เข้าใจผิดมาตลอด ว่านกฮูกขาสั้น กับความสามารถพิเศษของมัน
หลายคนเห็นภาพนี้แล้วคงเปลี่ยนความคิดเราไปตลอด จากที่เคยคิดว่า นกเค้า หรือ นกฮูก (นกฮูก จะอยู่ในวงศ์ของนกเค้าแมว) ที่เราเห็นนั้นมันมีขาสั้น??? แต่จริงๆ แล้วโครงสร้างกายวิภาคศาสตร์ของมันมีความพิเศษน่าทึ้งมาก
แต่จริงๆ แล้ว
-ดวงตา มีวิสัยทัศน์ในช่วง 70 องศาในแนวนอน มันเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน จึงมีดวงตาโตกว่าเหยี่ยวและอินทรีมาก ดวงตาอยู่ด้านหน้าของใบหน้าเหมือนมนุษย์และสัตว์ตระกูลแมว (นี่เป็นที่มาของชื่อ "นกเค้าแมว") และดวงตาโตเกินขนาดเมื่อเทียบกับกะโหลก
-ส่วนหัว ส่วนหัวของมันหมุนได้เกือบรอบตัว โดยหมุนได้ถึง 270 องศา เนื่องจากมีกระดูกสันหลังตรงคอ 14 ชิ้น ซึ่งมากกว่าสัตว์ชนิดใด ๆ ในโลก
-หูการได้ยิน ของนกฮูกมีความไวมากเป็นพิเศษสำหรับการฟังเสียงในเวลากลางคืนและหาเหยื่อ มีขนปีกอ่อนนุ่ม บินได้เงียบเพื่อไม่ให้เหยื่อรู้ตัว และมีประสาทสายตาที่มองเห็นได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 100 เท่า หูทั้ง 2 ข้างของมันอยู่ข้างๆศีรษะ หลังตา และถูกปกคลุมด้วยแผงขน ลักษณะเส้นขนดังกล่าวของนกฮูกบางชนิดอาจไม่ใช่หูของมัน เป็นแค่เพียงเส้นขนธรรมดาเท่านั้น มันสามารถรับรู้สัญญาณเสียงจากเหยื่อของมัน รู้ตำแหน่งและสามารถแยกแยะเสียงได้ด้วยว่า ใบไม้ร่วง หิมะตก หรือ เหยื่อของมัน แหล่งกำเนิดเสียงสามารถมีทิศทางตรงเข้าสู่หูข้างที่ใกล้ที่สุด เช่น เมื่อมีเสียงเกิดทางด้านซ้าย เสียงนั้นจะได้ยินจากหูซ้ายก่อนหูขวา แต่เมื่อนกฮูกหมุนศีรษะจะได้ยินทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน และยังสามารถแยกเวลาที่ได้ยินจากด้านซ้ายและขวา ประมาณ about 0.00003 วินาที สามารถรับรู้เสียงสูงหรือต่ำ โดยใช้ตำแหน่งที่ไม่สมมาตรของหู
-กรงเล็บ นกฮูกฆ่าเหยื่อโดยใช้กรงเล็บเหล่านี้เพื่อบดขยี้กะโหลกศีรษะ พลังการบดขยี้ของกรงเล็บของนกฮูกนั้นแตกต่างกันไปตามขนาดและประเภทของเหยื่อ นกฮูกตัวเล็กมีแรงขย่ำประมาณ 5 นิวตัน และนกฮูกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจะมีแรงขย่ำมากถึง 130 นิวตัน
-จะงอยปาก จะงอยปากของนกฮูกนั้นสั้น โค้ง และงุ้มไปทางด้านล่าง โดยทั่วไปแล้วจะเกี่ยวที่ปลายเพื่อจับและฉีกเหยื่อ เมื่อจับเหยื่อได้แล้ว การเคลื่อนไหวของขากรรไกรบนและล่าง โดยที่ขอบล่างมีความคมมาก ใช้ในการฉีกเนื้อเยื่อ
-ลายพรางที่ขน นกฮูกหิมะสามารถพรางตัวในหิมะได้แนบเนียนที่สุด สีสันของขนนกนกฮูกมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการพรางตัวให้มันปลอดภัยและเหยื่อมองไม่เห็น ยิ่งขณะที่นั่งนิ่งๆ จะกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมมาก ทำให้แทบมองไม่เห็นเหยื่อ นกฮูกมักจะเลียนแบบสีและบางครั้งลวดลายพื้นผิวของสภาพแวดล้อมก็ยกเว้น
นกฮูกหิมะ
-ขนาดลำตัว นกฮูกที่ใหญ่ที่สุดมีสองขนาดใกล้เคียงกันนกฮูกนกอินทรี โดยที่ตัวเมียที่ใหญ่ที่สุดของสายพันธุ์เหล่านี้ มีความยาวลำตัวได้ถึง 71 ซม. มีช่วงปีก 190 ซม. และมีน้ำหนัก 4.2 กก.
ถ้าคิดความยาวลำตัวสูงสุดที่ 71 ซม. นั่นก็หมายความว่า มันมีขายาวได้ถึงกว่า 35 ซม. กันเลยทีเดียว ตามที่เราเห็นกลับกลายเป็นขนมันยาวคลุมส่วนขา ทำให้เราเห็นมันขาสั้นนั่นเอง
เห็นโครงกระดูกเล็กๆ บางๆ แบบนี้ แต่ธรรมชาติได้ออกแบบมาให้รองรับทั้งการเดินและการบิน โดยมีน้ำหนักที่เบาแต่แข็งแรงมาก โดยที่โครงกระดูกในนกฮูกคิดเป็น 7-9% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด เปรียบเทียบได้กับกระดูกจำนวนมากที่ถูกแยกออกจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และหลอมรวมกันเป็นนกฮูกนั่เอง ทำให้แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักของพวกมัน ขณะร่อนลงบนพื้นดิน นอกจากนี้ กระดูกที่ใหญ่กว่าบางส่วนยังเป็นโพรง โดยมีกระดูกค้ำยันภายใน ซึ่งช่วยลดน้ำหนักโดยรวมได้มาก มันเลยคร่องแคร่วในการจับเหยื่อ
ที่สำคัญอย่าลืมไปนะว่า นกฮูก หรือ นกเค้าแมวนั้น เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่ในบัญชีของกฎกระทรวง เลขที่ 306 ที่กำหนดให้เป็นสัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 หากผู้ใดมีการเลี้ยงนกหรือมีไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดี โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ