เริ่มแน่นอน 1 ก.ค นี้ Phuket Sandbox นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกักตัว
ศบศ.มีมติมาแล้ว1 ก.ค ดีเดย์แน่นอน รับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาลงภูเก็ตไม่ต้องกักตัว แต่ต้องอยู่ในจังหวัด14 วันถึงเดินทางไปที่อื่นได้
จากข่าว.... ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลางของจังหวัดภูเก็ต (Phuket Sandbox) ตามข้อเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะมีกำหนดดำเนินการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยมีกาหนดแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ดังนี้
- เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามเกณฑ์ของวัคซีนแต่ละชนิด มีระยะเวลาการฉีดมากกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี และเป็นผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข
- กำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าได้ ในขณะที่เด็กอายุระหว่าง 6-18 ปีจะต้องได้รับการตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต
- มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง โดยวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
- มีการติดตั้งแอปพลิเคชันแจ้งเตือน
- พำนักในโรงแรมที่พักที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ เป็นเวลา 14 คืน และภายหลังการ พำนักตามระยะเวลาที่กาหนดสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในประเทศไทยได้
- รายงานตัวและรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข และสามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้ภายใต้มาตรการป้องกันตามมาตรฐาน DMHTTA
ขณะเดียวกันมีการดำเนินการเตรียมพื้นที่รองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวภายใต้แผนการพัฒนาเมืองภูเก็ต (Better Phuket Initiatives) เช่น
- การปรับปรุงภูมิทัศน์
- โครงการสร้างคุณค่าและประสบการณ์โดยการท่องเที่ยววิธีชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์
- การพัฒนาทักษะให้กับบุคลากรทางการท่องเที่ยว
- การดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยว
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ททท. นำเสนอรายละเอียดของแผนการดำเนินงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุม ศบศ. ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้ การลงทุน และเพิ่มโอกาสการจ้างงานภายในประเทศ โดยมุ่งเน้นใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย
- กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizen) ซึ่งรวมถึงนักลงทุนที่มีกาลังซื้อสูง ภายใต้โปรแกรม (Flexible Plus Program)
- ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner)
- กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work from Thailand Professional)
- กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly Skilled Professional)
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีรายละเอียดที่ต้องหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ หลายประการ ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานด้านต่างๆ และนำเสนอ ศบศ. พิจารณาต่อไป
ตอนนี้ทางภูเก็ตก็ได้ปูพรมฉีดวัคซีนให้กับคนในจังหวัดไปกว่า70%แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะครอบคลุมทั้งหมดในเดือนมิ.ย แต่.....กับประชาชนทั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม และจังหวัดอื่นๆ ยังได้รับวัคซีนไม่ทั่วถึง บางองค์กรที่ลงทะเบียนไปอย่างรพ.จุฬภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็ได้ประกาศยกเลิกการฉีดเนื่องจากไม่ได้รับจัดสรรวัคซีน .... ในวันที่7 มิ.ย นี้ก็จะมีปูพรมฉีดให้กับประชาชนทั่วไป จุดใหญ่คือ สถานีบางซื่อ ก็รอดูกันว่าจะประชาชนจะได้ฉีดทัน ก่อน 1 ก.ค นี้หรือไม่ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการับนักท่องเที่ยวก็สำคัญ แต่ประชาชนก็สำคัญเช่นกัน รัฐควรเร่งดำเนินการนำเข้าวัคซีนให้มากขึ้น เพราะโดสแรกไม่สร้างภูมิต่อให้ฉีดกันทุกคนก็ไม่ปลอดภัย ต้องรอโดสสอง ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร??