หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มะเร็งรังไข่ภัยเงียบของสาวๆ ที่ต้องรู้

โพสท์โดย Newsyear

          เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะสาวๆ เพราะโรคสุดฮิตที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ นั่นก็คือโรคมะเร็งรังไข่ สาวๆ รู้หรือไม่ว่าสำหรับประเทศไทย มะเร็งรังไข่เป็นมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีพบเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากมะเร็งปากมดลูก และเป็นอันดับ 6 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในหญิงไทย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย รายงานว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 2,500 คน หรือคิดเป็นอุบัติการณ์การเกิดโรค 5.7 คนต่อประชากรหญิงแสนคน และมีผู้เสียชีวิตราว 1,100 คนต่อปี หรือมีอัตรา 3.5 คนต่อประชากรหญิงแสนคน มะเร็งรังไข่พบได้ทุกกลุ่มอายุแต่พบมากในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ในระยะท้ายที่มะเร็งลุกลามมากแล้ว เนื่องจากโรคนี้ในระยะแรกผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดง ทำให้การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากสาวๆ กันแล้วครับ

 

ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งรังไข่

          สาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็งรังไข่ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งรังไข่แต่ก็ยังมีผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

  1. สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งโดยเฉพาะมารดาพี่สาว/น้องสาว
  2. อายุที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะอายุมากกว่า 50 ปี มีประวัติเคยเป็น
  3. มีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งลำไส้ขึ้นไป พี่สาว/น้องสาว
  4. มีประวัติเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ (endometriosis) หรือช็อคโกแลตซิสต
  5. รับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนเป็นเวลานาน
  6. การสูบบุหรี่

 

อาการที่อาจบ่งบอกว่าเป็นโรคมะเร็งรังไข่

  1. มะเร็งรังไข่ระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม
  2. เบื่ออาหาร
  3. คลื่นไส้อาเจียน
  4. น้ำหนักขึ้นหรือลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  5. ปัสสาวะบ่อย
  6. อาหารไม่ย่อยท้องอืดท้องเฟ้อ
  7. รู้สึกเหนื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
  8. ท้องเสียหรือท้องผูกเรื้อรัง
  9. รู้สึกปวดท้องหรือปวดในอุ้งเชิงกราน
  10. มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
  11. รู้สึกอึดอัดในช่องท้อง
  12. รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นหลังรับประทานอาหาร

 

          การหมั่นสังเกตอาการผิดปกติและสุขภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากมีอาการผิดปกติจะได้เข้ารับคำปรึกษาและรักษาได้ทันเวลา และอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์กันเยอะๆ นะครับ

เนื้อหาโดย: Newsyear
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Newsyear's profile


โพสท์โดย: Newsyear
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักการเมืองดังถูกไล่ออกจากพรรค หลังเลียโถส้วมเลียและแปรงขัดส้วมด่วน!เครื่องบินประธานาธิบดีอิหร่านประสบอุบัติเหตุเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันในอัฟกานิสถานทำคนตายอื้อ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพเก่าหาดูยาก : ภาพการออกหวย(สลากกินแบ่ง) ในยุคเก่า ช่วงประมาณปี 2496 อื้อหือ หวยนี่ เล่นกันมานานจริงๆใส่รองเท้าอะไรไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าใครเป็นคนใส่!!!หนุ่มใส่รองเท้าcrocsวิ่งมาราธอนด้วยpace4.13ทำลายสถิติโลกอิสราเอลโจมตีค่ายลี้ภัย ดับแล้วกว่า 30 รายเอาให้สุด! แชร์ว่อนโซเชียล ยันต์ "ลาบูบู้"..หลายคนต่อคิวสักเพียบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
หอพักOEM คืออะไร? สิ่งที่คนสร้างแบรนด์ต้องรู้Carbon Footprint คืออะไร? ความเชื่อมโยงระหว่างก๊าซคาร์บอนกับการทำธุรกิจพระเจ้าตากสินมหาราช ลูกหลานชาวจีน วีรบุรุษผู้กอบกู้แผ่นดินสยาม
ตั้งกระทู้ใหม่