หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เมืองใต้ดินคือทางเลือกใหม่ กับสาเหตุหลักที่มวลมนุษยชาติจำเป็นต้องลงมาอาศัยใต้ผืนโลก

เนื้อหาโดย ลูกสาวอบต

ในไม่ช้าไม่นานมนุษย์เราคงต้องย้ายลงไปอาศัยใต้ผืนโลก จากที่เราอยู่ในปัจจุบันคงต้องย้อนกลับใช้วิถีชีวิตแบบในยุคอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน

ซึ่งในอดีตจริงๆแล้วมนุษย์ได้มีการสร้างโครงสร้างใต้ดิน เช่น สุสานใต้ดิน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการฝังศพและวัตถุประสงค์ในพิธีกรรมเป็นหลัก ในยุคปัจจุบัน ระบบรถไฟใต้ดินทั้งหมดถูกขุดขึ้นมาและใช้เป็นประจำในเมืองต่างๆ ทั่วโลก  คำถามยังคงมีอยู่ว่า มนุษย์เคยตั้งถิ่นฐานใต้ดินถาวรที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นเวลานานได้หรือไม่?

เคยมีการค้นพบหลักฐานเมื่อประมาณ 2,700 ถึง 2,800 ปีก่อน มีเมืองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในคัปปาโดเกีย ในประเทศตุรกี ก็คือ เมืองใต้ดินเดอรินกูยู (Derinkuyu) ที่สร้างไว้เพื่อหลบหนีทั้งสภาพอากาศที่เลวร้ายและภัยสงสงคราม ที่สามารถรองรับผู้อาศัยได้ถึง 20,000 คน นับว่าเป็น สิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม มีทั้งบ่อน้ำที่อยู่ลึกลงไปในระดับน้ำใต้ดิน ภายในอุโมงค์ใต้ดินมีรูที่เจาะขึ้นไปถึงพื้นดินเพื่อทำหน้าที่ระบายอากาศ ในเมืองมีการป้องกันหลายชั้น นอกจากนี้ยังมีประตูทางเข้าเมืองที่ทำจากหินทรงกลมขนาดใหญ่สามารถเปิดปิดได้เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากพื้นดิน

เมืองใต้ดินเดอรินกูยู (Derinkuyu) 

 

ในอดีตหลายพันปีนั้น เมืองใต้ดินนั้นเป็นสถานที่หลบภัยในช่วงเวลาอันตราย มีการค้นพบการตั้งถิ่นฐานใต้ดินในหลายพื้นที่ของโลก อย่างไรก็ตาม หลักฐานทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ใช้สถานที่เหล่านี้เป็นทางเลือกสุดท้าย เช่นในกรณีของฤดูร้อนหรือฤดูหนาวสุดขั้ว มนุษย์จะถอยลึกเข้าไปในบ้านถ้ำเพื่อเอาชีวิตรอดในสภาวะที่เลวร้าย ในเมืองโบราณบางเมือง เมืองใต้ดินถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนรอดตายและอยู่อย่างปลอดภัยจากผู้รุกราน ในแต่ละครั้งอาจเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

 

มาสู่ยุคปัจจุบันเหตุผลใดมวลมนุษยชาติจึงต้องลงมาสู่ใต้ผืนโลก? 

1. การหลบหนีระเบิดนิวเคลียร์จากแรงระเบิด 2,000 ไมล์ต่อชั่วโมง อุณหภูมิความร้อนนับล้านองศา และการแผ่รังสีอันตรายร้ายแรง เช่นที่กรุงมอสโกมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับประชากรทั้งหมดรวมทั้งทหารและรัฐบาล หรือที่สวิตเซอร์แลนด์มีหลุมหลบภัยเพียงพอที่จะให้ประชากร 8 ล้านคนได้หลบซ่อน และที่สวีเดนมีที่พักพิงมากกว่า 65,000 แห่งซึ่งเพียงพอสำหรับ 70% ของประชากร เป็นต้น

หลุมหลบภัยในกรุงมอสโกที่มีชื่อว่า GO-42


2.หลบหลีกการเกิดโรคระบาดบนพื้นผิวโลกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลบหนีจากโรคระบาดทั่วโลกที่เกิดจากธรรมชาติหรือจากการก่อการร้ายของอาวุธชีวภาพ

 

3. หนีสภาพอากาศที่แปรปรวนจากภาวะโลกร้อน ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเมืองใหญ่หลายแห่งจะไม่มีคนอาศัยอยู่ภายในปี 2100 ซึ่งถูกคลื่นรังสีความร้อนแผดเผาบนชั้นบรรยากาศที่เราอาศัยอยู่โดยเฉพาะในอินเดียปากีสถานและบังกลาเทศ 

 

เช่นปัจจุบันที่ RÉSO หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเมืองใต้ดิน ใจกลางเมืองมอนทรีออล  แคนาดา เป็นเมืองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวเมื่อปี 1962 มีอุโมงค์ 20 ไมล์และ 35% ของพื้นที่การค้าของเมืองมีสำนักงาน 1,000 แห่งร้านค้า 2,000 แห่งโรงแรม 9 แห่งร้านอาหาร 200 แห่งมหาวิทยาลัยสี่แห่งโรงภาพยนตร์ 40 แห่ง มีผู้เข้าเยี่ยมชม 500,000 คนต่อวันซึ่งชื่นชอบความอบอุ่นในฤดูหนาว เฮลซิงกิในฟินแลนด์มีสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดินมากมาย 

https://landlopers.com

https://landlopers.com

 

https://landlopers.com/

  RÉSO หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเมืองใต้ดิน ใจกลางเมืองมอนทรีออล  แคนาดา


4. การหนีเอาตัวรอด จากดาวตกและการโจมตีของดาวเคราะห์น้อยต่างๆ อย่างเช่นไดโนเสาร์ได้ถูกทำลายล้างไปเมื่อ 66 ล้านปีก่อนโดยการตกลงมาของอุกกาบาตผลกระทบที่ทำให้ฝุ่นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศปิดกั้นแสงแดด และอาจคร่าสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ไปมากถึง 75% 



5.ในหลายประเทศ หรือเมืองใหญ่หลายแห่งมีสภาพแออัดของผู้คนมากเกินไป แต่ไม่สามารถขยายออกไปในแนวนอนของพื้นที่โลกเราได้ อย่างในสิงคโปร์-ปักกิ่ง-นิวยอร์กและเม็กซิโกซิตี้ กำลังขุดลงไปในพื้นที่เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยสำนักงานและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจมากขึ้น  อย่างในสิงคโปร์ กำลังสำรวจทางเลือกในการสร้างทางด้านล่าง เทคโนโลยีที่จำเป็นในการทำเช่นนั้นมีอยู่แล้ว Eun Hee Lee ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่วิทยาเขตมาเลเซียของ University of Nottingham ในมาเลเซียซึ่งศึกษาด้านจิตวิทยาของการอยู่ใต้ดินกล่าว ความท้าทายคือการโน้มน้าวให้ผู้คนย้ายไปอยู่ใต้ดิน

โดยมีการขุดอุโมงค์ใต้ดินความลึกราวๆ 200 เมตร โดยเมืองใต้ดินส่วนใหญ่ถูกแบ่งออกเป็น ชั้นแรกสุด มีความลึกจากผิวดินลงไป 20 เมตร เหมาะแก่งานระบบ เช่นการวางท่อปะปาและท่อก๊าซ ชั้นที่สอง มีความลึก 15 – 40 เมตร เหมาะแก่การอยู่อาศัยหรือสร้างสำนักงาน สถานีรถไฟ ศูนย์การค้า ที่จอดรถ ชั้นที่สาม มีความลึก 30-130 เมตร เป็นส่วนที่ลึกที่สุดไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย สามารถพัฒนาเป็นอุโมงค์สำหรับเก็บสินค้า น้ำมัน หรือสารเคมีอื่นๆ

นี่เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจคของสิงคโปร์ที่ถูกพัฒนาร่วมกับการป้องกันน้ำท่วมประเทศอันเนื่องมาจากปัญหาโลกร้อนที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

 เมืองใต้ดินในสิงคโปร์ แผนแม่บทขุดเมืองใต้ดินแก้ปัญหาพื้นที่จำกัด

เนื้อหาโดย: ลูกสาวอบต
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ภาวะโลกเดือด" การปรับตัวในยุคที่ท้าทายสุดขีดของมนุษย์!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆเขมรเคลมอีก? อ้าง ข้าวเหนียวทุเรียน คือขนมดั้งเดิมของเขมรโบราณ!ตอนเรียนกับตอนทำงานเต่างกันแค่ไหน?แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เรื่องน่ารักๆ ซึ้งๆ
เมื่อคุณยายขอแจม "ASOKA MAKEUP"..แบบนี้สิของแทร่!ยายวัย 80 ปี ปั่นจักรยานวันละ10 กม.ขายหมี่ผัดโบราณสองตายายหอบเงินใส่ถุงปุ๋ยมาซื้อรถร้อนขนาดนี้ต้องติดแอร์ให้ตายาย
ตั้งกระทู้ใหม่