Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

งานวิจัยใหม่ 3 ประเทศ ระบุตรงกัน 'ไฟเซอร์'ภูมิลดหลัง6เดือน แต่กัน'ป่วยหนัก-ตาย'ได้ตลอด

เนื้อหาโดย เล่าสู่กันฟัง

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก อัปเดตงานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีน Pfizer/Biontech ดังนี้ 

 

ล่าสุดมีงานวิจัยเพิ่มเติมอีก 3 ชิ้น จากอิสราเอล กาตาร์ และอเมริกา ที่ทำให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน

 

งานศึกษาที่อิสราเอลนั้นทำในบุคลากรทางการแพทย์ 3,808 คน พบว่าหลังฉีดวัคซีนไปครบสองเข็ม ระดับแอนติบอดี้ IgG จะสูงสุดในช่วง 4-30 วันหลังฉีดเข็มสอง และค่อยๆ ลดลงในช่วง 6 เดือนถัดมา ทั้งนี้ระดับ Neutralizing antibody ก็ลดลงในลักษณะเดียวกัน โดยการลดลงของภูมิคุ้มกันนั้นจะลดมากในกลุ่มคนที่สูงอายุ, เพศชาย, มีโรคประจำตัวตั้งแต่ 2 โรคขึ้นไป, หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง/โรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง

 

ส่วนการวิจัยที่กาตาร์นั้น ศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง 947,035 คน พบว่าระดับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อนั้นสูง 77% ภายในเดือนแรกหลังฉีดวัคซีนครบ แต่จะลดลงเหลือ 20% หากติดตามไปถึงเดือนที่ 5-7 อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิตนั้น ยังคงสูงถึง 96% และไม่ได้ลดลงตลอดช่วง 6 เดือนที่ติดตามผล

 

ในขณะที่การวิจัยที่อเมริกา ศึกษาในกลุ่มประชากร 3,436,957 คน ติดตาม 6 เดือน พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสูงถึง 88% ในช่วงเดือนแรก และลดลงเหลือ 47% ในเดือนที่ 5 แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงสูง 87% ในเดือนแรก และ 88% ในเดือนที่ 5 โดยประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นได้ผลทั้งในสายพันธุ์เดลต้าและสายพันธุ์อื่น

 

ความรู้จากงานวิจัยข้างต้นทั้งหมด ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของภูมิคุ้มกันจากวัคซีนมากขึ้นว่า การจะป้องกันการติดเชื้อนั้นคงต้องอาศัยระดับแอนติบอดี้ที่สูงมากเพียงพอ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทั่วโลกกำลังวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

 

อย่างไรก็ตาม การฉีดเข็มกระตุ้นที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเพื่อหวังจะกระตุ้นภูมิให้สูงขึ้นนั้น นอกจากหวังผลที่จะป้องกันการติดเชื้อแล้ว ยังหวังผลที่จะลดผลกระทบจากการติดเชื้อที่แม้จะอาการน้อย แต่อาจเกิดภาวะคงค้างที่เรารู้จักในชื่อว่า Long COVID อีกด้วย

 

ในขณะที่การป้องกันการป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิตนั้น ประสิทธิภาพของวัคซีนยังคงเดิมอยู่นานตลอดการติดตามผล น่าจะมาจากกลไกตอบสนองของร่างกาย ที่มีความจำฝังอยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน ผ่าน memory B cells ที่จะสร้างแอนติบอดี้เพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ และผ่านระบบภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ในการต่อสู้กับเชื้อโรคภายหลังการติดเชื้อได้ จึงทำให้ลดป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิตได้ แม้จะได้รับวัคซีนมานานแล้วก็ตาม

 

สำหรับประชาชนไทยเรา ขอให้ป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตรนะครับ เพราะยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง และจะมีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังมีการผ่อนคลายการใช้ชีวิต และกำลังจะเปิดเมือง เปิดท่องเที่ยว และเปิดประเทศ

เนื้อหาโดย: ข่าววันนี้
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เล่าสู่กันฟัง's profile


โพสท์โดย: เล่าสู่กันฟัง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: มยุริญ ผดผื่นคัน, เยี่ยหัว, bgs
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกิดอะไรขึ้น ราคาทองคำผันผวนกระทันหัน!ดาราดังของจีน "เซีย อี้ตัน" เสียชีวิตแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เกิดอะไรขึ้น ราคาทองคำผันผวนกระทันหัน!"พั๊นรักแมว" เอาผิดเกรียนโซเชียล หลังถูกกล่าวหาใช้เส้นสอบเข้าแพทย์ ทนายเจบีลุยดำเนินคดี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ ที่ท่าเรืออิหร่าน เจ็บเกือบพันคน!!รัสเซียจัดคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ จบสงครามโลกครั้งที่ 2เนสโกยก 3 มรดกไทยขึ้นทะเบียนโลก ปี 2568ค่าไฟลดต่อเนื่อง ไม่เอื้อประโยชน์กลุ่มใด
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง