รีวิว การเลือกซื้อคอนโด High Rise ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของมุก กับ “CLOUD Residences-SKV23”
เนื่องจากตอนนี้มุกเช่าคอนโดอยู่ ซึ่งถ้าลองคำนวนค่าเช่าแล้วแค่เพิ่มอีกนิดหน่อยก็เท่ากับค่าผ่อนคอนโด ก็เลยตัดสินใจว่าจะซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเลย ด้วยความที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของมุกหลากหลาย และเป็นคนที่ชอบความสะดวกสบาย ไม่ชอบรถติด ทำให้หาคอนโดที่ถูกใจยากมาก คือดูรีวิวคอนโด ไปดูสถานที่จริง จนเพื่อนๆคิดว่าเราเป็นกูรูทางด้านนี้ไปแล้ว วันนี้ก็เลยจะมารีวิวการไปดูคอนโดว่ากว่าจะตัดสินใจซื้อ CLOUD Residences-SKV23 มุกมีหลักเกณฑ์อะไรที่ใช้ในการตัดสินใจบ้าง
CLOUD Residences-SKV23
นี่คือภาพตัวอย่างโครงการที่มุกได้เข้าไปจองห้องไว้
ข้อแรก การเดินทาง ทำเลที่ตั้ง
อย่างแรกของการเลือกคอนโด ก็คือทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง มุกเป็นคนที่ไม่ชอบเดินทางนานๆ เอาซะเลย ดังนั้นการเลือกคอนโด อันดับแรกมุกก็เลยหาเฉพาะคอนโดที่ค่อนข้างเดินทางสะดวก เพราะเคยชินกับการเดินทางด้วย BTS มุกก็จะดูโครงการที่กำลังสร้างว่ามีที่ไหนบ้าง ติดสถานีอะไร เข้าออกได้กี่ทาง ซึ่งที่ CLOUD Residences-SKV23 ที่มุกได้จองไว้เค้าอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 650 เมตร ห่างจาก BTS อโศกและMRT(สถานีสุขุมวิท)ประมาณ 750 เมตร วันไหนขยันก็เดินชิวๆไป BTS ได้ หรือวันไหนต้องขับรถไปทำงานเองก็ออกไปทางเส้นสุขุมวิท หรือเส้นเพชรบุรี เข้าออกได้สะดวกทั้ง 2 เส้น และด้วยความที่คอนโดอยู่ใจกลางเมืองทำให้อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงพยาบาล มหาลัย และ รร.นานาชาติหลายที่ เวลาจะนัดเพื่อนมาเจอ นัดลูกค้ามาคุยงาน ก็สะดวกเดินทางง่าย มุกค่อนข้างโอเคเลยค่ะกับทำเลของที่นี่ มีข้อติอยู่นิดนึงคือหลังจากเข้าซอย 23 มาประมาณ 200 เมตร ทางเข้าคอนโดจะอยู่ 3 แยกแรก ซึ่งซอยย่อยของที่นี่ไม่มีป้ายบอก เราอาจจะต้องจำร้านค้า หรือสัญลักษณ์เอาเอง มาครั้งแรกก็ งงๆ เหมือนกันค่ะ แต่พอลองเดิน สำรวจดูระยะทาง สิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็เริ่มคุ้นชิน
ข้อที่สอง เรื่องส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวก
เนื่องจากทุกโครงการจะมีส่วนกลาง เช่น Fitness สระว่ายน้ำ Co-working ฯลฯ มีมาให้เหมือนกันทุกที่อยู่แล้ว แต่มุกรู้สึกว่าบางที่มันไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้าน จากประสบการณ์ตรงก็คือ ต้องไปนั่งรอต่อลู่วิ่ง บางวันเสาร์อาทิตย์ สระว่ายน้ำเต็ม ลงสระไม่ได้ ที่จอดรถไม่พอ ที่ทิ้งขยะไม่เป็นสัดส่วน ลิฟต์ไม่พอ ตรงนี้ก็เป็นอะไรที่ทำให้เราหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยเลย มุกก็เลยจะใส่ใจเรื่องส่วนกลางเป็นพิเศษด้วย เพราะเราจ่ายค่าส่วนกลางไปแล้ว เราก็ต้องการใช้ให้เต็มที่ ให้คุ้มค่า ซึ่งโครงการนี้มีทั้งหมด 43 ชั้น เรียกได้ว่าเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในย่านนี้เลย ส่วนที่อยู่อาศัยจะมีอยู่ประมาณ 372 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะนะถ้าเทียบกับคอนโดที่มุกเช่าอยู่ตอนนี้ แต่ส่วนกลางที่เค้าให้มาคือเยอะมาก ที่จอดรถก็ให้มาค่อนข้างเยอะทีเดียวเอาไปเลย 3 ชั้น จุกๆ แต่ที่มุกชอบที่สุด ก็คือ ชั้นที่ 28 เพราะส่วนกลางที่เค้าให้มา คือ Infinite-Edge Lap Pool, Kid’s Aqua Corner, Pleasant Jacuzzi, Blue recreational Zone และ Green Leisure Zone Infinite-Edge Lap Pool ที่สามารถดูวิวได้ถึง 270 องศา เห็นวิวกรุงเทพเต็มๆไปเลย
และมีบันไดเดินเชื่อมขึ้นไปส่วนกลางชั้นที่ 29 (Fitness Club, Serenity Yoga Studio, Sauna Room และ Elite Sky Working Lounge)
และชั้นที่ 30 (The Roof Bar & Dinning, Open-Air BBQ Area, Sky Common Pavilion และ The Sunset Deck) ให้มาครบและสามารถใช้งานได้หลากหลายกิจกรรม ชอบตรงที่ส่วนกลางทั้ง 3 ชั้น สามารถมองเห็นวิวได้รอบ ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืน วิวแสงไฟคงสวยมากเลย เรื่องส่วนกลางของที่นี่มุกถูกใจมากเลยค่ะ
ข้อที่สาม ตัวห้องคอนโด
ข้อนี้จะบอกว่า ต้องดูให้ละเอียดมากๆ ตั้งแต่การวาง Layout ของห้อง ประตูเป็นแบบไหน ระบบความปลอดภัยของห้อง การติดตั้งระบบน้ำ ไฟฟ้า ระบบแอร์ ปลั๊กไฟ ฯลฯ โซนห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน มีเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรให้บ้าง ผนังห้องบางไปไหม มีเสียงรบกวนเข้ามาในห้องรึป่าว มุกไปดูห้องทุกโครงการแบบละเอียดมาก ใช้เวลาทั้งวันเลยค่ะ และจะขอดูทุกห้องทุกขนาด เรียกได้เลยว่าดูทุกซอกทุกมุม เพื่อที่จะเอามาตัดสินใจว่า ข้อดีมีอะไรบ้าง ข้อเสียที่เจอเราพอรับได้ไหม บวกลบกันแล้ว เราจะเลือกที่ไหนดี ซึ่งห้องที่มุกเลือกจะเป็น Type ขนาด 29-30 ตรม. (ส่วนห้องขนาดอื่นๆมุกจะอธิบายแยกเป็นอีก 1 หัวข้อถัดไปนะคะ)
Layout ของห้องที่มุกจองไว้ เปิดประตูเข้ามาจะเจอในส่วนของตู้เก็บของฝั่งขวา (อาจจะเอาไว้เก็บรองเท้า กระเป๋า ของใช้ต่างๆ) ถัดมาก็จะเป็นห้องครัว เชื่อมไปที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งระเบียงของห้องนี้จะอยู่ที่ฝั่งห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนฝั่งขวาก็จะเป็นห้องนอน และส่วนของห้องน้ำ ห้องอาบน้ำก็จะสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว
แปลนห้องแบบที่ 1 : Bedroom 29-30 ตร.ม.
แบบห้องตัวอย่างขนาด 29-30 ตร.ม.
รูปที่ถ่ายมาด้านล่างนี้จะเป็นห้องตัวอย่างที่โครงการจัดไว้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ต่างๆในห้องนี้เราจะได้ไปทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า ฯลฯ แต่ละ Type อาจจะมีเฟอร์ที่แถมให้ต่างกันนิดหน่อยสามารถสอบถาม จนท. โครงการได้เลยนะคะ ภายในห้องตัวอย่างนี้ทางโครงการจะตกแต่งมาเรียบร้อย ดูเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่เค้า Built-in มา ซึ่งเราสามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องของเราได้ แต่ส่วนตัวมุกว่ามันดูผู้ใหญ่เกินไป ห้องของมุกอาจจะเพิ่มของตกแต่งน่ารักสดใสๆ เพิ่มสีสันเข้าไปตามสไตล์ของเรา
เริ่มกันที่ประตูห้อง เราจะได้ประตูระบบ Digital Doorlock แบบนี้ทุกห้อง ประตูค่อนข้างใหญ่และหนา ดูแข็งแรงปลอดภัย และเก็บเสียงได้ดีทีเดียว
ภายในห้องเมื่อเปิดเข้ามาจะเจอผนังที่เราสามารถติดกระจกบานใหญ่แบบที่เค้าตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือจะทำเป็นชั้นวางของ หรือตู้กระจกสไลด์เพิ่มก็ได้ และฝั่งประตูจะมีตู้เก็บของที่ Built-in มาให้ค่อนข้างกว้าง สามารถเก็บรองเท้า กระเป๋าเดินทาง หรือของใช้ต่างๆได้ค่อยข้างเยอะค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาฝั่งทางด้านซ้ายก็จะเจอห้องครัว ห้องครัวของที่นี่จะ Built-in ตู้เก็บของมาให้เยอะมาก ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง อีกทั้งยังมี ตู้เย็น ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าที่ Built-in เข้ากับตัวตู้ชั้นวางของมาให้พร้อมใช้งานได้เลย ก็จะมี
ตัวซิงค์ล้างจานของ Teka อ่างขนาดใหญ่และลึก
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ยี่ห้อ Gorenje ที่มาพร้อมเครื่องดูดควันและตาไมโครเวฟของแบรนด์ Gorenje อีกเช่นกัน
เครื่องซักผ้า Bosch ขนาด 8 kg. ข้างๆก็จะมีตู้แบ่งชั้นไว้เก็บน้ำยาซักผ้าได้ด้วย
ถัดมาข้างๆห้องครัว จะเป็นห้องนั่งเล่น เอาไว้รับแขก ไว้ดูทีวี ดูซีรีย์ โดยจะมีผนังกั้นระหว่างห้องนี้กับห้องนอนให้เป็นสัดส่วน ห้องนี้จะได้เป็นห้องโล่งๆนะคะ เราต้องซื้อโซฟา เฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งเอาเอง และด้านนอกก็จะเป็นระเบียงห้อง
ฝั่งระเบียงจะมีประตูกระจกบานใหญ่ ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง สามารถเอาโต๊ะเล็กๆ ไปนั่งจิบกาแฟยามเช้า หรือนั่งชมวิวชิวๆตอนดึกก็ไม่คับแคบจนเกินไป
ฝั่งระเบียงจะมีประตูโครงเหล็กปิดไว้กันนกเข้าไปทำรังที่แอร์คอมเพรสเซอร์ด้วย ส่วนด้านล่างที่โล่งๆ มุกคิกไว้ว่าอาจจะเอาต้นไม้ต้นเล็กๆมาวางจะได้ดูร่มรื่นๆ
ส่วนห้องนอนทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู ก็ยังมีที่ว่างสำหรับเดินได้ แต่ถ้าใครที่ต้องการทำโต๊ะทำงานไว้ในห้องนอนด้วย ก็อาจจะต้องลดขนาดเตียงให้เหลือ 3.5 ฟุต อันนี้แล้วแต่ชอบนะ ส่วนตัวแล้วมุกชอบเตียงใหญ่มากกว่า
Built-in ที่ได้ในส่วนของห้องนอนก็จะมีตู้เสื้อผ้าขนาดกลาง มีชั้นวางของแบ่งสัดส่วนมาให้เรียบร้อยนะคะ แต่สำหรับมุกมันไม่พอแน่นอน เดี๋ยวต้องไปดูแบบตู้เสื้อผ้าไว้ว่าจะเพิ่มตรงไหนยังไงดี อาจจะไปทำตู้บานสไลด์ตรงทางเดินเชื่อมประตู ขอคิดดูก่อนๆ
ถัดมาเป็นส่วนของห้องน้ำ สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอน หรือ จากทางฝั่งห้องครัว เวลามีแขกมาเยี่ยมก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา ขนาดของห้องน้ำค่อนข้างกว้าง ติดตั้งกระจกมาให้บานใหญ่เลย อุปกรณ์วัสดุที่ใช้ค่อนข้างพรีเมียม
ห้องน้ำแบ่งโซนแห้งโซนเปียกมาให้ด้วย ไม่ต้องไปติดตั้งประตูกระจกเองแล้ว
อ่างล้างหน้ามีระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น Stebel Eltron มาให้บริเวณใต้อ่างล้างหน้า รวมถึง Built-in ชั้นวางของที่จำเป็นต้องใช้ นอกจากนี้ยังมีชั้นเก็บของใต้อ่างล้างหน้าเพิ่มเติมให้อีกด้วย อีกห้องที่มุกชอบก็คือห้องน้ำนี่แหละ
โถสุขภัณฑ์ที่ติดตั้งมาให้เป็นของแบรนด์ TOTO มีระบบชำระล้างอัตโนมัติมาให้ แทนการติดตั้งสายฉีด บางคนอาจจะไม่ชิน มุกเองก็ไม่ชิน 55 คงต้องปรับตัวกันซักพัก
โครงการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower แบรนด์ Kohler มาให้ด้วยค่ะ
ส่วนแอร์ทางโครงการจะติดตั้งแอร์ฝังฝ้าเพดานมาให้เลย มีช่องแอร์ให้ทุกห้อง เราก็ไม่ต้องติดแอร์เพิ่ม แต่ถ้าคิดว่ามันดูแลลำบากอยากใช้แอร์ติดผนังก็ลองปรึกษาที่โครงการดูนะคะ
มีระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ให้ทั้งนห้องนอนและห้องนั่งเล่น
ส่วนปลั๊กไฟจะมีให้ค่อนข้างเยอะ ทั้งบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร ใต้ซิงค์ล้างจาน ข้างๆเคาน์เตอร์ ห้องนั่งเล่น ข้างประตูออกริมระเบียง ฝั่งวางทีวี ในห้องน้ำและข้างหัวเตียง
ระบบไฟ จะเป็นหลอดไฟฝังไปกับผนังฝ้า สีของหลอดไฟจะออกโทนเหลืองๆตุ่นๆหน่อย แต่ในโซนห้องน้ำจะเป็นไฟโทนสีขาวนะคะ ถ้าจะแต่งหน้าอาจจะต้องมาใช้ไฟห้องน้ำ แต่มุกว่ามุกอาจจะเปลี่ยนหลอดไฟโซนวางของตรงทางเดินเชื่อมไปห้องน้ำเพราะโซนนี้จะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
ส่วนพื้นของห้อง โครงการทำมาเป็นสองแบบบริเวณห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนตสีน้ำตาลเข้ม ส่วนห้องครัว และห้องน้ำจะปูเป็นกระเบื้องสีครีม ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาทำครัวแล้วเละพื้น
แบบห้องที่ 2 Type 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอยภายในห้องอยู่ที่ 41-43 ตร.ม.
การวาง Layout คล้ายๆแบบที่ 1 เลย ค่ะ แต่เค้าจะเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยห้องต่างๆให้กว้างขึ้น สำหรับคนที่คิดว่าห้องแบบแรกยังเล็กไป มีเสื้อผ้าเยอะ มีของมากมายหลายสิ่งต้องการห้องที่ขนาดใหญ่ขึ้นอีกนิดนึง ก็เลือกเป็นห้องขนาด 41-43 ตร.ม. ได้เลยน้า (มุกเอารูปห้องตัวอย่างมาให้ดูคร่าวๆนะคะ)
แปลนห้องแบบที่ 2 : 1 Bedroom Extra 41-43 ตร.ม.
ประตูทางเข้าจะมีตู้ Built-in สำหรับเก็บของมาให้เหมือนกันทุกห้อง ซึ่งก็จะมีพื้นที่กว้างขึ้นตามขนาดของห้องค่ะ (จริงๆห้องนี้ก็โอเคนะ แต่ถ้าอยู่คนเดียวอาจจะดูกว้างไปสำหรับคนโสดแบบมุก อิอิ)
ส่วนห้องครัว ก็จะคล้ายๆแบบห้อง Type 29-30 ตรม. เลยค่ะ มี Built-in ตู้เก็บของ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เหมือนกันเลย
“Layout Kitchen Set Type 1 Bedroom Extra 41-43 SQ.M.”
ซึ่งทางโครงการเค้าทำโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งมาให้ดูด้วยนะคะ
(อันนี้ไม่ได้แถมมา แต่ทำเพิ่มได้)
ถัดมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องดูทีทีวี ซึ่งขนาดห้องนี้ยาวและกว้างมาก สามารถแบ่งห้องทำเป็นห้องแต่งตัว หรือจะทำเป็นห้องทำงานที่สามารถชมวิวมุมสูงของกรุงเทพฯก็ได้ แต่ห้องตัวอย่างที่มุกถ่ายมาให้ดูโครงการเค้าแบ่งทำอีกส่วนเป็นห้องอ่านหนังสือ มีโต๊ะนั่งแบบญี่ปุ่นน่ารักๆ
ตัวอย่างการออกแบบและตกแต่งในห้อง Type 1 Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ 41-43 ตร.ม.
ในส่วนของห้องนอน มีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ให้ 2 ฝั่ง มีพื้นที่สำหรับโต๊ะทำงาน สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เหลือๆ และฝั่งระเบียงของห้องจะเชื่อมจากห้องนอนค่ะ
ปลายเตียงอาจจะติดกระจกแบบห้องตัวอย่างก็ได้นะคะ มันทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
ฝั่งระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนอน
ส่วนห้องน้ำของห้อง Type นี้ ก็จะเหมือนแบบแรกเลยค่ะ แต่จะกว้างกว่านิดนึง อุปกรณ์ โถสุขภัณฑ์ ทุกอย่างได้เหมือนกันทุกห้องจริงๆค่ะ
แบบห้องที่ 3 Loft 2 Bedroom 67 ตร.ม.
และห้องตัวอย่างห้องสุดท้าย ก็จะเป็นรูปแบบห้องสไตล์ Loft จุดเด่นของห้องในรูปแบบนี้ ก็คือ มีเพดานสูงถึง 4.5 เมตร มีห้องนอน 2 ห้อง มีห้องนั่งเล่น 2 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องครัว 1 ห้อง เหมาะกับครอบครัว 2-3 คน
แปลนห้องแบบ 3 Loft 2 Bedroom 67 ตร.ม.
เข้ามาภายในห้องจะเจอตู้เก็บของ Built-in ขนาดใหญ่ คือใหญ่มากกก (แต่มุกไม่ค่อยชอบที่จับประตูตู้เลยอ่ะ น่าจะเป็นบานสไลด์หรือประตู่แบบที่ไม่ต้องมีที่จับ จะดูดีกว่านะ)
ห้องครัวของห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก สามารถวางโต๊ะกินข้าว 4 ที่นั่งได้สบายๆเลยค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ Built-in ต่างๆ ครบเหมือนทุกห้อง พร้อมเข้าอยู่
และจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ Double Volume ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตร และยังติดตั้งหน้าต่างแบบกระจกทรงสูงจากพื้นถึงเพดาน ทำให้ห้องดูโล่งกว้าง เหมือนอยู่ทาวโฮมบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองเลย
ส่วนด้านหลังห้องนั่งเล่น ก็สามารถเดินไปชมวิวระเบียงได้
ถัดมาจะเจอบันไดขึ้นชั้นสอง ซึ่งจะมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ สำหรับชั้นล่าง และบริเวณใต้บันได ก็จะเป็นโซนเครื่องซักผ้า Bosch ขนาด 8 kg. ซึ่งทางโครงการก็ให้มาเช่นกัน ส่วนฝั่งขวาก็จะเป็นห้องนอนของชั้นล่าง
ห้องนอนที่ชั้นล่าง ขนาดห้องนอน(ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง)จะเท่ากับห้อง Type 29-30 ตรม. ของมุกเลยค่ะ (ห้องนี้มีแอร์ติดผนังแถมมาให้ด้วย)
ภายในห้องน้ำ อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ เครื่องทำน้ำอุ่น การวาง Layout โซนแห้ง โซนเปียก ก็จะเหมือนห้องขนาดอื่นๆเช่นกันค่ะ
บันไดที่จะขึ้นไปยังชั้นสอง ของห้อง Loft เดินขึ้นลงได้สะดวกสบาย ตัวราวบันไดเป็นกระจก ให้ความรู้สึกโล่ง ทำให้บันไดดูกว้างขึ้น
พอขึ้นมาถึงพื้นที่บนชั้นลอย ของห้อง Loft Type ตรงนี้จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวี แต่เราสามารถจัดเป็นมุมทำงาน หรือจะเป็นห้องเรียนรู้ของลูกๆก็ได้นะคะ
ส่วนที่ถัดเข้ามา จะเป็นส่วนของพื้นที่ Walk-in Closet ที่ทางโครงการได้ออกแบบ Built-in ไว้ให้พร้อมใช้งานกับความจุของตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่น
และมาในส่วนของพื้นที่ของห้องนอน ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ห้องนี้จะกว้างกว่าห้องนอนข้างล่างนะคะ และมีชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ให้ด้วย
ตอนนี้โครงการกำลังอยู่ในขั้นตอนของการก่อสร้าง ทำให้เรายังไม่สามารถไปเดินชมส่วนกลางของจริงได้ มุกก็เลยเอารูปจากเว็บของโครงการมาแปะให้ดูว่ามันเป็นยังไง
สำหรับใครที่สนใจคอนโดแบบที่มุกไปจองไว้ อยากลองเข้าไปชมโครงการสามารถเข้าไปติดต่อได้ที่ โครงการ Cloud Residences SKV23 (ซอย สุขุมวิท 23)
สำหรับวันนี้มุกขอตัวก่อนนะคะ ไว้คราวหน้าจะมีอะไรเด็ดๆมาแชร์ให้เพื่อนๆกันอีก ต้องรอติดตามชมกันด้วยน้า..