“บิ๊กตู่” ปัด ไม่เกี่ยว สภาล่ม พ.ร.บ.ประชามติ-เชิญเอกชน หารือเพิ่มวัคซีน

“บิ๊กตู่” ปัด ไม่เกี่ยวรัฐบาล สภาล่ม ถกร่างพ.ร.บ.ประชามติ ชี้ เหตุคงกลัวติดโควิด-19 วันนี้ เชิญรพ.เอกชนร่วมหารือ ทำอย่างไรเราจะมีวัคซีนเพิ่ม รับต้องหาทาง แก้กฎ อย. ยัน เดือนหน้าวัควีนเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส

วันที่ 9 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงหลังประชุมศบค.ชุดเล็ก ว่า ที่ผมพูดว่า "อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด" โควิด-19 ตราบใดยังควบคุมไม่ได้ทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เกิดแล้วจะจบแบบปุ๊บปั๊บ ก็ต้องแก้ไข วันหน้าจะมีอะไรตามมาอีกหรือเปล่า ก็ไม่รู้ สรุป นายกฯ ให้ความสำคัญในการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เมื่อมีเหตุการณ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็ต้องพูดคุยกัน วันนี้ผมเชิญทุกฝ่ายมาหารือร่วมกัน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เลยเชิญ รพ.เอกชนมาด้วย หารือ เราทำอย่างไรให้มีวัคซีน เพิ่มขึ้น ก็ต้องไปหาทางแก้ปัญหา ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) องค์การเภสัชกรรม เรื่องนำเข้ามาอย่างไร เราต้องไปหาทาง ผมเลยตั้งกรรมการให้ "หมอปิยะสกล" เป็นหัวหน้าตอนนี้ เรากำลังเดินหน้าไปสู่วัคซีนเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ก็ต้องไปหารือให้เรียบร้อย ยืนยันว่า รัฐไม่ได้ปิดกั้นอะไรอยู่แล้ว เราต้องไปแก้กฎตรงนี้ว่า จะทำอย่างไร

นายกฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้เท่ากับมี 2 ทางเลือก คือ 1. วัคซีนที่รัฐจัดหา และ 2. วัคซีนที่เอกชนหามาเป็น "วัคซีนทางเลือก" และเดือนหน้า วัคซีนจะเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส ซึ่งแต่เดิมได้มา 3.5 แสนโดส เว้นแต่มีปัญหาที่ต้นทาง ยืนยันว่า ตอนนี้ แม้มีการติดเชื้อเพิ่มวันละประมาณ 400 คน เราก็ยังควบคุมสถานการณ์ได้

วันนี้ ได้ข่าว หมอกับพยาบาลติดเชื้อโควิด-19 เข้าไปอีก ก็ต้องมีการจัดทำ รพ.สนาม ส่วนเรื่องน้ำยาตรวจไม่เพียงพอ ยืนยันว่า มีเพียงพอ ดังนั้นสงกรานต์ปีนี้ ขอเป็นสงกรานต์ นิวนอร์มอล ด้วย และทางที่ดีที่สุด คือ อยู่รดน้ำกับพ่อ-แม่ แต่ต้องใส่หน้ากากทั้ง 2 ฝ่ายนะ ผมไม่สบายใจเห็นภาพ รดน้ำ ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย

"ขณะเรื่องสถานบันเทิงติดโควิด-19 นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ ถือเป็นบทเรียนพอสมควรแล้ว หยุดซะที สถานที่ "อโคจร" อย่าไปหยุดซะที นายกฯ ยังไม่เคยไปเลย 10 กว่าปีมาแล้ว ส่วนคณะรัฐมนตรี ยืนยัน ทุกท่านยังทำงานกับผม ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผมได้ทุกคน ทุกคนต้องรับผิดชอบ ผมก็ต้องรับผิดชอบทำงาน" นายกฯ กล่าว...

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวย้อนถาม ผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ตัองเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ เหตุ ส.ส.ไม่เข้าร่วม หวั่นติดเชี้อโควิด-19 ว่า สาเหตุเกิดจากอะไรล่ะ ก็เพราะว่า มีคนติดเชื้อ และตนไม่สามารถไปบังคับให้เขาร่วมประชุมเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่เหรอ ก็เพราะโควิด มันติดเขาก็กลัวติดโควิดละมั้ง เรื่องนี้ยืนยันว่า ตนไม่ได้ไปยุ่งอะไร พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะผ่านหรือไม่ผ่าน หลายอย่างที่เสนอผ่านรัฐบาลไปแล้วคือ สิ่งที่รัฐบาลเห็นชอบไปแล้ว จากนั้นก็สุดแล้วแต่ว่า จะมีการไปแปรญัตติอย่างไร ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการและสมาชิก ผ่านหรือไม่ผ่านตนคุมไม่ได้หรอก ในทุกๆ เรื่องไม่ว่า จะกฎหมายอะไรก็ตาม เพราะเป็นคนละหน้าที่กันแล้ว หน้าที่แรกคือรัฐบาลเริ่มต้น ถ้าหลุดจากรัฐบาลไปแล้ว ไปถึงรัฐสภานั้นคือรัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว แต่จะออกได้แค่ไหนมากน้อยอย่างไร เป็นเรื่องของสภาเป็นผู้พิจารณาทุกคนมีความคิดไม่ต้องไปสั่งใคร