The Bombed-Out St Dunstan ในโบสถ์ตะวันออกของลอนดอน

4 มิถุนายน 2564 (12:25) แปลโดย รักและคิดถึงเหมือนเดิม

หนึ่งในความลับที่ดีที่สุดของลอนดอนคือโบสถ์เล็กๆ ที่ถูกทิ้งร้าง หรือสิ่งที่เหลืออยู่ ครึ่งทางระหว่างสะพานลอนดอนและหอคอยแห่งลอนดอน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสวนสีเขียวและบรรยากาศอันเงียบสงบ โบสถ์ในยุคกลางของ St Dunstan ถูกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในระหว่างการทิ้งระเบิดที่ลอนดอนในสงครามโลกครั้งที่สอง เหลือเพียงกำแพงสองแห่งและหอคอยและยอดแหลมที่ตั้งตระหง่าน หลังจากถูกทิ้งร้างมานาน 25 ปี เมืองนี้จึงตัดสินใจเปลี่ยนซากปรักหักพังของโบสถ์ให้เป็นสวนสาธารณะ ต้องขอบคุณการปลูกพุ่มไม้พุ่มและนักปีนเขาอย่างสร้างสรรค์ ซากปรักหักพังจึงเต็มไปด้วยไม้เลื้อยและต้นไม้ ทำให้เกิดสถานที่เล็กๆ น้อยแต่มีเสน่ห์ในใจกลางกรุงลอนดอน ล้อมรอบด้วยเหล็กและคอนกรีต

เครดิตภาพ: Peter Trimming / Flickr

โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ. 1100 และรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในลอนดอนในปี ค.ศ. 1666 ซึ่งทำให้โบสถ์เสียหายอย่างรุนแรง ชิ้นส่วนที่เสียหายได้รับการแก้ไขในช่วง 30 ปีข้างหน้า และหอคอยใหม่ได้รับการออกแบบโดยคริสโตเฟอร์ เรน สถาปนิกชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบความไม่มั่นคงของโครงสร้างในปี พ.ศ. 2360 ได้มีการตัดสินใจสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่จากระดับของซุ้มประตู แต่สภาพของโครงสร้างได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแย่มากจนอาคารทั้งหลังถูกรื้อถอน มีเพียงหอคอยของนกกระจิบเท่านั้นที่ยังคงอยู่ โบสถ์ใหม่นี้มีความยาว 115 ฟุต และกว้าง 65 ฟุต และสามารถรองรับผู้คนได้ระหว่างหกถึงเจ็ดร้อยคน

หลังการจู่โจมทางอากาศในลอนดอนนาน 8 เดือนสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2484 บ้านมากกว่าหนึ่งล้านหลังถูกทำให้กลายเป็นซากปรักหักพัง เกือบทั้งหมดได้รับการสร้างขึ้นใหม่ ยกเว้นโบสถ์ St Dunstan ซึ่งซากปรักหักพังเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตไม่กี่รายที่เหลืออยู่ของ London Blitz

ปัจจุบันเป็นอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเกรด 1 โอเอซิสสีเขียวของโบสถ์เป็นสถานที่พักผ่อนช่วงกลางวันยอดนิยมสำหรับพนักงานในเมืองที่ต้องการหลีกหนีจากความเร่งรีบและคึกคักของถนนที่อยู่ใกล้เคียง เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในฤดูร้อน เนื่องจากซากปรักหักพังรอบๆ ช่วยสะท้อนความร้อนออกไปและทำให้สวนเย็นสบาย