สรุปอภิปรายงบของหมอเก่ง วาโย ที่พูดถึงเรื่องงบสาธารณสุขไม่ยั้ง
เราใช้เงินไปเป็นงบความมั่นคงหรืองบยามมากถึง 12.6% แต่เอามาใช้รักษาคนที่กำลังตายกันอยู่ตอนนี้ หรืองบสาธารณสุขเพียง 9.9%
งบด้านอื่นลดลงโดยเฉลี่ย -5.7% แต่งบสาธารณสุขโดนลดไปมากถึง -10.8% ในภาวะวิกฤตโควิด เราจำเป็นต้องใช้งบตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เขียนขึ้นมาก่อนจะมีโควิด โดยไม่สนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไรเหรอ ทำไมเวชภัณฑ์และวัคซีนถึงถูกตัดมากกว่าความมั่นคงทางกายภาพ
งบกระทรวงสาธารณสุข 153,000 ล้าน งบกระทรวงกลาโหม 203,000 ล้าน ในงบสาธารณสุขเป็นงบลงทุนแค่ 17,000 ล้าน ในขณะที่งบกลาโหมเป็นงบลงทุนมากถึง 52,000 ล้าน ณ วิกฤตกาณ์แบบนี้ เราควรลงทุนกับสาธารณสุข หรือลงทุนกับทหาร ?
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้งบโครงการป้องกันและแก้ปัญหาโควิดเพียงแค่ 8 ล้านบาท ! แถมให้แค่ปีเดียว รัฐบาลคิดว่าโควิดจะจบภายในปีเดียวเหรอครับ
ส่วนงบลงทุนของสำนักปลัด เป็นงบซื้อของกับก่อสร้างไปแล้ว 10,000 ล้านบาท โดยซื้อครุภัณฑ์ต่อหน่วยที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 934 รายการ โดยไม่มีรายละเอียดว่าซื้ออะไรบ้าง ในส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 558 รายการ เกือบ 1,400 ล้านบาท ทำตามแผนงาน 11 ปี (ตั้งงบตั้งแต่ปี 2560-2570 จำนวนรวม 77,000 ล้าน) โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์โควิด
จัดซื้อเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา 50 เครื่อง ราคา 1.2 ล้าน เลยโทรไปสอบถามอาจารย์ที่อยู่ในราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย อาจารย์บอกว่าเครื่องนี้เอาไว้สำหรับตรวจคนที่เป็นเบาหวานขึ้นตา ซึ่งจำเป็น แต่เครื่องนี้ต้องใช้ความร่วมมือในระดับเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ในการใช้เครื่องตัวนี้ ซื้อเครื่องนี้ เยอะขนาดนี้ ราชวิทยาลัยควรรู้เรื่อง แต่กลับไม่รู้ เลยสอบถามไปที่ประธานราชวิทยาลัยต่อ ประธานราชวิทยาลัยบอกว่าดีเนอะ ประเทศเรารวยจัง
ใช้งบสร้างห้องตรวจโรคอุบัติใหม่ 68 ล้านบาท เพื่อตรวจโควิด ตั้งงบผูกพัน 5 ปี (ปี 65-69) แต่ให้งบปี 65 แค่ 16 ล้าน คำถามคือจะให้ห้องนี้เสร็จปี 69 เลยหรืออย่างไร ? ท่านไม่รีบใช้ห้องนี้ตรวจโควิดในปีนี้หรือ ?
ที่น่าแปลกใจ คือ มีการประเมินโครงการควบคุมโรคด้วยเวลา 95% หมายความว่าถ้าไปยืนยามครบ 95 ชั่วโมงจาก 100 ชั่วโมง ก็ถือว่าสำเร็จ แต่กลับไม่ได้วัดที่สัดส่วนคนติดเชื้อ ว่าลดการติดเชื้อได้เท่าไหร่
สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ปี 63 มีงบ 40 กว่าล้าน ปี 65 มีงบ 22 ล้าน ตอนมีโควิดกลับได้งบกว่าตอนไม่มีโควิด ผลสัมฤทธิ์คือมีจำนวนวัคซีนใช้ตอบโต้โรคระบาดเพียง 1 ชนิด ! เขียนแบบนี้พูดชื่อยี่ห้อมาเลยก็ยังได้
กรมสุขภาพจิต ภาวะ new normal ภาวะโควิด มีคนเป็นซึมเศร้า มีคนฆ่าตัวตายเยอะ จัดสรรงบให้แค่ 11 ล้าน
งบบัตรทองลดลง 2 พันล้าน แต่ไปตั้งงบผู้ได้รับบริการสาธารณสุขกรณีโควิดอีก 825 ล้าน ซึ่งลดงบบัตรทองไปไม่พอ ยังเฉือนเนื้อของบัตรทองเพิ่มอีก
ในขณะที่งบผูกพันของกองทัพอากาศ มีงบผูกพันที่บอกว่าเลื่อนซื้ออาวุธไม่ได้ 8 พันกว่าล้าน กองทัพเรือมีเกือบ 5 พันล้าน และจะสร้างโครงการใหม่เพิ่มอีก 820 ล้าน เท่ากับงบดูแลผู้ป่วยโควิดของบัตรทองเลย ส่วนกองทัพบกมีงบผูกพันเกือบหมื่นล้าน และจะสร้างโครงการใหม่เพิ่มอีก 900 กว่าล้าน
งบสาธารณสุขไทยไม่มีงบเพื่อวัคซีนเลย ! จะมาดูแค่เข็ม 2 ไม่ได้ เพราะโลกเขาไปเข็ม 3-4 กันแล้ว รอแต่จะกู้เงินอย่างเดียว สิ่งที่ควรทำ อย่างการซื้อวัคซีน ไม่ทำ ทำไม่พอ ที่ยังไม่จำเป็นต้องทำ อย่างการซื้ออาวุธ กลับทำ ไม่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
อ่านจบแล้วถึงกับต้องคิดว่าทำไมคนๆ นี้ถึงไม่ได้เป็น รมว.สาธารณสุข กันนะ
ใช้ smartphone เป็นรึเปล่าก่อน ยกเรื่องโซเชี่ยลมีเดียขึ้นมาคือนับครั้งได้แค่ตอนตัวเองโดนด่า นอกนั้น ไม่รู้ ไม่รู้ ส่วนการจะคุยไลน์กันผมบอกเลยว่ายาก ผมมีอาจารย์คนนึงเป็นสลิ่ม เอะอะปริ้นอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่แก้งานในคอมมันง่ายและประหยัดกว่า
ไม่ใช่แค่บริหารแบบเช้าชามเย็นชาม แต่เป็นการจัดการแบบเช้าอย่าง เย็นอีกอย่าง รับกับความสับสนไม่ทันละเว้ยพี่บัวลอยยยยย
มันเห็นประชาชนเป็นปศุสัตว์ นึกถึงฉากเชือดไก่ใน White Tiger __"พวกไก่ที่ยังอยู่ในกรง ไม่มีตัวไหนกล้าหนี เพราะได้กลิ่นคาวเลือดของพวกที่ถูกเชือดไปก่อนหน้ามันต่อหน้าต่อตา ต่อให้มันรู้ว่ายังไงพวกมันก็ต้องถูกฆ่า มันก็ได้แต่ยืนรอรับชะตากรรม"
อ้างอิงจาก: ธนวัฒน์ วงค์ไชย - Tanawat Wongchai