เพื่อไทยจี้รัฐบาลให้ยกเลิกคำว่า "วัคซีนทางเลือก" ชี้ขัด รธน. ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ

31 พ.ค.64 - ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และคณะกรรมการนโยบายด้านสาธารณสุข พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผอ.ศบค. ยกเลิกคำว่าวัคซีนทางเลือก และประกาศให้วัคซีนที่มีคุณภาพที่ดี มีประสิทธิภาพสูงทุกตัวที่ทางองค์การอนามัยโลก ได้ขึ้นทะเบียนว่า เป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ได้ขึ้นทะเบียน ให้นำมาใช้ในประเทศได้ ให้เป็นวัคซีนหลักของประเทศ เหตุที่เรียกร้อง เพราะวัคซีนเป็นยาจำเป็น ที่จะใช้ปกป้องและขจัดโรคติดต่ออันตรายให้กับประชาชน ดังนั้น วัคซีนทุกตัวที่มี ย่อมมีสิทธิขึ้นทะเบียนเป็นยาจำเป็นหรือยาหลัก การที่เรียกร้องให้รัฐบาล ประกาศให้มีวัคซีนหลักและมีความหลากหลายตามองค์การอนามัยโลก ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน เช่น โมเดอร์นา ไฟเซอร์ จอหน์สันแอนด์จอหน์สัน แอสตร้าเซเนก้า ถ้าวัคซีนทุกตัวเป็นวัคซีนทางเลือก และ ศบค.อนุญาตให้ภาครัฐและเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนมาให้บริการได้ ทุกส่วนก็จะได้ร่วมการจัดหาวัคซีน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องชื่นชม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ออกประกาศและมีผลให้หน่วยงานภาครัฐ ที่ไม่ใช่องค์การเภสัชกรรมสามารถจัดหาวัคซีนได้ เดิมที รัฐอาศัยคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินว่า การจัดหาวัคซีนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้นโดยอ้างว่า อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นจึงเรียกร้อง ศบค.ปลดล็อกคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน คำวินิจฉัยนั้นเน้นแค่ในระยะแรก หากเรายังมีคำว่า วัคซีนทางเลือก จะเกิดสิ่งที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ในเรื่องสิทธิของประชาชนในมาตรา 47 วรรคสาม บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกัน ขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” แต่รัฐบาลได้ประกาศหลีกเลี่ยงและประกาศวัคซีนหลักเพียงตัวใดตัวหนึ่ง จึงทำให้วัคซีนตัวอื่นที่เหลือนั้นตีตราว่าเป็นวัคซีนทางเลือก ผู้ที่ให้บริการ หากนำมาให้บริการก็สามารถเก็บค่าใช้จ่ายเอง ถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนและรัฐเอง ก็ปฏิบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ

“การมีวัคซีนทางเลือก นอกจากไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ยังตามมาด้วยความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงวัคซีนและเกิดปัญหาบานปลาย อาจทำให้ประชาชนลุกฮือประท้วงหรือสร้างความวุ่นวาย ซึ่งจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่สามารถหาวัคซีนให้กับประชาชน ความสามารถนั้นจะกลับมาย้อนใส่ตัวท่านเอง คือท่านไม่มีวัคซีนคุ้มกันทางการเมือง” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรีบประกาศวัคซีนหลัก โดยเฉพาะวัคซีนที่ได้รับการประกาศจากองค์การอนามัยโลกและได้รับการรับรองจาก อย.ของเรา วัคซีนทุกตัวเป็นวัคซีนหลัก แต่ยกเว้นวัคซีนที่มีคุณภาพต่ำ มีความปลอดภัยที่ยังมีความคลุมเครือ องค์การอนามัยโลกมีเอกสารชัดเจนว่า วัคซีนบางชนิด เช่น ซิโนแวค มีความน่าเชื่อถือที่ต่ำ สำหรับความปลอดภัย ส่วนอีกชนิดที่ไทยมี แอสตร้าเซนเนก้า ที่บอกว่าจะเข้ามาในวันที่ 6 มิ.ย. จำนวน 6 ล้านโดส พร้อมฉีดวันที่ 7 มิถุนายน ฝากให้ติดตามว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เท่าที่รู้สหภาพยุโรป (อียู) ฟ้องบริษัทแอสตร้าเซเนก้า พีแอลซี ที่ไม่สามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้แล้ว