ก้อนแก๊สบ่มผลไม้คืออะไร
ช่วงฤดูร้อนแบบนี้เป็นช่วงที่เมืองไทยอุดมไปด้วยมะม่วงที่กำลังสุก
จะสังเกตว่าปีนี้มะม่วงออกจะดกเป็นพิเศษเพราะฝนตกดี ตอนที่ขับรถไปตามทางในหมู่บ้านก็จะเห็นต้นมะมวงมีลูกห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด
ถ้าบ้านใครมีต้นมะม่วงอาจจะเคยสังเกตว่าถ้าเราปล่อยให้มะม่วงสุกตามธรรมชาติผิวของมันก็จะไม่ค่อยสวย
แต่ถ้าเราทำให้สุกด้วยการบ่มด้วยก้อนแก๊สจะทำให้ผิวของมะม่วงเหลืองสวยสม่ำเสมอและสามารถกำหนดให้สุกในวันที่เราต้องการได้
ก้อนแก๊สหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าถ่านแก๊สมีชื่อทางเคมีว่า
"แคลเซียมคาร์ไบด์" (CaC2)
ถ้าเราใช้บ่มกล้วยจะทำให้กล้วยสุกได้ภายใน2 วันวิธีการคือเอาก้อนแก๊สห่อด้วยใบตองหรือกระดาษแล้วนำไปซุกไว้ในภาชนะที่บรรจุผลไม้ให้มิดชิดแล้วตั้งทิ้งไว้เฉยๆ
เมื่อถ่านแก๊สได้รับความชื้นจากผลไม้ก็จะปล่อยก๊าซอะเซทิลีนออกมาช่วยเร่งให้ผลไม้สุกเร็วขึ้นและสุกได้สม่ำเสมอมากขึ้น
ใครที่ไม่เคยรู้จักก๊าซอะเซทิลีนอาจจะไม่รู้ว่ามันมีอันตราย
คุณสมบัติทั่วไปของอาเซทิลีนเป็นก๊าซที่ไม่มีสีและไวไฟมาก
ประกอบด้วยอะตอมของไฮโดรเจนและคาร์บอน(C2H2)ใช้ในงานเชื่อมตัดโลหะโดยผสมกับออกซิเจนในปริมาณที่เหมาะสมจะให้ความร้อนถึง 3,000 °C (เซลเซียส)
มีกลิ่นเหม็นคล้ายกระเทียม ความเป็นพิษไม่รุนแรงต่อร่างกาย เพียงแค่ทำให้เกิดอาการมึนงง วิงเวียนศีรษะเท่านั้น
แต่กากของแคลเซียมคาร์ไบด์ที่เหลืออยู่จากการบ่มผลไม้แล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพราะมันเป็นวัตถุที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง
ดังนั้นการใช้งานแคลเซียมคาร์ไบด์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าแก๊สบ่มกล้วยจึงควรทำด้วยความระมัดระวัง
ไม่ไปสัมผัสหรือสูดดมโดยตรง อีกอย่างการที่มันเป็นวัตถุไวไฟจึงควรเก็บไว้ให้พ้นจากเปลวไฟหรือแหล่งความร้อน เพราะอาจเกิดการระเบิดไฟไหม้ขึ้นได้
อะไรที่มีคุณอนันต์ก็ย่อมมีโทษมหันต์เสมอ