวียดนามต้องทำงานในเรื่องนี้ให้มากขึ้นแล้ว เพราะประสบการณ์ของผมคือพวกเขาเป็นมิตรมาก ผมอาศัยอยู่ที่ฮานอยเป็นเวลา 4 ปี ผมเดินทางจากไฮฟองลงไปฟานรังและข้ามกว๋างตรี จนไปเกือบถึงชายแดน สปป. ลาว ทุกที่ที่ผมไปผมจะออกไปเดินเล่นเพือ่พบปะกับผู้คนตามร้านค้าและท้องถนน ผู้คนเป็นมิตรเสมอ แม้แต่ในพื้นที่ที่มีการทิ้งระเบิดและการสู้รบกันในระหว่างสงคราม การเจรจาต่อรองเป็นความจริงของชีวิตในประเทศกำลังพัฒนา หากคุณจ่ายเงินมากกว่าคนในท้องถิ่น แสดงว่าคุณยังต่อรองได้ไม่ดี ไปฝึกฝนทักษะการเจรจาต่อรองมาใหม่ และอย่าบ่นว่าถูกโกงอีก บางครั้งผมก็ได้ของที่ถูกกว่าชาวบ้านด้วย ถ้ามีคนเข้ามาหาผม ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ประเทศอะไร ผมมักจะหยุดและพูดคุยด้วยเสมอ หรือหากมีนักเรียน หรือผู้ใหญ่เข้ามานั่งบนม้านั่งแล้วถามว่าคุณจะคุยกับพวกเขาไหม เพื่อที่พวกเขาจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าจะมีบางคนพยายามที่จะเข้ามาขายของ ขายหนังสือ ขายหมวก หรือสิ่งอื่นๆให้คุณ หรือบางทีพวกเขาอาจจะเข้ามาเพื่อขอให้คุณบริจาคให้กับเขาก็ได้ แต่พวกเขาจะไม่ขโมยของของคุณ
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ฉันเคยอาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีโอกาสได้ไปเที่ยวเวียดนามมาแล้ว 5 ครั้ง ประเทศไทยมีการพัฒนาและสะดวกมากขึ้นในเกือบทุกด้านในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน: สนามบิน โรงแรม การคมนาคมขนส่ง ถนน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ซึ่งเวียดนามน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปีในการไล่ตามให้ทัน เวียดนามดูเหมือนเมืองขยะที่ใหญ่มาก สกปรก มีกองขยะในทุกที่ การขาดสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก แม้แต่อาคารใหม่ๆก็ยังด้อยค่าดูราคาถูกมาก ไม่ใช่ว่าประเทศไทยจะดีเป็นพิเศษในเรื่องนั้น แต่อย่างน้อยก็นำหน้าเวียดนามอยู่ อย่างไรก็ตาม คุณภาพของอาคารในภูมิภาคนี้จะไม่เหมือนกับในประเทศที่พัฒนาแล้ว
-เวียดนามมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ทำให้ที่นั่นยังมีจุดหรือสถานที่ที่ยังไม่ถูกทำลายเหลืออยู่มาก และให้ความรู้สึกแบบดั้งเดิมและดูดิบๆมากกว่า ในขณะที่ประเทศไทยก็สามารถจัดการกับนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าเริ่มที่จะพัฒนามากเกินไปในหลาย ๆ ที่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกาเป็นอย่างมาก แฟรนไชส์ของอเมริกาตามทางหลวง ห้างสรรพสินค้า และวัฒนธรรมทางรถยนต์หลายแห่งมีลักษณะคล้ายกันกับที่อเมริกาเหนือ ผู้คนต่างพากันคลั่งไคล้หมู่เกาะและชายหาดของไทย แต่พวกเขาจะรู้สึกแออัดมากในช่วงฤดูท่องเที่ยว ในเวียดนามก็มีชายหาดที่สวยงามเช่นกัน แม้แต่ในเมืองใหญ่อย่างดานังซึ่งคนจะยังไม่พลุกพล่านมากนัก
-เวียดนามได้รับอิทธิพลจากจีนอย่างชัดเจน ประชาชนมีความตรงไปตรงมาและหยาบคายมากกว่า ไม่ได้บอกว่าไม่มีคนที่เป็นมิตร แต่โดยปกติแล้วคนไทยจะมีความกลมกล่อม ดูเป็นมิตรและยิ้มแย้มมากกว่า ซึ่งในบางครั้งอาจจะดูเฟกๆไปบ้างก็ตาม ในความคิดของฉันเวียดนามมีการหลอกลวงและมีการโกงมากกว่า
-กาแฟเวียดนามอาจจะดีที่สุดในโลก และราคาถูกมาก วัฒนธรรมของร้านกาแฟก็มีมากมาย นี่เป็นสิ่งที่ฉันชอบเป็นการส่วนตัว ฉันสามารถเดินทางไปที่นั่นเพื่อดื่มกาแฟเพียงเท่านั้น ทุกวันนี้ประเทศไทยมีร้านกาแฟดีๆ อยู่มากมายเช่นกัน แต่ก็มีร้านกาแฟธรรมดาๆ อยู่มากมายด้วย และพวกเขาก็มักจะเสิร์ฟเครื่องดื่มแบบมาตรฐานซึ่งแตกต่างจากรสชาติของเวียดนามที่ไม่เหมือนใคร อาหารใช้ได้ทั้งสองที่ แต่อาจะเอียงๆเล็กน้อยให้กับอาหารไทย แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความเห็นของฉันเท่านั้น
-ประเทศไทยมีสาวประเภทสอง อยู่ทุกหนทุกแห่ง และมีสุนัขจรจัดมากมาย โชคดีที่ไม่ได้เจอกับพวกเขามากนักในเวียดนาม
-การจราจรตามเมืองต่างๆ ในประเทศเวียดนามเลวร้ายและตึงเครียดมาก เนื่องจากการไม่มีสะพานลอยและรถจักรยานยนต์ก็เยอะมาก พวกเขาทำให้มันยากต่อการเดินข้ามถนน และในสถานที่บางแห่งเช่นฮานอย คุณจะต้องคอยระวังว่าพวกเขาผ่านไปมาเมื่อคุณเดินอยู่บนถนนแคบๆ ในขณะที่ประเทศไทยมีรถเยอะกว่าและรถก็ติดมากกว่า ถนนในไทยเป็นหนึ่งในถนนที่อันตรายที่สุดในโลก เวียดนามอาจมีอุบัติเหตุหลายครั้งเช่นกัน แต่ฉันเดาว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
- เวียดนามมีสภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปที่ดีกว่า ทางเหนือของเวียดนามอากาศหนาวเย็นค่อนข้างมากในฤดูหนาว แม้แต่ตอนกลางของเวียดนามก็ยังเย็นกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่ละติจูดก็คล้ายกันกับประเทศไทย กรุงเทพฯในเดือนมีนาคมและเมษายนค่อนข้างอบอ้าว ฉันไม่คิดว่าเวียดนามจะร้อนขนาดกรุงเทพ ดานังมีสภาพอากาศค่อนข้างดีตลอดทั้งปี
ความคิดเห็นต่อมานะคะ หลังจากใช้เวลา 2 สัปดาห์ในประเทศไทยและ 4 สัปดาห์ในเวียดนาม ฉันขอแนะนำเวียดนามให้คุณ ทั้งคู่ยอดเยี่ยมมาก และถ้าคุณมีโอกาสฉันแนะนำให้ไปทั้งสองที่ แต่ถ้าคุณต้องเลือกสำหรับฉันฉันคงเลือกเวียดนาม ที่นั่นมีอะไรให้ดูมากมายและหลากหลาย ความเร่งรีบและคึกคักที่น่ากลัวในเมืองต่างๆ เช่น ฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ เนินเขาที่สวยงามในซาปา แนวชายฝั่งที่ยอดเยี่ยมพร้อมอ่าวฮาลอง และชายหาดที่สวยงาม อาหารที่ยอดเยี่ยมและราคาก็ถูกมาก
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังมองหามากกว่า ประเทศไทยมีการพัฒนามากขึ้น ง่ายต่อการเดินทางไปไหนมาไหน ชายหาดและอาหารก็ดี รวมถึงผู้คนด้วย โดยทั่วไปแล้วจะใช้ภาษาไทย แต่ภาษาอังกฤษก็มีบ้าง เห็นได้ชัดว่าคนไทยที่มีอายุมากจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ในขณะที่เวียดนามนั้นกำลังพัฒนา ไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษ เวียดนามจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากในอีก 5 ปีข้างหน้า อาหารก็ไม่ได้เด่นมากนักแต่ก็ไม่ได้แย่
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ผมไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศไทยได้มากนัก เพราะผมไปแค่ภูเก็ตเท่านั้น แต่ผมได้ใช้เวลาสองเดือนในเวียดนามและมีประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์มาก ผู้คนมีความเป็นมิตรมาก ในภาคใต้จะมีมากกว่าในภาคเหนือ และพวกเขายินดีต้อนรับคุณ มีอะไรให้ดูมากมายในแง่ของวัฒนธรรม ธรรมชาติ และอาหารก็อร่อยมาก นอกจากนี้มันก็ยังมีราคาที่ถูกสุดๆ อีกด้วย ในเชิงอาชญากรรมปลอดภัยจริงๆ ยกเว้นการล้วงกระเป๋า
ความคิดเห็นต่อมานะคะ อย่าไปเวียดนาม พวกเขายังไม่พร้อม เป็นไปได้มากว่าคุณจะผิดหวัง คูณจะต้องตกใจ คูณมักจะถูกโกง และการพักร้อนของคุณจะกลายเป็นนรกที่เต็มไปด้วยขยะและอารมณ์ด้านลบอื่นๆ อย่าเชื่อภาพในอินเตอร์เน็ต ผมเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาราวๆ 8 ปีแล้ว พูดได้เลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าไปที่สุด ธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนน่ารักจริงๆ อาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ และมีบรรยากาศเชิงบวกที่เงียบสงบอยู่เสมอ ทางเลือกขึ้นอยู่กับคุณ ขอให้เที่ยวให้สนุก!
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ผมคิดว่าเวียดนามเป็นประเทศที่สวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ผู้คนน่าจะเป็นมิตรน้อยที่สุดด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าชาวเวียดนามยังคงไม่ชินกับชาวต่างชาติ ผมคิดว่าชาวกัมพูชาเป็นมิตรที่สุด พวกเขาทำให้ผมนึกถึงคนไทยเมื่อหลายปีก่อน อย่างไรก็ตามดูแล้วประเทศไทยน่าจะดีที่สุด เนื่องจากผู้คนยังคงเป็นมิตร มีสถานที่ที่น่าไปเที่ยวและเข้าถึงได้มากที่สุด
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ผมเคยไปเวียดนาม 4 ครั้ง และประเทศไทย 3 ครั้ง สำหรับผมต้องเวียดนาม ซึ่งไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นเพื่อนสนิทของผมก็บอกแบบนี้เหมือนกัน ผมพบว่าคนเวียดนามเป็นมิตรที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ผมได้เป็นอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษ และได้ขี่มอเตอร์ไซค์ที่นั่นมามากแล้ว ฮานอยและคอนตูมเป็นสองเมืองโปรดของผม เพื่อนของผมบอกผมว่า ตอนนี้เวียดนามก็เหมือนกับประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้วนั่นแหละ
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ฉันได้ไปเที่ยวมาแล้วทั้งสองประเทศ ได้ใช้เวลามากมายในการค้นหาธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็แตกต่างกันมาก มันจึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณสนใจ ถ้าให้เลือกเพียง 1 ประเทศก็ไปเวียดนาม มันจะทำให้คุณรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะต้องการสัมผัสกับธรรมชาติในรูปแบบไหน ที่นั่นยังคงสวยงาม สมบูรณ์ และอลังการมาก
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ฉันคิดว่าเวียดนามเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางของคุณ เพราะฉันอาศัยอยู่ในเวียดนามและรู้สึกทึ่งกับที่นี่มาก แต่บางประเด็นก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผู้คนยังคงทิ้งขยะไปทั่ว นักท่องเที่ยวยังคงบ่นเรื่องการจราจร คาดหวังว่าปัญหาเหล่านี้จะดีขึ้น เวียดนามเป็นสถานที่ที่ดีหากคุณจะลองมาเที่ยว
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ผมอยากให้คนส่วนใหญ่เดินทางมาประเทศไทยมากกว่า เพราะโดยรวมแล้ว ประเทศไทยมีประเพณีการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยายุคกลาง ถึงแม้ว่าผมจะชอบเวียดนาม แต่ประเทศก็ยังไม่ฟื้นตัวจากสงคราม เพราะความขัดแย้งครั้งสุดท้ายระหว่างจีนกับกัมพูชาสิ้นสุดลงในปี 1991 นั่นหมายความว่าเวียดนามยังคงยากจนกว่าไทยมาก ดังนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามจึงยังไม่โดดเด่นเท่ากับประเทศไทย ในขณะเดียวกัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตมากที่สุดในเอเชียอีกด้วย จึงทำให้เวียดนามไม่น่าชื่นชมสักเท่าไหร่ และนี่คือสาเหตุบางประการที่ว่าทำไมถึงควรเลือกไปประเทศไทย 1.ผู้คนมีอัธยาศัยที่ดีและเป็นมิตร 2.อาหารราคาถูก 3.มีโคมไฟตามท้องถนนที่สวยงามในยามค่ำคืน 4.มีชายหาดที่ยอดเยี่ยม เช่น ชายหาดที่ภูเก็ต 5.มีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน เป็นการผสมผสานระหว่างไทย อินเดีย และ จีน 6.หนังผีตลก 7.ไม่มีการลักขโมย เพราะคนไทยทุกคนได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว ที่เวียดนามการโจรกรรมยังคงเป็นเรื่องธรรมดาที่พบได้ทั่วไป ข้อดีข้อเดียวของเวียดนามที่ผมเห็นคือ ผู้คนที่เป็นมิตรและอาหารที่ดี เราคงต้องปล่อยให้เวียดนามพัฒนาไปอีกสัก 20 ปี ซึ่งในที่สุดแล้วพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวและสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ดีได้ และสำหรับในประเทศไทย ผมคิดว่าคุณควรออกไปสำรวจนอกกรุงเทพฯด้วย เช่น บุรีรัมย์ และเชียงใหม่
ความคิดเห็นต่อมานะคะ ในฐานะที่ผมเป็นชาวเวียดนาม ผมต้องบอกว่ามันไร้สาระมากที่มีการแข่งขันกันระหว่างเวียดนามกับไทย หยุดสักทีเถอะนะ! กรุงเทพฯอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ดังนั้นเวียดนามและไทยจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจมากกว่าหากทั้ง2ชาติสามารถทำงานร่วมกันได้ ดีกว่าที่จะมาแข่งขันกันเอง แน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่ไปประเทศไทยก็อาจจะไปเวียดนามด้วย หรือกลับกันนักท่องเที่ยวที่มาเวียดนามก็อาจจะไปไทยด้วยเช่นกัน แม้แต่กัมพูชาก็ยังจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากการขยายตัวทางการท่องเที่ยวในเวียดนามและไทย
ความคิดเห็นสุดท้ายสำหรับคลิปนี้นะคะ คุณควรไปทั้งสองที่ ไม่มีประเทศไหนที่เหมือนกัน คุณจะไม่รู้สึกเสียดายเวลาของคุณในเวียดนามหรือในประเทศไทย ในขณะที่คุณไม่มีประสบการณ์ในประเทศไทย คุณจะรู้ถึงสิ่งที่ดีกว่าหรือแย่กว่านั้นได้อย่างไรเมื่อคุณไปเวียดนาม? การจัดทริปที่ดีคือกุญแจสำคัญสำหรับเรื่องนี้ จากการสังเกตของผมในเรื่องของความปลอดภัย การมาประเทศไทยก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน
ที่มา: https://bit.ly/3nZFbWE
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องด่วน ก่อนเกลี้ยงแผง!!
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จักรวาลร่วมฉลองส่งท้ายปี! NASA อวดโฉม "ต้นคริสต์มาสยักษ์" แห่งห้วงอวกาศลึก 2,500 ปีแสง
ทำไมคนค้าขายสินค้าที่ผิดศีลธรรมจึงร่ำรวย?
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
รีวิวหนังดัง SURROGATES คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
ย้อนชะตากรรม "ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์" ยอมแก้ราชโองการเพียงหนึ่งคำ เพื่อรักษาชีวิตคนนับพัน
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
ด่วน! แก๊งสแกมเมอร์จีน–กัมพูชาแตกฮือ ปอยเปตอลหม่าน หลังทหารกัมพูชายึดอาคารใช้เป็นฐานทหาร ตกเป็นเป้าการสู้รบชายแดน
ย้อนชะตากรรม "ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์" ยอมแก้ราชโองการเพียงหนึ่งคำ เพื่อรักษาชีวิตคนนับพัน


