พระนักสู้ ยอมเสียดวงตา ไม่ยอมเสียสัจจะ
พระสายปฏิบัติเข้มงวดสมัยพุทธกาล ท่านหนึ่ง ชื่อพระจักขุบาล ช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน ตั้งจิตอธิษฐานว่าจะปฏิบัติธรรมโดยใช้อิริยาบถเพียง 3 ท่า คือ ท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน ไม่ใช้ท่านอน พอผ่านไป 1 เดือน โรคในจักษุก็เกิดขึ้น สายน้ำไหลออกจากตาทั้ง 2 ข้าง มีอาการปวดแสบเหมือนลมแทงตา จึงให้หมอตามารักษา หมอหุงน้ำมันหยอดตาให้ และสั่งให้นอนหยอดจึงจะได้ผล พระจักขุบาลก็นั่งหยอด ไม่ยอมนอนหยอด ถึงหมอจะขอร้องยังไง ท่านก็ไม่ยอมนอนหยอด เพราะกลัวเสียสัจจะ สุดท้ายหมอยอมถอนตัว ไม่รักษาต่อ พระจักขุบาลจึงมานั่งหยอดตาเอง ดวงตาทั้ง 2 ข้างมีอาการประหนึ่งว่าจะแตก แต่พระเถระไม่ยอมทิ้งความตั้งใจ ยังไปต่อ และเตือนตนเองว่า “ จักษุที่ท่านถือว่าเป็นของตัว จงทรุดโทรมไปเถิด แตกไปเสียเถิด เหตุไฉนท่านจึงประมาทอยู่” แล้วก็ปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้นไม่ลดละ ไม่คำนึงถึงดวงตาทั้งสองข้างที่กำลังจะบอดสนิท
สุดท้าย ทั้งดวงตา ทั้งกิเลสของท่านก็ แตกพร้อมกัน ตาบอดสนิท แต่ใจสว่างจ้า เป็นพระอรหันต์ตาบอด ถ้ามีกองเชียร์เฝ้าติดตามดูท่านอยู่ คงสลดหดหู่ใจไปตามๆ กัน แต่พระนักสู้อย่างพระจักขุบาล มีคนยกย่องบูชาความเด็ดเดี่ยวของท่านมากมาย การกระทำของพระเถระ เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ไม่แน่จริง
ไม่ควรเลียนแบบ ส่วนใครจะตั้งใจ อธิษฐานใจอย่างไร คิดให้ถี่ถ้วนก่อนจึงอธิษฐาน ครับผม