วราวุธห่วง ผันน้ำท่าจีนเกินขีด ถอดบทเรียนปี 2554

1 ตุลาคม 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ Top Varawut – ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา
เรียกร้องไม่ให้ผันน้ำเจ้าพระยาเข้าสู่แม่น้ำท่าจีน บทเรียนน้ำท่วม จนเกินขีดความสามารถรับน้ำ

นายวราวุธ กล่าวว่า ” น้ำท่วมทุกครั้ง สุพรรณบุรีและกลุ่มจังหวัดฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ถูกใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลท่วมจังหวัดตอนล่าง

แต่ความเสียสละของพี่น้องประชาชนฝั่งตะวันตก ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็เหมือนจะยังไม่เพียงพอ ยังคงมีข้อครหา จากบางคน บางกลุ่ม ในทุกครั้งที่เกิดอุทกภัยว่า “นักการเมืองบางกลุ่ม กีดกันการบริหารน้ำ เพราะกลัวน้ำจะท่วมสุพรรณ”

ผมขออธิบายข้อเท็จจริง ให้เห็นภาพกันสักนิด สามารถดูแผนที่ระบายน้ำประกอบได้ครับ

พื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม มีลักษณะทางกายภาพเป็นที่ลุ่มต่ำ และมีศักยภาพการระบายน้ำได้ต่ำกว่าฝั่งตะวันออกมาก เพราะแม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำสายเล็ก และมีความคดเคี้ยว ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก ระบายน้ำได้ช้ากว่าฝั่งตะวันออกและเส้นหลักคือตัวแม่น้ำเจ้าพระยาเอง

ประกอบกับ กลุ่มจังหวัดฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้ทำหน้าที่แค่รองรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น

แต่ยังต้องรับน้ำ Side Flow หรือน้ำท่วมทุ่งที่ไหลท่วมมาจากฝั่งจังหวัดกาญจนบุรีที่มีปริมาณมหาศาล แค่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณไหลเข้ามากว่า 300 ลบ.ม./วินาที

จากรูป ท่านจะเห็นว่า น้ำที่ผันจากเจ้าพระยา ณ จุดแรก ที่ประตูระบายน้ำพลเทพ มีความเร็วน้ำอยู่ที่ 80 คิว/วินาที และจุดที่สอง ประตูระบายน้ำท่าโบสถ์ ความเร็วลดเหลือ 67 คิว/วินาที

แต่เมื่อถึงจุดที่ 3 และ 4 คือ ประตูสามชุก และ ประตูโพธิ์พระยา มวลน้ำมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เป็น 193 และ 306 คิว/วินาที ตามลำดับ

มวลน้ำที่เพิ่มมาระหว่างทางนี่ล่ะครับ คือน้ำ Side Flow ที่กลุ่มจังหวัดตะวันตก ต้องรองรับมาจากกาญจนบุรีด้วย

ฉะนั้นแล้ว หากเราผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาเพิ่มในแม่น้ำท่าจีนอีก ก็จะทำให้มวลน้ำที่ท่วมในพื้นที่อยู่แล้ว สูงขึ้นและท่วมหนักไปอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.บางปลาม้าและอ.สองพี่น้อง ที่ต้องเสียสละท้องนาของตนเอง ให้เป็นทุ่งรับน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร มาตลอดหลายสิบปี

หากใครที่ยังคิดว่าสุพรรณน้ำไม่ท่วม คงต้องเรียนเชิญให้มาเห็นกับตา เพื่อพิจารณาข้อมูลใหม่ครับ

และหากใครที่เชื่อว่า เรายังสามารถผันน้ำ จากเจ้าพระยา เข้าแม่น้ำท่าจีนได้อีก ก็ต้องขอให้ทบทวนถึงเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพเมื่อปี 2554 ครับ

ในปีนั้น ได้มีการผันน้ำจากเจ้าพระยา มาทางประตูน้ำพลเทพเป็นจำนวนมาก จนน้ำที่ปกติจะท่วมแค่เฉพาะในพื้นที่สุพรรณ ไหลบ่าเพิ่มมาถึงทุ่งพระยาบรรลือ และทุ่งพระพิมล จนไหลมาท่วมถึงบางบัวทอง ไหลเข้าฝั่งธนบุรี เลยไปถึงศาลายา และนครชัยศรี และท้ายที่สุดก็ใช้เวลานานมากกว่าน้ำจะระบายลงทะเลหมด ซึ่งในขณะเดียวกัน มวลน้ำทางซีกตะวันออกของเจ้าพระยา ได้ระบายหมดก่อนไปนานแล้ว บทเรียนน้ำท่วม

ดังนั้น สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ผันมาทางฝั่งตะวันตกก็ด้วยเหตุและผล ที่ได้ชี้แจงมาข้างต้นครับ แต่ถ้าหากจะต้องผันน้ำมาเพิ่มอีก ก็ต้องเรียนว่า สุพรรณเราท่วมทุกปีอยู่แล้ว ในตอนนี้ก็ยังท่วมอยู่ และคงจะต้องท่วมต่อไปอีก เพราะเราเป็นที่ลุ่มต่ำ อยู่ในจุดที่ต้องรับมวลน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้พี่น้องที่อยู่ถัดลงไปต้องเดือดร้อนเหมือนพวกเราครับ “

ที่มา เฟซบุค : Top Varawut – ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา

โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ
ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน 

ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่

Blockdit : https://www.blockdit.com/topnewsfocus

facebook : https://www.facebook.com/Topnewsfocus

Twitter : https://twitter.com/Topnewsfocus