รวบเคนลี เทคมีเอ้าท์ คดีหลอกต้มตุ๋น
รวบเคนลี เทคมีเอ้าท์ คดีหลอกต้มตุ๋นผู้เสียหายหลายคดี-ชักชวนซื้อไอโฟน 12 แต่ไม่ได้ของ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตำรวจจับกุม นายอธิคุณ โชติธนัสปิติ อายุ 25 ปี หรือเคนลี เทคมีเอ้าท์ ไทยแลนด์ หลังหลอกต้มตุ๋นผู้เสียหายหลายรายโดยชุดจับกุมควบคุมนายอธิคม ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีต่อมามีผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่มีมูลค่าเสียหายรวมกันกว่า 10 ล้านบาท ทราบข่าวได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา
.
ผู้เสียหายรายหนึ่งอายุ 52 ปี ทำธุรกิจค้าขายหน้ากากอนามัย กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลานสาว อายุ 25 ปีของตน ซึ่งทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางรักรู้จักกับนายอธิคมจากแอฟหาคู่ จีบกันอยู่สักพัก นายอธิคมอ้างว่า สามารถซื้อไอโฟน12 ได้ในราคาถูก ประมาณ 3 หมื่นบาท และได้ของแถมจำนวนมาก หลานสาวตนโอนเงินไปให้ แต่ไม่ได้ของถูกอ้างสารพัดว่ารอลงนามซื้อขายกับหุ้นส่วน 3 คน บัญชีของนายอธิคมถูกอายัดบ้างให้โอนเข้าบัญชีหุ้นส่วนคนอื่น โอนอยู่หลายครั้ง รวมเงินหลายแสนบาท และบอกว่าเงินที่โอนมาก่อนหน้านี้จะคืนให้ จึงหลงเชื่อ
.
ต่อมานายอธิคมใช้อุบายใหม่ ถ้าหลานสาวตนต้องการเงินคืนทั้งหมดต้องช่วยตัวเองผ่านทางโทรศัพท์ให้ดู แต่ก็ไม่ยอมคืนเงินให้อีก และข่มขู่ว่าจะเอาคลิปช่วยตัวเองไปปล่อยให้อับอาย หลานสาวตนเกิดความกลัวต้องโอนเงินให้อีกหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ทั้งนี้หลานสาวตนซึ่งรักเหมือนลูกจะมาขอเงินตนตลอดจึงสงสัยจนถามจึงรู้ความจริง และเข้าแจ้งความที่สน.ทุ่งครุ
.
ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายที่เล่าว่าผู้ต้องหาทำทีชักชวนให้ตนเองซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 12 ในราคา 3หมื่นบาทพร้อมของแถมจำนวนมาก ซึ่งถูกกว่าราคาท้องตลาดประกอบกับตัวเองเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท จึงเชื่อใจสั่งซื้อไปจำนวน 1 เครื่อง แต่ผ่านมานานเป็นเดือนกลับยังไม่ได้โทรศัพท์ ตนเองจึงทวงถามผู้ต้องหาอ้างว่าเปิดบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอางก่อนจะประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้บัญชีธนาคารของตนนั้นถูกอายัด จึงขอร้องให้ตนช่วยโอนเงินมาที่บัญชีธนาคารของผู้ต้องหาอีกหลายสิบครั้ง เพื่อใช้เป็นเครดิตให้ธนาคารเชื่อว่าบัญชีมีความเคลื่อนไหว ตนเองอยากได้เงินที่จ่ายไปก่อนหน้าคืน จึงยอมโอนเงินให้ ประกอบกับมีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาแจ้งยอดการโอนเงินทุกครั้ง
นอกจากนี้ทางผู้ต้องหาเองยังข่มขู่ว่าหากไม่ยอมโอนเงินมาช่วยตนจะถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารเเละฉ้อโกงไปด้วย จึงยอมโอนเงินเพิ่มไปให้อีกหลายครั้ง ภายในระยะเวลากว่า 3 เดือน เบ็ดเสร็จมูลค่าความเสียหายร่วม 7เเสนบาท
.
ทั้งนี้ภายหลังผู้เสียหายนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ ก็พบประวัติเคยฉ้อโกงมาแล้วหลายคดี และพบมีผู้เสียหายปัจจุบันรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ ซึ่งจากการสอบถามในกลุ่ม ก็พบมีพฤติการณ์หลอกลวงในแบบอื่นๆ อีก เช่น หลอกขายสินค้าแบรนด์เนมแต่ไม่ส่งสินค้าให้ หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เหตุเกิดช่วงเดือนมีนาคมปีก่อน ถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังพบมีพฤติการณ์บ่ายเบี่ยง ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือญาติ หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความหรือโพสต์ประจานลงโซเชียลมีเดีย
.
ส่วนเหตุที่ทำให้แต่ละคดีล่าช้าออกไป เพราะชายคนนี้พยายามคืนเงินบางส่วน เพื่อให้ผู้เสียหายมีความหวังว่าจะได้เงินที่เหลือกลับคืนมา และหากถูกอายัดเงินในบัญชี ก็จะใช้เรื่องนี้ไปกดดันผู้เสียหายว่าไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ เพราะเงินถูกอายัดอยู่ และหากอยากได้เงินคืนต้องส่วนเงินมาเพิ่มเพื่อใช้เป็นเครดิตในบัญชีธนาคารทำให้เกิดเป็นความเสียหายไม่สิ้นสุด
.
รายงานอีกว่าผู้ต้องหารายนี้ มีชื่อเล่นว่า “เคนลี” เคยเข้าร่วมหาคู่รัก ในรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์เเละรายการรู้ไหมใครโสดอีกด้วย
ขอบคุณ The tempo news
อ้างอิงจาก: The tempo news, ธนากร ใจซื่อ