ศฐค.เผยเงื่อนไข 3 ข้อ หากมีการระบาดใน Phuket Sandbox จะยุติทันที
วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.เป็นประธานว่า เรื่องการเปิดพื้นที่นำร่องรับการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) โดยเน้นหนักที่ จ.ภูเก็ตเนื่องจากมีความพร้อมมากกว่า
โดยหลักการแล้วทางนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้เน้นย้ำว่า เป็นเรื่องที่ได้ให้นโยบายเชิงของทิศทางของประเทศไทยเพื่อเปิดประเทศ โดยมีการเปิดพื้นที่นำร่อง และมีการเรียนรู้กันไปทุกภาคส่วน ดังนั้น ต้องมีการจัดสมดุลการป้องกันคนไทยในการติดเชื้อ โควิด-19 ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดย รมว.ท่องเที่ยว และกีฬาได้มอบทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นผู้นำเสนอต่อที่ประชุม ถึงหลักการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี
โดยมีรายละเอียดตั้งแต่ก่อนเดินทาง เมื่อเดินทางมาถึง ขณะพำนัก กระทั่งเดินทางออกจากประเทศ โดยให้ความสำคัญถึงกลุ่มคนที่เราจะรับเข้ามาจะต้องเป็นมาจากประเทศที่ทางกระทรวงสาธารณะสุขกำหนดว่า เป็นประเทศเสี่ยงต่ำ หรือเสียงปานกลาง และจะต้องได้รับวัคซีนมาแล้วซึ่งกำหนดว่าเป็นวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงาน คณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) เป็นผู้กำหนด 5 ตัว ได้แก่ ซิโนแวค แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หรือถ้าไฟเซอร์ หรือ ยี่ห้ออื่น ๆ ก็รอให้ WHO รองรับด้วย
ดังนั้น ต้องได้รับมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็มหรืออย่างน้อย 14 วัน เมื่อลงเครื่องบินแล้วต้องทำนักอยู่ที่ภูเก็ต 14 คืน ถ้าอยู่น้อยกว่านั้นจะต้องเป็นการเดินทางกลับออกนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น แต่ยกตัวอย่างถ้าจะบินไปเกาะสมุยก็ต้องอยู่ที่ภูเก็ตให้ครบ 14 คืนก่อน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีข้อห่วงใยจึงขอให้มีมาตรฐานกำกับเพิ่มอีก 3 ข้อ คือ
1. ต้องมีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการเรื่องสถานการณ์ โควิด-19 เพื่อให้มีการติดตามข้อมูล การติดเชื้อ การดูแลทรัพยากรบุคลากรด้านสาธารณสุขและด้านการท่องเที่ยวรวมไปถึง ภาคประชาสังคม
2. การเตรียมความพร้อมของประชาชนโดยต้องมีการจัดเวทีความคิดเพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงการสื่อสารเพราะหากสอดคล้องกันทั้งจังหวัดก็จะเป็นเรื่องที่ดี ก่อนที่จะนำเสนอมาเป็นแนวทางในภาพรวมของจังหวัด เพื่อให้เกิดความยอมรับร่วมกัน เป็นความเห็นตั้งต้นจากทางจังหวัด เพื่อนำเสนอให้ทางศบค. ได้อนุมัติ
3. การเตรียมความพร้อมมาตรการการเฝ้าระวังซึ่งจะต้องมีอยู่ตลอดเวลา
“และเมื่อมีเปิดได้ก็ต้องมีปิดได้ นี่คือสิ่งที่จะต้องพูดกันเนื่องจากจะต้องเตรียมทรัพยากรด้านการแพทย์สาธารณสุขกำลังคน การกำกับติดตาม และทรัพยากรอื่น ๆ อย่างเต็มที่ โดยมีการพิจารณาว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจึงจะมีการปิด ซึ่งมีการพูดถึงการติดเชื้อรายใหม่ มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายโรคในจังหวัด ทั้ง 3 อำเภอมากกว่า 6 ตำบล และมีการระบาดเกินกว่า 3 คลัสเตอร์ มีการระบาดในวงกว้าง หรือหาสาเหตุของความเชื่อมโยงไม่ได้ หรือความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย อัตราการครองเตียงมีมากตั้งแต่ 80% ขึ้นไป แสดงว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี และเป็นการระบาดในวงกว้างที่ควบคุมไม่ได้ โดยมาตรการจะต้องปรับลดกิจกรรมลง ทำให้เกิดระบบปิด และที่สุดคือทบทวนหรือยุติ แซนด์บอกซ์ที่ภูเก็ตนี้ ถ้ามีการ ระบาดโดยที่ไม่ตรงตามที่วางหลักการไว้ เน้นย้ำว่า ในวันนี้ยังอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) คงจะเป็นสเต็ปถัดไป ซึ่งในที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยว โดยนายกฯได้ระบุว่าจะเดินทางไปติดตามในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อเยี่ยมชม และ คิกออฟ เปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ซึ่งในช่วงต้นนี้จะได้ให้ทางจังหวัดภูเก็ต กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ได้เตรียมความพร้อมต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ขอให้ทุกคนได้ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อทำให้สามารถเปิดประเทศได้ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเมื่อยังมีคนติดเชื้อเป็นพันคนอย่างนี้แล้วยังจะเปิดประเทศ ทำไมไม่มีความกังวลใจ อย่างที่ว่ากันไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่มีการติดเชื้อ โควิด-19 ประเทศอื่นที่ติดเชื้ออันดับสูงกว่าใครเขาก็มีความขยับ และมีการนำไปสู่การใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือนิวนอร์มอลกันแล้ว
ดังนั้น เราต้องเรียนรู้เพื่อที่จะกลับไปมีชีวิตแบบเดิม โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันโรค ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด ตามที่นายกฯ บอกว่ามีความเสี่ยง เราต้องร่วมด้วยช่วยกันเป็นการกำหนดทิศทางเป็นเป้าหมายไปข้างหน้า เป็นหน้าที่ของทุกคน เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เป็นฟันเฟืองนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
อ้างอิงจาก: Thailand Vision