ในหลวงคือผู้นำพาประเทศรอดพ้น หายะจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (ความลับของผู้ติดทองหลังพระ)
.ผมได้อ่านบทความหนึ่งที่จะตอบคำถามในใจคนรุ่นใหม่ไทยไม่ค่อยได้ทราบบทบาทของพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เพราะเกิดไม่ทันยุคก่อน ไอ่านกันนะครับ ลดอคติในใจเปิดใจรับรู้สิ่งที่ผู้เขียนสื่อสาร...ซึ่งผมอ่านและข้อมูลบางอย่างที่ไม่เคยรู้ผมก็ค้นดู...ว่าใช่หรือเปล่า
.
ในช่วงสงคราม คนไทยอดอยากมาก เพราะเงินไทยใช้แลกกับชาวโลกไม่ได้ ไม่มีของเข้ามาขายในประเทศ ไม่มีเสื้อผ้า ทำสบู่ใช้จากขี้เถ้า
.
มีเพียงอาชีพกักตุน เกิดเศรษฐีใหม่ นายทุนไทย ที่ต่อมาเข้ายึดธนาคาร
.
ในปี 2487-88 กรุงเทพถูกทิ้งระเบิดโดยเครื่องบินราว 2,500 ลำ
.
สะพานพุทธฯ สะพานเดียวที่เชื่อมกรุงเทพกับธนบุรีพัง ซ่อมเปิดใช้การได้ในปี 2493
.
สถานีรถไฟพังหมด ตั้งแต่หัวลำโพง - ธนบุรี - บางซื่อ ทุกแห่ง รวมถึงทางรถไฟไปพม่า
.
โรงไฟฟ้าวัดเลียบถูกระเบิด ไม่มีไฟฟ้าใช้กันซีครับ
.
เรียกว่าระบบสาธารณูปโภค การขนส่งพังหมด
.
เรือจมไปร่วม 100 ลำ เครื่องบินของไทยปลอดภัย เพราะข้าศึกมองไม่เห็น
.
โดนทิ้งระเบิดข้างเดียวเพราะ ปตอ. (ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน) ไทยยิงไม่ถึง
.
.
สงครามจบลงในปี 2488 ไทยยอมแพ้ ต้องทำสัญญากับออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส จ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม
.
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาซ่อมเศรษฐกิจ และจ่ายหนี้มหาศาล
.
หนี้สงครามเยอะมาก ต้องจ่ายข้าวให้อังกฤษ 3 ล้านตัน
.
มีสัญญาห้ามขุด "คอคอดกระ" ด้วย!!
.
ค่าเงินก็อ่อน ไม่มีรายได้ ญี่ปุ่นมาพิมพ์เงินฟรีไปมาก สมัย ร.๔ หนึ่งบาทเท่ากับหนื่งปอนด์เชียวนาครับ
.
เอาว่าก่อนปี 2500 ประเทศไทยจนมาก แร้นแค้น ไม่มีถนน ไฟฟ้า น้ำประปา โรงพยาบาล หมอ พยาบาล โรงเรียน คือมีบ้าง เป็นบางที่ คนส่วนใหญ่อาศัยกระต็อบหลังคามุงจาก
.
มีปัญหาว่าข้าวจะไม่พอกิน ไก่ หมูเป็นของหายาก ใช้หนี้กันยาวนาน
.
จากปี 2475-2500 ไม่มีประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ มีเพียงประวัติบุคคล ใครทะเลาะกับใคร
.
ประเทศเสียเวลา เสียโอกาสมาก
.
ยุ่งอยู่กับการชำระหนี้ต่างชาติ
https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=4&chap=9&page=t4-9-infodetail06.html
>> พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ในปี 2489 ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
.
อันตรายจากคนในรัฐบาล บ้างก็แนวฮิตเลอร์ บ้างก็แนวบอลเชวิก
.
ทรัพย์สิน เช่น ที่ดินของพระมหากษัตริย์แถวรอบวังสวนจิตร, สามเสน, ศาลาแดง, สีลม ถูกเอาไปขายแบ่งกัน
.
สถิติปี 2503 ที่ฝรั่งมาสำรวจให้ UN Escap ไทยมีรายได้ต่อหัวต่ำสุดในเอเซีย ต่ำกว่า มาเลย์ 4 เท่า ต่ำกว่าเวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์
.
แค่ 2,000 บาทต่อคนต่อปี!!
.
ต่ำกว่าญี่ปุ่น 8 เท่า (ญี่ปุ่นสร้างเครื่องบิน เรือรบ เหล็ก เป็นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว)
.
>> รัชกาลที่ ๙ ในหลวงของเรา ทรงพลิกฟื้นสถานะไทยกับต่างประเทศ...
.
สถานการณ์ยุคนั้นคือ...
.
ไทยต้องการมิตรประเทศเพื่อมาป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามรอบบ้าน
.
ไทยต้องการเงินเพื่อมาลงทุนสร้างถนน, น้ำ, ไฟฟ้า, เขื่อนกันน้ำท่วม, การศึกษา, โรงพยาบาล
.
ไทยต้องการให้มีการลงทุนสร้างอุตสาหกรรม และบริการ ขยายการเกษตร สร้างงานให้คน
.
ไทยต้องการการยอมรับนับถือจากต่างชาติ ให้คนลืมสงครามโลกครั้งที่สอง
.
ไทยต้องการพัฒนาให้เท่าเทียมประเทศเพื่อนบ้าน...
.
ในหลวงเสด็จประพาสประเทศในตะวันตก 14 ประเทศ หกเดือนเต็ม พร้อมพระราชินี มี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นแม่กองจัดการ (ท่านผู้นี้เป็นแม่กองจัดการเสด็จต่างจังหวัดด้วย)
.
โชคดีของคนไทย...
.
พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสได้หลายภาษา อย่างดีมาก ทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน เข้าใจขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และทรง Witty แบบฝรั่ง ทั้งความสง่างาม ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แพ้ใครในโลก
.
ทรงน่าเกรงขาม แต่นุ่มนวล และเป็นมิตร ไม่มีคนไทยคนไหนทำได้ขนาดนั้น
.
การที่ทรงศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น คนยุโรปและอเมริกาถือว่าเป็นสุดยอดแห่งอารยธรรม เป็นสังคมที่สร้างคนที่เข้าใจอารยธรรมหลากหลาย
.
ทั้งสองพระองค์มีพระบุคลิกภาพที่เป็นที่ชื่นชมของคนในทุกประเทศ สมเด็จพระนางเจ้านั้น ได้ชื่อว่าเป็นพระราชินีที่สวยที่สุดในโลก รูปถ่ายลงปกหนังสือพิมพ์ ออกทีวีกันมากมาย ตอนนั้นผมเป็นเด็กภูมิใจมาก
.
ทั้งสองพระองค์นั้น ทรงเป็นนักการต่างประเทศ และนักการทูตที่ยอดเยี่ยมมากที่สุด (มาจากประสบการณ์นะครับ)
.
ทรงมีพระ Nobility มาก การเสด็จเยือนจึงได้ความเคารพนับถือจากประมุขประเทศ หัวหน้ารัฐบาล รัฐบาลต่างประเทศ
.
และที่สำคัญประชาชนของประเทศนั้นๆ ออกมารอรับกันเนืองแน่น ต้อนรับใหญ่โตมากๆ ข่าวกระจายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
.
ในยุคนั้นสถาบันกษัตริย์ในยุโรปสูงส่งมาก นี่เป็นคุณต่อประเทศไทยที่มีสถาบันกษัตริย์
.
จากการเสด็จเยือนของทั้งสองพระองค์ ต่อมาประมุขและหัวหน้ารัฐบาลเหล่านั้นก็มาเยือนประเทศไทยอีก ชื่อประเทศไทยปักสง่างามบนแผนที่โลก
.
ต่อมา ทรงเสด็จเยือนประเทศในเอเซีย เมื่อทรงได้รับมาตรฐานระดับสูงลิ่วนั่น แถวเอเซียก็ต้อนรับยิ่งใหญ่มาก เชิงแข่งนิดๆ
.
>> คนไทยภูมิใจกันสุดๆ เพราะนี่คือการทูตที่ดีที่สุดของไทย
.
ยุคโลกสองขั้ว พระองค์ท่านช่วยให้ประเทศไทยยืนถูกข้าง...ไม่ล้ม!!
.
สมัยพวกผมเรียนมหาวิทยาลัย ประธานาธิบดี กษัตริย์ หัวหน้ารัฐบาลต่างๆ จะมา เมืองไทยกันถี่ยิบ สมเด็จพระนางเจ้าจะทรงตรัสในหอประชุมว่า...
.
"ข้าพเจ้าจะมีแขกมาเยือน ช่วยกันหน่อยนะ"
.
พวกผมก็ได้ทำประโยชน์เช่นไปยืนเข้าแถวรับบ้าง แปรอักษรบ้าง นั่งปรบมือในหอประชุมบ้าง
ใครมากล่าวหาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแบบไม่รู้เรื่อง คนไทยโกรธ เพราะพวกเราถือว่าเป็นงานของเราคนไทยทั้งชาติที่ช่วยกันทำ
.
>> ประเทศไทยได้อะไร?
.
ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เรื่องไทยเป็นประเทศแพ้สงครามโลกครั้งที่สองร่วมกับญี่ปุ่น เยอรมัน อิตาลี่ หายไป
.
มีเงินช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา พร้อมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เขื่อนเจ้าพระยายุคนั้น 3,500 ล้านเอง ทุนเรียนนอกเยอะมาก
.
🚩 ตลาดสินค้าเปิด มีการลงทุนเข้ามามาก ตั้งแต่นั้น
.
🚩 การท่องเที่ยวก็เริ่มจากราว 1 ล้านคนมาจนปัจจุบัน
.
🚩 เป็นยุคของการฟื้นฟูอารยธรรม วัฒนธรรม อวดแขกเมือง แพร่ไปทั่วโลก
.
🚩 เป็นยุคที่ประมุขต่างประเทศเสด็จเยือนต่างจังหวัด เช่นเชียงใหม่ จนกลายเป็นเมืองระดับโลก
.
🚩 เป็นจุดเริ่มต้นของการมาทำข่าวประเทศไทยไปทั่วโลกครับ
.
คนรุ่นผมเรียนรู้จากการช่วยงานพระองค์ท่านกันทั้งประเทศ
.
เราจึงภูมิใจมาก ที่พระประมุขของเราทรงฉลาด เยี่ยมยอด เปี่ยมความสามารถ
.
สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเป็นพระราชินีผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลกนะครับ
.
>> ความลับ...
.
ที่ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี เกิดอาเซียน 10 มั่นคงมานาน เพราะในหลวงครับ
.
จีนบอกว่าทรงเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองแผ่นดิน
.
พระจักรพรรดิญี่ปุ่นนั้น ใกล้ชิดกับพระราชวงศ์ไทยมาก การลงทุนญี่ปุ่นจึงมากันเพียบ
.
ประธานบริษัทใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นตัดสินใจลงทุนทันทีที่ได้เข้าเฝ้าฯ
.
ทรงปิดทองหลังพระให้คนไทยมากมายจริงๆ
.
ที่น่าประหลาด คือ ทั้งสองพระองค์ไม่เคยพูดว่าทรงทำอะไรให้ประเทศมากมายมหาศาลขนาดไหน
.
>> ทรงปิดทองหลังพระ...
.
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กับการต่างประเทศ บุญวาสนาของคนไทยและประเทศไทย ในสถานการณ์ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
.
เมื่อนักข่าวต่างชาติถามในหลวงว่า ทำไมจึงไม่ค่อยยิ้ม
.
ทรงชี้ไปที่สมเด็จพระนางเจ้า แล้วบอกว่า...
.
"She is my Smile"
.
เขียนโดย ดร.สมเกียรติ โอสถสภา
หลังจากผูกมิตรกับนานาประเทศได้สำเร็จ
พระองค์ก็ทุ่มเทความรู้พัฒนาประเทศทั่วทุกจังหวัด ....จนคนไทยยอมรับพระองค์คือ "พ่อของแผ'นดิน"
ขอบคุณข้อมูลภาพ