ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา หนองคาย
ศาลาแก้วกู่, อุทยานเทวาลัย หรือ วัดแขก เป็นอุทยานขนาด 42 ไร่ของสำนักปฏิบัติธรรมแก้วกู่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ที่ประดิษฐานรูปปั้นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่จำนวนรวมกว่า 200 องค์ โดยประกอบด้วยพระพุทธรูป พระรูปของพระโพธิสัตว์ เทพเจ้าฮินดู บุคคลในคริสต์ศาสนา ความเชื่อพื้นบ้าน และตัวละครจากรามเกียรติ์ อุทยานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ภายใต้แนวคิดว่า "ทุกศาสนาสามารถอยู่รวมกันได้" และให้เป็น "สถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง" ในปี พ.ศ. 2521
ภายในอุทยาน ที่บริเวณฐานของพระรูปแต่ละองค์จะมีจารึกอธิบายชิ้นงานและแนวคิด คติเตือนใจ เป็นภาษาอีสาน และภาษาไทย รุปปั้นที่สูงที่สุดมีความสูงราว 25 เมตร นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักพุทธศาสนาแก้วกู่ความสูงสามชั้น สถาปัตยกรรมเลียนแบบมัสยิด บนหน้าบันของอาคารจารึกสัญลักษณ์โอม และอักษรไทย ศาลาแก้วกู่ โดยชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งร่างของปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ที่บรรจุในผอบ (อ่านว่า ผะ อบ) และไม่เน่าเปื่อยทำให้สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่ศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก
ปู่บุญเหลือได้สร้างอุทยานนี้ถัดจากสวนพระ หรือ วัดเชียงควน (Buddha Park; Wat Xieng Khuan) ที่ตั้งอยู่ในนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว แต่ท่านได้สร้างให้อุทยานแก้วกู่นี้มีงานที่มีความวิจิตรและยิ่งใหญ่กว่าที่เคยสร้างที่ประเทศลาว สวนแห่งนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสวนแห่งโบมาร์โซ (Gardens of Bomarzo) ที่แคว้นลัตซีโย ประเทศอิตาลี
วัฒนธรรมชาวพุทธของไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องศาสนาพุทธเท่าไหร่ พอเข้าไปในสวนประติมากรรม รู้สึกว่าได้เข้าไปใน 'ถ้ำลึกลับ รูปเคารพต่างๆ ตั้งตระหง่านและเต็มไปด้วยความลึกลับ
รูปปั้นและประติมากรรมทุกชิ้นที่นี่บอกเล่าเรื่องราว และทุกเรื่องราวก็คือความดีเอาชนะความชั่ว
รูปปั้นงูเจ็ดเศียรในตำนาน
ประติมากรรมแต่ละชิ้นมีความยาวและกว้างหลายสิบเมตร ซึ่งจินตนาการว่าเมื่อรูปปั้นเหล่านี้ถูกแกะสลักในเวลานั้น มันเป็นโครงการที่ใหญ่มาก
อุทยานแห่งนี้มีประวัติศาสตร์เพียงไม่กี่ทศวรรษ นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ค่าตั๋วท่านละ 20 บาท
เมื่อคุณมาที่สวนประติมากรรม คุณต้องไปที่ล็อบบี้ของอาคารหลักเพื่อตีฆ้องและกลองสามครั้งเพื่อจะได้เป็นพรแก่ชีวิตของคุณ
ที่มา: https://kknews.cc/travel/x58qa39.html