เพื่อไทย เหน็บ นายกฯคิดได้หลังโดนคนด่าเยอะ ลดเพดานเงินกู้เหลือ 5แสนล้าน
วันนี้ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
…
ครบรอบ 7 ปีการปฏิวัติประเทศย่ำแย่ทุกด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณแล้ว 20.8 ล้านล้านบาท และจะใช้งบประมาณปี 2565 อีก 3.1 ล้านล้านบาท โดยจะกู้ชดเชยงบประมาณถึง 7 แสนล้านบาท
.
นอกจากนี้ยังจะมีการกู้อีก 5 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งแต่แรกจะกู้ 7 แสนล้านบาท แต่พอถูกตำหนิจากทุกฝ่ายอย่างมากตามฉายาดีแต่กู้ จึงต้องลดลงมาเหลือ 5 แสนล้านบาท
.
แต่ก็ยังมาก และการเก็บรายได้ปีนี้จะไม่ได้ตามคาดหมายอีกกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะทะลุ 9 ล้านล้านบาท และ ในปีนี้อย่างไรหนี้สาธารณะก็จะพุ่งทะลุเกิน 60% ของจีดีพี
เพราะพล.อ.ประยุทธ์ รู้แต่จะกู้แต่ไม่รู้จักการหารายได้ หนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนหนี้ล้นได้ อีกทั้งหนี้ครัวเรือนก็พุ่งทะลุเกิน 90% แล้ว หนี้เสียธนาคารก็เพิ่มมากขึ้น โดยที่การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์มองไปทางไหนก็เห็นแต่หนี้เต็มไปหมด แต่ไม่เห็นทางออกของประเทศที่จะพัฒนาต่อไปได้เลย
.
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ กล่าวต่อว่า 7 ปี ที่ผ่านมา เรื่องที่เสียดายที่สุดคือการเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ หากพรรคเพื่อไทยยังบริหารประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถพัฒนาประเทศได้ดีกว่านี้มาก
.
โครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะได้พัฒนาในหลายด้าน โดยเฉพาะทางคมนาคม และการศึกษา โดยที่หนี้สาธารณะก็จะไม่เพิ่มมากขนาดนี้ และในฐานะที่เป็น ส.ส.หนองคาย เรื่องที่เสียดายที่สุด คือโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมต่อไปถึงจังหวัดหนองคาย
.
ซึ่งจะพัฒนาจังหวัดหนองคายไปได้อีกมาก ทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งหากได้มีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จก็จะเชื่อมต่อกับเส้นทาง ลาว-จีน ที่จะเสร็จในเดือนธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้
.
ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการค้าที่จะเกิดขึ้น มูลค่าจากการท่องเที่ยวซึ่งหลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 นี้ นักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีการใช้จ่ายเป็นอันดับ 1 ของไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ ที่ต้องการท่องเที่ยวในเส้นทางนี้
.
ไปจนถึงการดึงเอานักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนในประเทศเอง ถือว่าเรากำลังเสียโอกาสจำนวนมหาศาล ซึ่งจากแผนการของรัฐบาลปัจจุบัน โครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2572 ซึ่งช้าไปถึง 9 ปี
อ้างอิงจาก: Thailand Vision