กระชับหุ่นสวย ด้วย Coolsculpting ที่ไหนดี วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยสลายไขมันด้วยความเย็น

Coolsculpting ที่ไหนดี ช่วยให้หุ่นสวย ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

เลือกทํา Coolsculpting ที่ไหนดี? บางคนที่อยากสลายไขมันด้วยความเย็น แต่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่เพราะกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ ดังนั้นก่อนเลือกคลินิกเรามาศึกษาข้อมูลในบทความนี้กันก่อนค่ะ เพื่อความมั่นใจในการกระชับหุ่นสวยได้อย่างปลอดภัย

เราสามารถเลือกทำ Coolsculpting ที่จุดไหนของร่างกายได้บ้าง ?

หน้าท้อง ต้นขา และต้นแขน เป็นจุดที่ได้รับความนิยมในการสลายไขมันด้วยความเย็น หรือ Coolsculpting มากที่สุด

ส่วนบริเวณอื่น ๆ สามารถทำได้เช่นกัน ได้แก่ ใต้คาง บริเวณหน้าอก บริเวณสะโพก ไปจนถึงบริเวณปีกหลังใต้วงแขน เมื่อทำแล้วก็ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเช่นกันค่ะ

บริเวณต่าง ๆ ที่สามารถทำ Coolsculpting ได้ 

Coolsculpting ที่ไหนดี ควรเลือกดูคลินิกอย่างไรในการสลายไขมันด้วยความเย็น?

ปัจจุบันนี้มีคนให้ความสนใจในการสลายไขมันด้วยเครื่อง Coolsculpting กันเยอะขึ้นค่ะ เพื่อเซลล์ไขมันจะถูกกำจัดออกไปได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน และไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ส่วน 5 เรื่องหลัก ๆ ที่เราควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจว่าจะทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นที่ไหนดี ได้แก่

1. หาข้อมูลของคลินิกให้มั่นใจก่อนเสมอ

การศึกษารีวิวคนไข้ที่เคยทำ Coolsculpting จริงในคลินิกที่เรากำลังให้ความสนใจอยู่ ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยค่ะ เราควรดูว่าคนไข้ที่เคยเข้ารับบริการมาก่อนมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง กรณีที่มีเคสหลุด ทางคุณหมอและคลินิกแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างไร โดยเราสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั้งจากแฟนเพจ เฟซบุ๊ค และกระทู้ในเว็บไซท์ต่าง ๆ ค่ะ

2. ดูอย่างไรว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน

เพื่อความปลอดภัย และเห็นผลจริง Coolsculpting ที่ไหนดี เราควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตรับรอง ถูกกฎหมาย คลินิกดูสะอาด โปร่งโล่งสบายตา ไม่อับทึบ และใช้เครื่องแท้ในการทำ coolsculpting ให้กับคนไข้ มีคุณหมอที่มีความชำนาญให้ความดูแลในทุกเคส

3. ต้องดูด้วยว่าผู้ที่ทำ Coolsculpting ให้เรา เป็นแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญหรือไม่

ประเด็นสำคัญในด้านความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ คือ ความสามารถในการประเมินการรักษาได้อย่างเหมาะสม และตรงจุด ในการสลายไขมันด้วยความเย็นให้แก่คนไข้เคสต่าง ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเลือกทำ Coolsculpting โดยมีแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมคอยให้การดูแลค่ะ

4. เลือกคลินิกที่มีบริการที่ดี

เมื่อเราลองเข้าไปปรึกษา แพทย์ควรให้คำแนะนำได้อย่างตรงประเด็น ตอบคำถามอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ให้การดูแลคนไข้ด้วยความเอาใจใส่ค่ะ

5. เลือกคลินิกที่ตั้งราคา CoolSculpting ไว้อย่างเหมาะสม

เรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้อระวังก็คือ คลินิกที่แอบใช้เครื่องเลียนแบบในการทำ ซึ่งไม่ได้ใช้ชื่อ CoolSculpting เครื่องมือที่ไม่ใช่ของแท้จะมีระบบความปลอดภัยที่ไม่ได้มาตรฐาน ความเสี่ยงที่ตามมาคือ อาจเกิดผิวหนังไหม้จากความเย็น (หรือ freeze burn)

เราจึงควรพิจารณาเลือกคลินิกที่ตั้งราคา Coolsculpting ไว้ไม่ถูกจนเกินไป เป็นเรทที่ดูสมเหตุสมผลเมื่อเปรียบเทียบกับคลินิกที่ได้มาตรฐานใกล้เคียงกันค่ะ เพื่อมั่นใจได้ว่าไม่เป็นเครื่องเลียนแบบหรือเครื่องปลอม

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ Coolsculpting คือใคร?

หากคุณเป็นคนป่วยที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดตรงบริเวณที่จะทำ Coolsculpting , หรือเป็นคนที่มีการแข็งตัวของเลือดไม่ปกติ หรือติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ (หรือติดอุปกรณ์ใด ๆ ) ในร่างกาย, หรือคนที่แพ้ความเย็น รวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ล้วนเป็นผู้ที่แพทย์ไม่แนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วย Coolsculpting ค่ะ

จะรู้ได้อย่างไรว่า เราเหมาะจะทำ Coolsculpting หรือไม่ ?

หากเราเป็นคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณเอว ต้นแขน หน้าท้อง และอยากจะมีรูปร่างที่ดูดีขึ้นด้วยการลดไขมันเฉพาะจุด สามารถเลือกทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เพื่อจัดการกับปัญหาหนักใจเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

1. ใครที่มีไขมันส่วนเกินไม่เยอะมาก พิจารณาได้จากเป็นคนที่มี BMI < 35 สามารถเลือกทำ CoolSculpting ได้โดยไม่จำเป็นต้องดูดไขมัน ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็นจะให้ผลแบบเดียวกัน แถมยังมีผลข้างเคียงน้อยกว่ามากอีกด้วย
2. คุณแม่หลังคลอดที่ไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง ต้องการกระชับสัดส่วนให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ต้องรอนาน
3. ผู้ที่ลดส่วนเกินได้ยาก แม้จะจำกัดปริมาณอาหารอย่างเคร่งครัด และพยายามบริหารร่างกายแล้ว แต่ก็ยังคงมีไขมันสะสมอยู่ตามจุดต่า งๆ ของร่างกาย
4. ผู้ที่กลัวเจ็บมาก ๆ รวมถึงผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น จึงไม่สะดวกที่จะเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมัน

ทำ Coolsculpting มีข้อดีอะไรบ้าง

สลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะกับยุคที่ต้องการความเร่งด่วนอย่างทุกวันนี้ค่ะ เพราะใช้เวลาในการรักษาเพียงจุดละประมาณ 35 นาทีเท่านั้น สะดวกกว่าการผ่าตัดดูดไขมันมาก ไม่ต้องกังวลในเรื่องผลข้างเคียงอีกด้วย

ในการทำแต่ละครั้งจะช่วยสลายเซลล์ไขมันได้มากถึง 25% เห็นผลลัพธ์ได้จริง สัดส่วนบริเวณที่ทำจะดูเล็กลง เมื่อทำไปครบ 3 เดือนแล้วหากอยากได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นสามารถกลับมาทำซ้ำได้อีกค่ะ

การทำ Coolsculpting สามารถทำในคนที่มีอายุเท่าไร?

สำหรับคนที่ยังอายุน้อยอยู่ และสามารถลดสัดส่วนได้เองไม่ยากจากการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ยังไม่แนะนำให้ทำ Coolsculpting ค่ะ

ภาพด้านบนนี้อธิบายถึง Coolsculpting มีกระบวนการทำงานอย่างไร 

แต่สำหรับคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มักเผชิญปัญหาระบบเผาผลาญไม่ดี และจากการที่เซลล์ไขมันแบ่งตัวเพิ่มขึ้น แม้จะพยายามลดน้ำหนักเพียงใดแต่เซลล์ไขมันก็แค่แฟบตัวลง แต่ไม่ใช่การลดจำนวนเซลล์ไขมันให้น้อยลง สามารถเลือกทำ Coolsculpting ได้ค่ะ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้จำนวนเซลล์ไขมันเพิ่มขึ้นอีก หลังจากลดปริมาณเซลล์ไขมันลงได้อย่างถาวร 25% ต่อการทำแต่ละครั้ง

ทํา Coolsculpting ที่ไหนดี  สรุปสั้น ๆ ก็คือ เราควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นที่เป็นเครื่องแท้ คุณหมอมีความชำนาญ ให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่เป็นอันตราย และเห็นผลค่ะ