10 งูที่แปลกที่สุดในโลก ที่คุณไม่เคยเห็น!
10. งูมังกร
Xenodermus javanicus หรือที่เรียกว่า Dragon Snake, Javan Tubercle Snake, Javan Mudsnake หรือ Rough-backed Litter Snake เป็นงู Colubrid กึ่งฟอสซิลขนาดเล็กที่ไม่มีพิษซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกับ Xenodermus
9. Langaha madagascariensis
Langaha madagascariensis เป็นงูที่มีถิ่นฐานอยู่ที่มาดากัสการ์และพบได้ในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้นมักจะอยู่ในระดับความสูง 1.5 ถึง 2 เมตรจากพื้นดิน
8. งูงวงช้าง
งูงวงช้าง เป็นงูที่ไม่มีพิษ ที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ มีรูปร่างโดยรวม คือ มีหัวเล็กแต่มีลำตัวขนาดใหญ่ ผิวหนังไม่ยิดติดกับกล้ามเนื้อลำตัวและพับเป็นรอยย่นมาก เกล็ดตามลำตัวเป็นตุ่มนูนและเรียงตัวต่อเนื่องกัน โดยมีตุ่มหนามเจริญขึ้นมาจากผิวหนังลำตัวระหว่างเกล็ด เป็นงูที่อาศัยและหากินในน้ำเป็นหลัก จึงมีส่วนหางที่แบนเพื่อใช้ในการว่ายน้ำ ไม่มีแผ่นปิดช่องจมูกภายนอกแต่ในอุ้งปากมีแผ่นเนื้อเพื่อใช้ปิดโพรงจมูกด้านใน หากินปลาเป็นอาหารหลัก ด้วยการใช้ลำตัวส่วนท้ายที่เป็นตุ่มหนามยึดและรัดไว้ รอให้ปลาเข้ามาใกล้ เมื่อปลาสัมผัสกับผิวหนังลำตัวจะโบกรอยพับที่ย่นของลำตัวนั้นไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักตัวปลาไปข้างหน้าแล้วใช้ปากงับไว้อย่างรวดเร็ว
7. งูตกปลา
มีงูน้ำประหลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกว่า งูน้ำจมูกลูกศรในประเทศจีน งูประเภทนี้มีตงามเชี่ยวชาญทักษะการตกปลาที่ยอดเยี่ยม เนื้อในจมูกที่ยื่นออกมาสามารถใช้เพื่อล่อปลาและกุ้งไปที่ปาก แล้วเปิดปากอย่างรวดเร็วเพื่อกัดและฉีดพิษ เหมือนกับนักตกปลา
6. งูบัชไวเปอร์
งูในวงศ์ไวเปอร์ (Viperidae) เป็นงูพิษที่พบได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก เว้นแต่ที่ แอนตาร์กติกา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ มาดากัสการ์ และฮาวาย บรรดางูไวเปอร์นั้นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและออกหากินในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังฝนตก พวกมันเลื้อยได้เร็วมาก แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของงูพิษไวเปอร์นั้นก็คือพิษที่สามารถก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ โดยเริ่มจากการปวดในบริเวณที่ถูกกัด ตามมาด้วยอาการบวมในทันที มักจะพบว่าเหยื่อมีเลือดออกโดยเฉพาะจากเหงือก ความดันโลหิตลดลงและอัตราการเต้นของหัวใจไม่ทำงาน ซึ่งนำไปสู่ความตายในที่สุด
5. งูพิษมีเขาทะเลทราย
Saharan horned viper มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cerastes Cerastes (Linnaeus, 1758)มีลักษณะเด่น คือ บริเวณเหนือตาแต่ละข้างมีส่วนที่คล้ายเขายื่นขึ้นมา ตาจะอยู่ด้านข้างแต่ค่อนไปทางด้านบนของหัว สามารถแยกเพศได้โดยเพศผู้จะมีขนาดของหัวและขนาดของตาที่ใหญ่กว่าเพศเมียอย่างมีนัยสำคัญ สีของงูชนิดนี้มีตั้งแต่สีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน สีเทาอ่อน สีชมพู และสีแดง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสีของงูนั้นจะกลืนไปกับพื้นที่อยู่อาศัย ด้านบนของงูจะมีแถบสีดำคล้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตลอดความยาวของลำตัว ด้านท้องมีสีขาว หางมีลักษณะแบน ปลายหางอาจเป็นสีดำ งูชนิดนี้จะโผล่เฉพาะส่วนของจมูกและส่วนของตาเหนือพื้นทะเลทราย ส่วนของลำตัวจะฝังอยู่ในพื้นทรายเพื่อเป็นการพรางตัว ในวัยเด็กมีการใช้ส่วนหางเป็นเหยื่อล่อโดยใช้หางสั่นไปมาคล้ายหนอนล่อเหยื่อกลุ่มกิ้งก่าหรือจิ้งเหลน[
4. งูเส้นด้ายบาร์เบโดส
งูเส้นด้ายบาร์เบโดส เป็นงูเส้นด้ายตาบอดสปีชีส์หนึ่งในวงศ์ Leptotyphlopidae เป็นงูขนาดเล็กที่สุดในโลก พบในเกาะในแคริบเบียนของประเทศบาร์เบโดส และพบในเมืองอาบูเกีย (Abu Qir) ในประเทศอียิปต์
3. งูเข็มขัดโจโค
Imantodes Chocoensis เป็นงูสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบในปี 2012 งูชนิดนี้พบได้ในเม็กซิโกและอาร์เจนตินา กินกบและกิ้งก่าเป็นหลัก
2. งูหัวจิ้งจก
งูหัวจิ้งจก เป็นสกุลของงูเขียวที่อยู่ในสกุล Ahaetulla ในวงศ์งูพิษเขี้ยวหลัง (Colubridae) เป็นงูที่มีรูปร่างเรียวยาว ลำตัวโดยปกติสีเขียว แต่อาจจะผันแปรไปได้เป็นสีต่าง ๆ มีส่วนหัวใหญ่และปลายปากปากแหลมเหมือนจิ้งจก ปกติอาศัยและหากินอยู่บนต้นไม้ จัดเป็นงูที่มีพิษอ่อน และนิยมเลี้ยงกันเป็นสัตว์เลี้ยง
1. งูจู๋
งูจู๋ หรือ ชื่อจริง ๆ ทางวิทยาศาสตร์คือ อเทรโตเคานา ไอเซลติ (atretochoana eiselti) เป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายงูผสมกับอวัยเพศชายของมนุษย์รวมกัน แต่ถึงอย่างนั้นความจริงแล้วมันไม่ใช่งู และแน่นอนมันไม่ใช่อวัยเพศชาย แต่มันคือถูกจัดให้อยู่ในขั้นเดียวกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และอยู่ในกลุ่มเดียวกับเขียดงู (caecilian)
ที่มา: https://kknews.cc/news/9y6nkjl.html