มีผู้พลัดถิ่น 230,000 คน จากการสู้รบในเมียนมา
สหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ประชาชนประมาณ 230,000 คน ต้องพลัดถิ่นเนื่องจาก การสู้รบในเมียนมา และ ต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธรายใหญ่ แสดงความกังวลเกี่ยวกับกำลังทหาร การเสียชีวิตของพลเรือน และ ความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ..."
ตอนนี้เมียนมา กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2021 ซึ่งก่อให้เกิดความโกรธแค้นทั่วประเทศ ที่นำไปสู่การประท้วง การสังหาร การวางระเบิด และ การสู้รบในหลายแนวรบ ระหว่างกองทหาร และ กองทัพพลเรือนที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่...
สำนักงานเพื่อการประสานงาน ด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า "การดำเนินการบรรเทาทุกข์ ยังคงดำเนินอยู่ แต่ถูกขัดขวางจาก การปะทะกันด้วยอาวุธ ความรุนแรง และ ความไม่มั่นคงในประเทศ"
ผู้คนหลายพันคนหลบหนีการสู้รบ ในตอนเหนือของรัฐคะฉิ่นและรัฐฉาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีกองทัพชนกลุ่มน้อย ที่จัดตั้งขึ้นซึ่งมีประวัติความเป็นปรปักษ์ กับ กองทัพเมียนมามาช้านาน...
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อย ที่เก่าแก่ที่สุดของเมียนมา ได้ออกมากล่าวว่า "พวกเรากังวลเกี่ยว กับการใช้กำลังทหารที่มากเกินไป และ การสูญเสียชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากการต่อสู้รุนแรง ได้เกิดขึ้นทั่วประเทศ..."
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ยังกล่าวอีกว่า "พวกเราจะยังคงต่อสู้กับเผด็จการทหาร และ ให้การคุ้มครองประชาชน และ ให้การคุ้มครองพลเรือนที่ไม่มีอาวุธ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!!"
ที่มา: http://www.asahi.com






















