วราวุธ ศิลปอาชา ตั้งรับสู่น้ำท่วมเพื่อชาวสุพรรณ เร่งขอเครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือพร้อมติดตั้งแล้ววันนี้อย่างเร่งด่วนลดความเดือดร้อนของสุพรรณบ้านเกิด
สถาการณ์น้ำท่วมล่าสุดตอนนี้จากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” บริเวณเมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาวส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ซึ่งผลกระทบนี้มีผลกับทางภาคกลางส่วนล่างเพราะเป็นกระแสน้ำเหลือไหลลงมา อย่างล่าสุดจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนจังหวัดหนึ่งได้แก่ สุพรรณบุรี มีฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากขึ้นสูงท่วมหมู่บ้าน โรงเรียน บ้านพักครู ชาวบ้านเร่งขนของขึ้นที่สูงหนีน้ำเพราะเกรงว่าถ้าฝนตกไม่หยุดหวั่นเกิดวิกฤติอุทกภัย เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ หลังจากนั้นไม่นานได้มีน้ำป่าจากอุทยานฯ พุเตย และอำเภอบ้านไร่ไหลลงสู่ลำห้วยด่านทำให้น้ำสูงขึ้นกว่า 1 เมตร ถนนถูกตัดขาดทั้งหมดทำให้น้ำทะลักท่วมหมู่บ้านทันที ทางอบต.รีบประกาศเตือนภัยให้ชาวบ้านขนของหนีน้ำ จากการสำรวจพบ โรงเรียนวัดกกตาดและบ้านพักครูน้ำท่วมเสียหาย นอกจากนี้น้ำป่ายังทะลักไปถึง 5 หมู่บ้านของตำบลห้วยขมิ้น ได้แก่ หมู่ 5 บ้านป่าแฝก หมู่ 9 บ้านกกตาก หมู่ 11 บ้านป่าเลา หมู่ 8 บ้านกกเต็น หมู่ 15 บ้านกกเต็นใหม่ มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบหลายหลังคาเรือน โดยวันนี้ได้จัดชุดป้องกันภัย ต.ห้วยขมิ้น ร่วมกับหลายหน่วยงานเฝ้าระวังน้ำท่วมสูงตลอด 24 ชม. ถ้าฝนยังไม่หยุดตกอาจจะเข้าขั้นวิกฤติ เบื้องต้นได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ด้านนายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดวันนี้ได้รับข่าวดีอย่างมากจาก ท่านวราวุธ ศิลปอาชา ที่ไม่ทอดทิ้งชาวสุพรรณบุรีบ้านเกิด ได้ลงงานดูพื้นที่เร่งสั่งการตามแนวความคิดพ่อบรรหารที่เคยสร้างไว้ โดยเร่งสั่งให้ สส. และผู้ที่เกียวข้องในพื้นที่ทั้งหมดรีบช่วยพี่น้องประชาชนชาวสุพรรณ โดยการเร่งขอเครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือ จำนวน 12 ตัว โดยที่ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนำมาใช้ผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีน เร่งระบายน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้ง ใน อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง โดยเครื่องผลักดันน้ำ 12 ตัวนี้ จะประจำการที่บริเวณวัดท่าเจดีย์ อ.สองพี่น้องแล้ว
และในวันนี้ ได้ประสานงานขอเพิ่มไปอีก 8 ตัว เพื่อติดตั้งที่บริเวณรอยต่อ ต.บางตาเถร เพื่อเพิ่มกำลังการระบายน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องผลักดันน้ำของกรมชลประทาน 6 ตัว ประจำการบริเวณประตูน้ำสำเภาทอง อีก 8 ตัว บริเวณประตูน้ำบางสาม และกำลังติดต่อขอเพิ่มอีก 3 ตัว เพื่อประจำการบริเวณสะพานวัดไผ่
รวมทั้งสิ้น จะมีเครื่องผลักดันน้ำ 37 ตัว ประจำการทั่วทั้ง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้มวลน้ำตอนล่างสามารถระบายได้โดยเร็ว รองรับมวลน้ำตอนเหนือ ที่ครอบคลุมไปถึงจ.ชัยนาท ให้สามารถระบายได้คล่องตัวขึ้นตามลำดับเพื่อพี่น้องชาวสุพรรณ จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และได้รับความช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็วเต็มกำลังที่จะทำได้ของท่าน จะว่าไปอาจจะเป็นพื้นที่แรกก็ว่าได้ที่ รัฐมนตรีไม่ทิ้งบ้านเกิดอย่างท่านวราวุธ ศิลปอาชา และทีมงาน สส. ในส่วนต่างจังหวัดที่ สส. พรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ ท่านก็ได้เร่งสั่งการดูแลพี่น้องประชาชนถ้าได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนเช่นกัน แบบนี้อาจจะเป็นพื้นที่ “สุพรรณโมเดล” ให้จังหวัดอื่นๆ ลองทำตามก็ได้เพื่อประชาชนจะได้ไม่ลำบากในผลกระทบอุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ ปี 2564
(ขอบคุณข้อมูลจาก https://web.facebook.com/TOPVarawut/posts/1349496978834904)
(ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dailynews.co.th/news/230718/, https://www.bangkokbiznews.com/news/962003)