หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 แหล่งน้ำที่เป็นพิษที่สุดในโลก / 10 of The Most Toxic Bodies of Water in the World

แปลโดย landmass70

พื้นผิวโลกประกอบด้วยน้ำ 71 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเราจะใช้พื้นที่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ แต่เราสามารถใช้สิ่งที่อยู่ในแหล่งน้ำได้ รวมทั้งปลาและพืช เราสามารถดื่ม ปลูกพืชผล หรือแม้แต่แล่นเรือ
แต่มีแหล่งน้ำอีกมากมายที่เป็นพิษจนน่าตกใจ ผู้คนล้มป่วย บาดเจ็บ หรือแม้แต่เสียชีวิต หลังจากสัมผัส ต่อไปนี้ นี่คือแหล่งน้ำที่เป็นพิษที่สุดในโลก

1. Lake Natron, Tanzania
ทะเลสาบเกลือหรืออัลคาไล ในภูมิภาคอารูชา ประเทศแทนซาเนีย มีอุณหภูมิ 49 องศาเซลเชียส และมีระดับ pH สูงถึง 12 ทำให้ไม่เหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิต สีของทะเลสาบ มีอัตราการระเหยที่สูงมาก
เมื่อน้ำระเหยในช่วงฤดูแล้ง ระดับความเค็มจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่จุลินทรีย์ที่ชอบเกลือเริ่มเจริญเติบโต จุลินทรีย์ขนาดจิ๋วจำพวกฮาโลไฟล โดยเฉพาะไซยาโนแบคทีเรีย จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พวกมันสามารถสังเคราะห์แสงได้ด้วยตัวเองและมีสีแดงเข้มจัด

2. Horseshoe Lake, USA
ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีอันตรายถึงตายเนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตโดยรอบของทะเลสาบ คุณจะสังเกตเห็นว่าต้นไม้ที่เติบโตภายใน 100 เอเคอร์นั้นตายหมด
คาร์บอนไดออกไซด์มาจากแมกมาเย็นตัว ซึมผ่านพื้นผิว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กจำนวนมาก ในปี 1989-1990 ในปีที่แห้งแล้ง เมื่อแหล่งน้ำของแม่น้ำแห้งไป ทะเลสาบก็ลดน้อยลงอย่างมาก
เหลือไว้แต่หาดทรายที่กว้างใหญ่ให้เล่น

3. Rio Tinto, Spain
แม่น้ำในทิศตะวันตกของสเปน ปนเปื้อนไปด้วยทองแดง เหล็ก และโลหะหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการขุดเหมืองแร่ โดยสีแดงเข้มนั้น เกิดจากเหล็กที่ละลายในน้ำ และมีความเป็นกรดสูง
ริโอ ตินโต ยังคงเป็นสถานที่ที่สวยงามน่าเยี่ยมชม (แต่ไม่ใช่การว่ายน้ำ) แต่เนื่องจากแม่น้ำ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตเคมีบำบัด เช่น มีแบคทีเรียที่ออกซิไดซ์เหล็ก และแบคทีเรียที่ออกซิไดซ์กำมะถัน ซึ่งมีผลต่อสีและลักษณะทั่วไปของแม่น้ำ

4. Lake Kivu, Congo and Rwanda
หนึ่งใน Great Lakes ของแอฟริกา ทะเลสาปที่มีความลึกเป็นอันดับ 8 ของโลก 480 ม. ทะเลสาบแห่งนี้ ตั้งอยู่บนหุบเขาที่แตกแยกอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟในพื้นที่
เกิดการสะสมป็นชั้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 250,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และก๊าสมีเทน 65,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ตอนนี้ แรงดันของน้ำนั้นสูงเป็นสองเท่าของแรงดันก๊าซ
ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการปะทุต่ำ ทะเลสาบจึงเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการลงเล่นน้ำ

5. Lake Nyos, Cameroon
ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคเมอรูน ชั้นแมกม่าที่อยู่ใต้ทะเลสาบ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปในน้ำ เปลี่ยนเป็นกรดคาร์บอนิก นีออสเป็นหนึ่งในสามทะเลสาบ
ที่ทราบว่าอิ่มตัวด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีนี้ อีกแห่งคือทะเลสาบโมโนอุน และทะเลสาบคิวู ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการปะทุของลิมนิก ในปี 1986 อาจมาจากดินถล่ม ทะเลสาบได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาล
คร่าชีวิตผู้คนไป 1,746 คน และปศุสัตว์ 3,500 ตัวรอบๆ นีอส

6. The Rivers Of Johannesburg, South Africa
แม่น้ำJukskei หนึ่งในแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ จุกเคส่วนใหญ่จะตื้น และไม่ลึกพอสำหรับการคมนาคมขนส่ง มีการปนเปื้อนอย่างหนัก โครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมและงานซ่อมบำรุงที่ค้างอยู่
ทำให้ของเสียดิบและของเสียที่ไม่ผ่านการบำบัด ไหลลงแม่น้ำทุกวัน บางครั้งพบแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดอหิวาตกโรคในน้ำ ขยะมากมาย เช่น พลาสติก โลหะ และยาง สิ่งนี้ทำให้เกิดหายนะ สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ยากจน ในเมืองอเล็กซานดรา

7. Lake Karachay, Russia
ทะเลสาบขนาดเล็ก ทางตอนใต้ของเทือกเขาอูราล ในรัสเซียตะวันออก ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก เริ่มต้นในปี 1951 สหภาพโซเวียตใช้สถานที่แห่งนี้สำหรับทิ้งกากกัมมันตรังสีจาก Mayak
โรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง การจัดเก็บกากนิวเคลียร์ที่ใกล้เคียง ภัยพิบัติ Kyshtym ในปี 1957 การแผ่รังสีจากภัยพิบัติเชอร์โนบิล เพิ่มมลพิษในทะเลสาบ
ทำให้อัตราการเกิดมะเร็งและมีความพิการแต่กำเนิดเพิ่มขึ้นมาก กับคนในท้องถิ่นโดยรอบ

8. The Blue Lagoon, Derbyshire, UK
เหมืองหินปูนร้างที่ Harpur Hillเมือง Derbyshire หินปูนถูกสกัดเมื่อ 1835-1952 เพื่อผลิตปูนขาว ส่วนเล็ก ๆ ของเหมืองร้างมีน้ำท่วม ที่จะกลายเป็นทะเลสาบ น้ำมีระดับ pH 11.3
คือเป็นด่างมาก เนื่องจากมีสารเคมีกัดกร่อน ที่ชะล้างของเสียที่เหลือจากการเผาปูนขาว ทะเลสาบเคยมีสีฟ้าสดใสสวยงาม แม้จะมีคำเตือนและป้ายประกาศมากมาย แต่ผู้คนยังคงว่ายน้ำในทะเลสาบ
ในปี 2013, 2016 และ 2020 น้ำถูกย้อมด้วยสีดำ เพื่อป้องกันผู้คนจากการว่ายน้ำ

9. Frying Pan Lake, New Zealand
บ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของปล่องภูเขาไฟที่เรียกว่า Echo Crater และน้ำที่เป็นกรด ยังคงมีอุณหภูมิประมาณ 50-60 องศาเซลเซียส ทะเลสาบครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 38,000 ตารางเมตร
ทะเลสาบจะมีความลึกเพียง 5.5 เมตร แต่สามารถลึกได้ถึง 60 ฟุต 18 เมตร ที่ช่องระบายอากาศ น้ำในทะเลสาบมักจะนึ่ง และอาจดูเหมือนเดือด เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์จะเดือดปุด ๆ ขึ้นสู่ผิวน้ำ

10. The Danakil Desert, Eritrea
ภูมิประเทศที่แห้งแล้ง เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าอาฟาร์ เพียงไม่กี่คน ที่ประกอบอาชีพทำเหมืองเกลือ บริเวณนี้ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาไฟ น้ำพุที่พ่นก๊าซพิษ และความร้อนจัด โดยมีอุณหภูมิในตอนกลางวันสูงกว่า 50 °C
ทะเลทรายดานาคิล เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต่ำ ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 92 เมตร และร้อนแรงที่สุดในโลก ผู้คนส่วนใหญ่ขนานนามว่า "นรกบนดิน" แต่ก็ยังดึงดูดนักผจญภัยผู้กล้าหาญจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
landmass70's profile


โพสท์โดย: landmass70
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพจดังเปิดภาพพระสงฆ์ ควงแขนผู้ชาย ชาว เน็ตวิจารณ์ยับ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
ปราสาทที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้งในกรุงโซลเมื่อฉันไปบาหลี EP.5 Tirta Ganggaโจรฉกมือถือ ขณะหนุ่มถ่ายฉากโรแมนติกบนถนนในสเปนBibury: หมู่บ้านแห่งมนต์สะกดที่สวยที่สุดในอังกฤษและโลก
ตั้งกระทู้ใหม่