วันนี้กับ!! คำวิพากษ์วิจารณ์และคำสบประมาท นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังเปิดตัวหาเสียง ในปี54
“เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง ไม่ได้เข้ามาเล่นการเมือง แต่เสนอตัวรับใช้ประชาชน อยากเห็นประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งแล้วเดินหน้าไปด้วยกัน และอยากเห็นความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมสร้างความปรองดอง ไม่คิดแก้แค้น แต่คิดจะแก้ไข”
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
16 พฤษภาคม 2554
16 พฤษภาคม 2554 ชื่อ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ก็ปรากฎขึ้นในแวดวงการเมือง เมื่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ชื่อนี้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 สู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังการเปิดตัว เสียงวิพากษ์วิจารณ์และคำสบประมาทต่างๆ ปรากฎขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการวิเคราะห์ไปที่ประสบการณ์ทางการเมืองหากเปรียบกับนายอภิสิทธิ์ที่อยู่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน อีกทั้งระยะเวลาที่กระชั้นชิดเพียง 49 วันก่อนถึงกำหนดวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทำให้หลายฝ่ายจับตาการเคลื่อนไหวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย
ในวันเปิดตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้แถลงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่า “รู้สึกว่าตำแหน่งนี้มีคุณค่าและมีเกียรติมาก โดยส่วนตัวมีความพร้อมและจริงใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ รวมทั้งมั่นใจว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะตอบโจทย์ประชาชน เนื่องจากพรรคมีทีมงานและที่ปรึกษาที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อดีต”
แต่แล้วทุกคำสบประมาทก็หายไป เพราะในที่สุดภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. 265 จาก 500 ที่นั่ง นับเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ไทยที่พรรคการเมืองพรรคเดียวครองเสียงข้างมากในสภา และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเป็น ‘นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย’
ข้อเท็จจริงอีกด้าน ชัยชนะของนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตา แต่เกิดจากการวางแผนและมีการเตรียมตัวเข้าสู่สนามการเมืองมากกว่า 2 ปีโดยอ้างอิงจากเอกสารจากวิกิลีกส์ที่เผยบันทึกลับของ เอริก จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยที่เขียนรายงานต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า หลังพบปะกับนาวสาวยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 นางสาวยิ่งลักษณ์เริ่มมีบทบาททางการเมืองอย่างเงียบๆ และน่าจับตามองอย่างยิ่ง แถมก่อนกลับขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์จับมือกับทูตจอห์นตามปกติ นายนพดล ปัทมะ ซึ่งเดินทางไปด้วยยังพูดติดตลกกับทูตจอห์นว่า “คุณเพิ่งจะจับมือกับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย”
นอกจากนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ยังมีประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่ของตระกูลชินวัตร ตั้งแต่เป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะลาออกเพื่อลงสู่สนามการเมือง
การที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรขึ้นมานำทัพพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอคือน้องสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร แต่ด้วยภาพลักษณ์ ความสามารถ และการเตรียมตัว เธอจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด และสามารถพิสูจน์ได้จากการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนั้นอย่างท่วมท้น
อ้างอิงจาก: https://board.postjung.com/851713
https://www.facebook.com/politics991/photos/a.112306483711166/324248189183660/