สัมภาษณ์แฮรี่-เมแกน เป็นเหตุ พระราชวังร้อนระอุ เพราะ #AbolishTheMonarchy ติดเทรนโลก
หลังจากแฮร์รีกับเมแกนออกมาให้สัมภาษณ์ความตึงเครียดตอนสมัยอยู่ร่วมกับราชวงศ์ ตอนนี้ในสหราชอาณาจักรมีแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หรือยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ติดเทรนด์ท็อป 5 ในทวิตเตอร์ทั่วโลก ทั้งระหว่างและหลังออกอากาศ ขณะที่ #Abolishthemonarchy ก็กลายเป็นแฮชแท็กที่มีผู้ทวีตมากถึงกว่า 2 หมื่นครั้ง
รายการสัมภาษณ์รายการนี้ มีคนอเมริกันติดตามดูสดๆ ถึง 17 ล้านคนเลยทีเดียว
บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่เพียงเปิดเผยความตึงเครียดภายในราชวงศ์อังกฤษเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความชิงชังที่เจ้าชายแฮร์รีมีต่อสื่ออังกฤษ โดยเฉพาะพวกสื่อซุบซิบแท็บลอยด์ที่ตามจิกกัดความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับ เมแกน มาตั้งแต่ต้น
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อังกฤษทุกสำนักยังให้พื้นที่เสนอข่าวนี้มากเป็นพิเศษ โดยในช่วงเที่ยงวันจันทร์ (8) ตามเวลากรุงลอนดอน เว็บไซต์ เมล์ ออนไลน์ ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับเจ้าชายแฮร์รีและ เมแกน ไปแล้วถึง 24 ชิ้น ขณะที่ เมล์ ออน ซันเดย์ ซึ่งเพิ่งจะถูกศาลตัดสินแพ้คดีละเมิดความเป็นส่วนตัว เมแกน ก็ตีพิมพ์สกู๊ปพิเศษความยาว 11 หน้า ก่อนที่บทสัมภาษณ์จะถูกออกอากาศ
ทางด้านของ เดลี เอ็กซ์เพรสส์ ก็นำเสนอข่าวและบทความเกี่ยวกับดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มากกว่า 30 ชิ้น
รายงานส่วนใหญ่เน้นไปในเรื่องที่ เมแกน ออกมาเผยว่า ‘อาร์ชี’ บุตรชายของเธอซึ่งจะอายุครบ 2 ขวบในเดือน พ.ค. ไม่ได้รับบรรดาศักดิ์ ‘เจ้าชาย’ เนื่องจากคนในราชวงศ์กังวลว่าเขาจะเกิดมามีผิวสีคล้ำ.
ที่มา REUTERS
การที่เมแกนให้สัมภาษณ์กับโอปราห์ วินฟรีย์ ทั้งประเด็น เคยคิดฆ่าตัวตาย ห้ามให้สัมภาษณ์ เจ้าชายแฮรี่กลัวสถานการณ์ของเจ้าหญิงไดอานาซ้ำรอย ความคิดเหยียดผิวในราชวงศ์ จนตอนนี้ส่งผลให้เกิดกระแสโค่นล้มราชวงศ์อังกฤษตามมาอย่างร้อนแรง
รูปปั้นควีนอลิซาเบทที่ถูกพ่นสีที่ฐานด้วยคำว่า 'ปรสิต'
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของกระแสนี้ด้วย เพราะมีมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว
สรุปที่มาของกระแส #AbolishTheMonarchy ในอังกฤษ 1. อังกฤษมีกำหนดการจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป...
โพสต์โดย ธนวัฒน์ วงค์ไชย - Tanawat Wongchai เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2019
ยังมีฝ่ายที่สนับสนุน และฝ่ายที่ไม่สนับสนุนของการมีอยู่ของระบบกษัตริย์ แต่คนอังกฤษมีสิทธิเสรีภาพมากๆ ในการพูดถึงเรื่องนี้
อยากรู้จริงๆ ว่าทางราชวงศ์จะออกมาแก้เกมส์อย่างไร เพราะจริงๆ เรามักจะได้ยินเรื่องราวออกมาจากฝ่ายเมแกนมากกว่า
ใครจะไปคิดว่าหลานสะใภ้ของหลานชายที่รักจะมาสร้างเรื่องสั่นคลอนราชวงศ์ และทำให้เป็นข่าวกอสซิปไปทั่วโลกได้อีกครั้ง จากหลายๆ กรณีในอดีตอย่าง เจ้าหญิงไดอาน่า หรือข่าวอื้อฉาวของเจ้าชายแอนดรูว์ จนมาถึงข่าวลูกสะใภ้วังหลวงตัวแสบอย่างเมแกน
โปรดติดตามชมตอนต่อไป ..