กลุ่ม LGBT เข้าช่วยเหลือยาย 80 ดับ หลังฉีดวัคซีน เตรียมร้องอนุทิน ญาติลั่นยังไม่เผาศพ เสียใจดาราดังแห่ฉีดวัคซีนจนเชื่อมั่น

กลุ่มLGBT เข้าช่วยเหลือยาย80ดับหลังฉีดวัคซีนเตรียมร้องอนุทิน

ญาติลั่นไม่เผาศพเสียใจดาราดังแห่ฉีดวัคซีนจนเชื่อมั่น

กลุ่มLGBT GROUP THAILAND

นายชิษณุพงศ์ไตรรัตน์รังษีหรือ

หนุ่มจีสตาร์และนายสมชายเล็กน้อยหรือที่รู้จักกันในวงการบันเทิงว่าเดซี่ตุ๊ดสลัมผู้กำกับภาพยนตร์100 วันเกมอาฆาตเตรียมพาญาติของคุณยายวัย80 ปีเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิดได้เพียง8วัน

วันที่19 มิย2564 ที่วัดโพธิ์อ.เมือง

จ.ชลบุรีหลานสาวของคุณยายที่เสียชีวิตพร้อมกลุ่มLGBT ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวจากกำหนดเดิมจะมีการฌาปนกิจศพคุณยายรัตติยามหาโสมเปลี่ยนเป็นการยกเลิกการเผาศพกระทันหันเพราะต้องการเรียงร้องความเป็นธรรมและอยากยกเคสคุณยายขึ้นเป็นเคสกรณีศึกษาและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐออกมาทบทวนอย่างจริงจังว่าใครมีโรคประจำตัวอะไรบ้างที่มีผลเสี่ยงกับการฉีดวัคซีน

ด้านน้องจอยกานดาอรุณส่งหลานสาวของยายผู้เสียชีวิตเปิดเผยถึงการยกเลิกการเผาศพคุณยายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมว่า

“วันนี้ขอยกเลิกการเผาศพคุณยายไปก่อนเพราะรู้สึกว่าคุณยายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากที่มีเอกสารจากโรงพยาบาลชลบุรีระบุว่าการเสียชีวิตของคุณยายไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิค19 และนำมาให้ทางเราเซ็นต์ยอมรับซึ่งมันไม่ใช่จากไทม์ไลน์ก็เห็นชัดว่าคุณยายมีอาการเป็นไข้ตัวร้อนหลังจากฉีดวัคซีนในวันที่7 มิย. จนมากระทั้งขาอ่อนแรงและนำส่งโรงพยาบาลในวันที่11มิยจนมาเสียชีวิตในคืนวันที่14 มิยเวลาตี2กว่าเราไม่โทษใครไม่โทษหมอไม่โทษโรงพยาบาลเข้าใจทุกคนทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วแต่เราอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับยายจึงปรึกษากลุ่มLGBT ของพี่หนุ่มจีสตาร์และพี่เดซี่กลุ่มนี้เขาช่วยเหลือเราตลอดตั้งแต่การช่วยหาเตียงให้กับผู้ป่วยโควิดจนมาถึงเคสคุณยายก็ปรึกษาพวกพี่เขาตลอดและลงความเห็นกันว่าควรจะเลื่อนเผาศพคุณยายไปก่อน”

ด้านเดซี่ตุ๊ดสลัมหรือนายสมชายเล็กน้อยตำแหน่งสื่อสารองค์กรของLGBT GROUP THAILAND ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่เข้ามาช่วยเหลือกรณีนี้ว่า

“ปกติแล้วองค์กรของเราจะช่วยเหลือทุกคนทุกเพศทุกวัยเริ่มก่อตั้งกันช่วงโควิดระบาดเริ่มจากการช่วยเหลือหาเตียงให้กับผู้ป่วยโควิดและน้องจอยได้เข้ามาปรึกษากรณีคุณยายเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนเราพูดคุยกันตั้งแต่คุณยายมีอาการเป็นไข้ตัวร้อนและเสียชีวิตในที่สุดเรารู้สึกว่ามีผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนเยอะจังผลออกมาส่วนมากก็จะเสียชีวิตจากโรคประจำตัวต่างๆเรารู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เราต้องมาทบทวนกันอย่างจริงจังได้แล้วอยากให้ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งโต๊ะสัมมนาว่าแท้จริงแล้วใครที่มีโรคประจำตัวอะไรบ้างที่ไม่ควรฉีดวัคซีนเพราะเราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบคุณยายเกิดขึ้นกับใครอีกเรายังคงสนับสนุนให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนกันถ้วนหน้านะแต่ก็อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับมาทบทวนว่าแท้จริงแล้วเสียชีวิตจากอะไรกันแน่วัคซีนมีผลกับโรคประจำตัวอะไรบ้างประชาชนจะได้ระวังตัวกัน”

ด้านหนุ่มจีสตาร์หรือนายชิษณุพงค์ไตรรัตน์รังษีประธานกลุ่มLGBT GROUP THAILAND ได้เปิดเผยเตรียมยื่นเรื่องกรณีคุณยายเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนต่อนายอนุทินชาญวีรกุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นเคสกรณีศึกษาและอยากให้ท่านอนุทินผู้มีอำนาจในเรื่องนี้ได้สั่งการให้มีการทบทวนหาสาเหตุรวมถึงใครที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการรับวัคซีน

“ขั้นตอนต่อไปหนุ่มจะพาน้องไปยื่นเรื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนายอนุทินชาญวีรกุลอยากให้ท่านลงมาช่วยเหลือหาแนวทางแก้ไขให้กับประชาชนที่มีโรคประจำตัวเราจะมาอ้างอิงอนามัยโลกอะไรไม่ได้แล้วจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของคนที่รับวัคซีนแค่เข็มแรกก็ตายแล้วถึงแม้ว่าจำนวนการเสียชีวิตจะน้อยมากหากเทียบกับจำนวนประชาชนที่รับวัคซีนไปแล้วหลายล้านคนแต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยนะร่วมร้อยคนที่เสียชีวิตจากการรับวัคซีนเข็มแรกหนุ่มไม่ได้ว่าใครถูกใครผิดเพราะมันเป็นเรื่องใหม่ที่ทุกคนเพิ่งมารับรู้พร้อมๆกันเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด

ตอนนี้หนุ่มว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองต้องหันกลับมาศึกษาทบทวนอย่างจริงจัง”

ด้านน้องจอยหลานสาวของคุณยายผู้เสียชีวิตเผยอีกว่าสาเหตุที่พาคุณยายไปฉีดวัคซีนเพราะเห็นว่ามีดาราดังหลายคนแห่ไปฉีดวัคซีนจึงทำให้ตนเชื่อใจและตัดสินใจพาคุณยายไปฉีดวัคซีนจนเสียชีวิตในที่สุด

“ก่อนที่จะพายายไปฉีดวัคซีนหนูก็เห็นว่ามีดาราดังๆนางเอกดังๆหลายคนไปฉีดวัคซีนแล้วไม่เห็นมีใครเป็นอะไรหนูก็เลยมั่นใจว่าคงปลอดภัยไม่รังเลเลยจึงพาคุณยายไปฉีดวัคซีนแต่ไม่คิดเลยว่าผลจะออกมาแบบนี้เสียใจมากเหมือนหนูเป็นคนพาคุณยายไปตายมันเป็นตราบาปที่ติดตัวหนูไปตลอดชีวิตหนูไม่ขอโทษใครทั้งสิ้นและอยากให้เคสคุณยายเป็นเคสที่มีประโยชน์ต่อสังคมในภายภาคหน้าหนูจะถือว่าเป็นการทำบุญให้ยายครั้งยิ่งใหญ่หากกรณีของคุณยายจะทำให้สังคมตื่นตัวแล้วกลับมาทบทวนอย่างจริงจัง”