คนรักกันโต้เถียงกันมีแต่คนแพ้กับรอยแผลลึกในใจ
การโต้เถียงเพื่อเอาชนะกันของคนรักกัน จะมีแต่คนแพ้กับรอยแผลที่บาดลึกอยู่ในใจ
การทะเลาะกันด้วยเรื่องภายในครอบครัว ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกๆครอบครัว
ถ้าต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกและไม่ยอมรับฟังเหตุผลของกันและกัน ความบาดหมางในความสัมพันธ์มันก็จะสะสมจากเพียงเล็กน้อยก็จะกลายเป็นมากขึ้น
แต่คนที่รักกันถึงแม้จะเอาชนะกันได้ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายดีขึ้น เพราะอีกฝ่ายรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายแพ้ ก็จะรู้สึกเสียหน้าเสียเชิง ถ้าจะให้พูดยอมรับผิด
แต่ถ้าคนคนนั้นเป็นคนมีทิฐิมานะอยู่หากจะยอมรับ ยอมขอโทษหรือไปตามงอนง้อก็คงจะทำได้ยากการ
เป็นฝ่ายชนะไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากจะได้เพียงความสะใจที่อีกฝ่ายต้องยอมจำนนต่อความผิด
แต่คนที่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปซ้ำเติมคนที่เป็นฝ่ายผิดเสมอไป
คนที่เป็นฝ่ายถูกสามารถจะปรับเปลี่ยนวิธีการพูดให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าไม่โดนซ้ำเติมหรือไม่ทำให้เสียหน้าได้
เช่นอาจจะพูดว่า "ผมก็เคยทำผิดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ในตอนหลังผมรู้ตัว ผมจึงระวังมากขึ้น ส่วนคุณไม่ค่อยได้ทำผิดพลาดแบบผมจะผิดสักครั้ง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาเดี๋ยวต่อไปคุณจะระวังมากขึ้นแบบผมเอง"
หรืออาจจะพูดว่า "ผมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ที่ไม่ช่วยกันดูแลเอาใจใส่ในเรื่องนี้เลย เผลอปล่อยปละละเลย ให้คุณทำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่เป็นไรนะต่อไปเราจะมาช่วยกันระวังกันแล้วกัน ส่วนเรื่องนี้เดี๋ยวผมจะจัดการเอง"
เห็นไหมครับว่า แค่นี้บรรยากาศในบ้านที่อึมครึม มันก็จะเปลี่ยนเป็นแจ่มใส ปลอดโปร่งขึ้นมาได้ทันที ไม่ต้องมีใครมาต้องทนแบกรับความอัปยศ
ส่วนคนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ ก็ไม่ต้องหยิ่งผยองลำพองให้มันเป็นแผลลึกเก็บไว้ในใจของทั้งสองฝ่าย
การรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา จึงเป็นทางออกที่ดีกว่าการที่เราจะเอาชนะคะคานกันไปเป็นไหนๆ
เราเอาชนะคนที่เราเถียงด้วยได้ด้วยการเป็นฝ่ายลดราวาศอกลงเองกลับกลายเป็นว่าเราสามารถจะเอาชนะใจอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้งด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แบบนี้น่าจะดีกว่านะครับ❤️❤️