11 ความพิเศษของโตเกียวโอลิมปิก 2020
1.เป็นมหกรรมกีฬาที่ให้ความสำคัญในด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก นอกจากมีตัวแทนแต่ละทวีปแล้วยังมีกลุ่มประเทศผู้ลี้ภัย (Refugee Team) ซึ่งเกิดจากความพยายามให้โอกาสชนกลุ่มน้อยที่โดนข้อจำกัดทางสังคมและการเมืองอีกด้วย
2. การเดินขบวนพาเหรดของนักกีฬาจาก 205 ประเทศ ยึดหลักความเสมอภาคทางเพศ ด้วยการให้นักกีฬาชาย-หญิง เป็นผู้ถือธงชาติของตนเองนำหน้าขบวนพาเหรดเข้าสู่สนาม
3.สัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มาจากการนำศิลปะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นคือ ลายตารางหมากรุกที่เรียกว่า "อิชิมัตสุ โมโย" ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยเอโดะ หรือเมื่อราว 300 - 400 ปีที่แล้ว ผสมผสานกับการจัดวางรูปแบบใหม่ที่กำหนดให้เป็นตัวแทนของความแตกต่างของชนชาติต่างๆ ภายใต้แนวคิด "Unity in Diversity" หรือ เอกภาพภายในความแตกต่างหลากหลาย โดยสัญลักษณ์นี้ได้แทนที่สัญลักษณ์ที่ถูกยกเลิกจากการที่ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบสัญลักษณ์ของโรงละครในประเทศเบลเยี่ยม
แบบเดิม..ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียน
แบบใหม่
4.มี 5 ชนิดกีฬาใหม่ ที่ถูกบรรจุเพิ่มเข้าไป เพื่อสร้างสีสันเอาใจคนรุ่นใหม่ ได้แก่ สเกตบอร์ด, ปีนหน้าผา, เบสบอลและซอฟต์บอล, คาราเต้ และกระดานโต้คลื่น
5.มีหุ่นยนต์ผู้ช่วยภาคสนามถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับทั้งหุ่นยนต์และมนุษย์ โดยหุ่นยนต์แต่ละตัวก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ที่สามารถช่วยเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม พูดภาษาอังกฤษแทนที่สตาฟญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และยังสามารถนำทางคนพิการไปยังที่นั่งเพื่อชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้อีกด้วย
6.มีการถ่ายทอดภาพการแข่งขันไปทั่วโลกด้วยความคมชัดระดับ 8K ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็ว 5G
7.การใช้พลังงานทดแทนสำหรับการแข่งขัน และการนำเอาขยะอิเล็กทรอนิกส์มาผลิตเป็นเหรียญรางวัลสำหรับการแข่งขันทั้งหมด 5,000 เหรียญ
8.นักกีฬาข้ามเพศคนแรกของประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์คือ “ลอเรล ฮับบาร์ด” (Laurel Hubbard) อายุ 43 ปี เข้าแข่งขันยกลูกเหล็ก โดยทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้อนุมัติด้วยเหตุผลที่ว่า เธอมีเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ไม่เกินกว่าที่กำหนดในเวลา 1 ปี
9.มีการออกกฎระเบียบแบบแผนอย่างเคร่งครัด โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนต้องติดตั้งแอพฯ COCOA แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง และตรวจโควิด-19 ทุกๆ สัปดาห์ และนักกีฬาทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อนเดินทางเข้าแข่งขัน
10. ไม่มีการจูบเหรียญรางวัล นักกีฬาจะต้องนำเหรียญรางวัลคล้องคอด้วยตนเอง และจูบเหรียญไม่ได้ เพราะต้องสวมหน้ากากบนแท่นรับรางวัล โมเมนท์ตลกๆ เหมือนตอนที่นักปั่น “แบรดลีย์ วิกกินส์” ที่จู่ๆ ก็แลบลิ้นออกมาขณะบรรเลงเพลงชาติอังกฤษในโอลิมปิกที่ริโอไม่น่าจะเกิดขึ้น
11. ไม่ให้มีผู้ชมในสนาม แต่จะมีนักกีฬา-เจ้าหน้าที่ไม่เกินประมาณ 1 หมื่นคน
---โอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1964 ที่กรุงโตเกียว เป็นมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
ภาพจาก google