ใครๆก็ว่าผมเป็นเด็กติดเกมส์
ใครๆก็ว่าผมเป็นเด็กติดเกมส์
ลูก: แม่ครับผมขอเล่นเกมส์หน่อย
แม่: อยากเล่นก็ต้องช่วยแม่ทำงานบ้านก่อน
เด่วจะบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง
👉เก็บที่นอน
👉ล้างจาน
👉ซักผ้า/ตากผ้าของตัวเอง
👉กวาดบ้าน
ลูก: ได้ครับ ถ้าผมทำงานบ้านเสร็จแม่ต้องให้ผมเล่นเกมส์นะ
แม่: โอเครครับ แต่...แม่จะจำกัดชั่วโมงในการเล่นนะ
หลังจากที่ลูกทำงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้เป็นแม่เสร็จเรียบร้อย
ลูก: แม่ ผมทำเสร็จหมดแล้ว
แม่: ไหนๆพาแม่ไปดูซิ
ลูก: นี่ไงแม่
แม่: งานบ้างอย่างลูกยังทำไม่ค่อยเรียบร้อยนะ ไม่ต้องรีบทำให้เสร็จเพื่อไปเล่นเกมส์หรอก รอบหน้าถ้างานไม่เรียบร้อย เกมส์ก็ไม่ต้องเล่น
ลูก: ครับ
หลังจากนั้นผู้เป็นแม่ก็อนุญาตให้ลูกเล่นเกมส์
ลูกนั่งเล่นอยู่ได้สัก10นาที
ผู้เป็นพ่อกลับบ้าน สิ่งที่ผู้เป็นพ่อเห็นคือ ลูกนั่งเห็นเกมส์
พ่อ: วันๆนั่งเล่นแต่เกมส์ ไม่ทำอะไรเลย หนังสือก็ไม่อ่าน หยุดเล่นได้แล้ว
ลูก: วางมือถือลงอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่เค้าไม่ได้หยิบหนังสือมาอ่าน เค้านั่งก้มหน้าแล้วเดินไปห้องนอน
ผู้เป็นแม่รู้ทันที่ว่าตอนนี้ ลูกไม่โอเค
แม่จึงเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนลูก สิ่งที่เห็นคือ ลูกร้องไห้
ลูก: ผมเพิ่งจะได้เล่นเกมส์ไม่ถึง10นาทีเลย ทำไมพ่อถึงพูดกับผมแบบนั้น วันนี้ผมก็ช่วยงานแม่หลายอย่าง แล้วประโยคที่พ่อพูดว่า"ผมไม่ทำอะไรเลย วันๆนั่งเล่นแต่เกมส์" พ่อรู้ได้ไง พ่อไม่ได้อยู่กับผมสักหน่อย
คุณคิดว่าเด็กคนนี้จะรู้สึกยังไง
ก่อนหน้านี้เด็กคนนี้เป็น"เด็กคลั่งไคล้เกมส์"มากคนนึง ถ้าไม่ให้เล่น จะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวไปเลย ถึงขนาดปามือถือลงพื้น และแน่นอนไม่มีใครเห็นปัญหานี้หรือถ้าเห็นก็ไม่ได้มาช่วยแก้ไข
การที่เด็กคนนี้ติดเกมส์ไม่ได้เกิดจากแม่ที่ตามใจให้ลูกใช้มือถือหรอกนะ แต่มันมีต้นตอมาจากที่อื่น
ผู้เป็นแม่พยายามเหลือเกินในการแก้ปัญหาของลูก เป็นการแก้ปัญหาอยู่คนเดียว
คุณรู้รึไหมผู้เป็นแม่ใช้เวลาถึง2ปี ใช้ทั้งไม้อ่อน ไม้แข็ง ลองมาหมด ในระหว่างการแก้ปัญหาก็ต้องเจออยู่แล้ว คำพูดบั่นทอนต่างๆนานา
จนในที่สุดวันนึงผู้เป็นแม่ก็สามารถทำให้เด็กอยู่ในกฎได้ จากเด็กที่คลั่งไคล้เกมส์ สู่เด็กที่ชอบเกมส์ ลูกสุขใจ แม่ก็สบายใจ
รู้รึไม่?เด็กที่เล่นเกมส์มีด้วยกัน3ระดับ
1.ชอบเล่น แต่ไม่ติด สามารถควบคุมตัวเองได้
2.คลั่งไคล้ หมกหมุ่น เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เช่น ตั้งเวลาไว้ว่าเล่น1ชั่วโมง แต่อดใจไม่ไหว
3. อาการติด ไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย เสียการเรียน ควบคุมตัวเองไม่ได้